Author Topic: “ตุ๊ก” น้ำตาคลอ อ้ำอึ้งมือที่3 ทำรัก “บ๊วย” สั่นคลอน ลั่นทุกวันนี้ขออยู่เพื่อลูก  (Read 1207 times)

0 Members and 2 Guests are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


“ตุ๊ก” น้ำตาซึม รับมีปัญหาครอบครัว ลั่นต้องประคับประคองผ่านไปให้ได้ เจ้าตัวปัดตอบเรื่อง “โม” แจงถ้าประเด็นไหนไม่เคลียร์ให้ไปถาม “บ๊วย” เอาเอง แต่ยันยังเชื่อใจสามี เปรยเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ต้องหันกลับมามองตัวเองว่าทำหน้าที่ของภรรยาบกพร่องหรือไม่ พร้อมบอกทุกวันนี้ขออยู่เพื่อลูก
       
       เจอปัญหากระแสข่าวเรื่องมือที่สามทำครอบครัวร้าวฉาน สำหรับอดีตดาราและนางแบบสาว “ตุ๊ก ชนกวนันท์” และ สามีพิธีกรหนุ่ม “บ๊วย เชษฐวุฒิ วัชรคุณ” หลังมีข่าวว่า “โม นภัสนันท์ พสวงศ์” ทายาทร้านทองชื่อดังดอดตีท้ายครัว ซึ่งก่อนหน้านี้ฝ่ายชายได้ตั้งโต๊ะแถลงไปแล้ว ซึ่งในวันเดียวกันนั้นตุ๊กกับบ๊วยก็มีคิวต้องออกงานอีเวนท์งานหนึ่ง แต่ปรากฏว่าก่อนเริ่มงานไม่กี่ชั่วโมง ทางพีอาร์ก็ได้แจ้งให้ทราบว่าสาวตุ๊กเข้าโรงพยาบาลด่วนจึงไม่สามารถมาร่วมงานได้
       
       ล่าสุดสาว “ตุ๊ก” ได้มาร่วมงานเปิดตัวหนังสือ “แม่หนิงและเบลล่า กับนิทานธรรมะหรรษา” ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน เจ้าตัวก็พร้อมที่จะเปิดใจถึงกรณีกระแสข่าวดังกล่าว ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเป็นระยะ
       
       “วันนั้นที่ไม่ได้ไปงานเพราะตุ๊กมีอาการป่วย คือจริงๆ แล้วมันเป็นหลายอย่างทั้งมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ซึ่งหมอบอกว่าสาเหตุอาจเป็นได้หลายอย่าง ถามว่าเกิดจากการเครียดเรื่องข่าวหรือเปล่า จริงๆ แล้วข่าวที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำให้ตุ๊กเครียดนะ เราต้องทำหลายอย่าง อาจจะเป็นเรื่องการทานอาหารเราเอง ก็เพิ่งคลอดลูกอาจมีอาการของฮอร์โมนน่าจะมาจากเรื่องลูกมากกว่า คนที่มีลูกก็จะรู้ว่าคนเป็นแม่อาจจะมีการเครียดเพราะเลี้ยงลูกได้”
       
       เจ้าตัวไม่ยอมรับว่าเรื่องข่าวมีมือที่สามจริงหรือไม่ บอกทุกวันนี้ขอทำทุกอย่างเพื่อรักษาสถานภาพของครอบครัวไว้ บอกเรื่องบางเรื่องรู้แต่ไม่จำเป็นต้องพูดก็ได้
       
       “ถามว่ามีปัญหาเรื่องมือที่สามจริงหรือเปล่า อืม... (นิ่ง) ตุ๊กว่าเรื่องบางเรื่องตุ๊กคงพูดได้แค่นี้ บางเรื่องเราอาจรับรู้แต่ไม่จำเป็นต้องพูด เพราะมันไม่ได้สำคัญอะไรกับชีวิตตุ๊ก ส่วนเรื่องเคลียร์ปัญหามือที่สามกันหรือยัง(นิ่งและเงียบไปครู่) เอาเป็นว่าเอาที่ตอบได้นะ ก็คือเรื่องบางเรื่องแค่รับรู้ สำหรับตุ๊กมันไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุดในชีวิต สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตก็คือเราต้องเลี้ยงลูกให้มีความสุขและเป็นคนดี เพราะฉะนั้นเรื่องอื่นไม่สำคัญ เราก็อาจจะแค่รับรู้ไว้ มันไม่ใช่ปัญหา อย่างตัวตุ๊กเองก็ไม่คือว่าจะทำอะไรแบบนั้นได้
       
       “เรื่องที่เป็นข่าวตุ๊กก็ไม่มีอะไรพูด ความสัมพันธ์กับพี่บ๊วยตอนนี้เราเองก็พยายามรักษาความสัมพันธ์สถานะครอบครัวเพราะเรามีลูกและลูกยังเล็ก เราก็เป็นแม่บ้านต้องทำหน้าที่ให้ดี (นิ่งเงียบไป) คือเรื่องของครอบครัวของเราก็เหมือนคนทั่วๆ ไปที่อาจมีปัญหากันได้หลายๆ อย่าง แต่การที่เราตัดสินใจเป็นครอบครัวแล้วมีลูกแล้ว หน้าที่ของเราก็คือจะต้องฝ่าฝันเอาชนะอุปสรรคให้ได้ และเราไม่ได้ปรับความเข้าใจเพราะว่ามีข่าวออกมา เราปรับตามสถานะครอบครัวเวลามีเรื่องอะไรให้มันไปสู่จุดที่ให้มันดีสำหรับลูกและเราสองคน”
       
       “เรื่องพี่เขามาขอโทษเรื่องข่าวที่เกิดขึ้นไหม จริงๆ แล้วเหมือนกับว่าเราอยู่ด้วยกันทุกวัน แต่ไม่ใช่ว่าต้องมีข่าวแล้วเพิ่งมาขอโทษ ไม่ใช่ว่าเราอยู่ด้วยกันทุกวัน เราอยู่กับตัวจริง แต่ที่ไม่ได้คุยกัน ไม่ได้เคลียร์กันก็คงเป็นเพราะเราต่างคนต่างเหนื่อย”
       
       “หลายคนมองว่าที่พี่บ๊วยแถลงข่าวในวันนั้นไม่ค่อยเคลียร์ ตุ๊กว่าการที่ผู้รับสารคิดว่ามันเคลียร์หรือไม่เคลียร์จริงๆ ตุ๊กยังไม่ได้ดูเต็มๆ อาจแค่ดูแว้บๆ เพราะไม่มีเวลาดูเลย ไม่รู้ว่าที่พูดมันขนาดไหน หรือคนอาจจะฟังแล้วไม่เคลียร์ ตุ๊กรู้เรื่องของตุ๊กอยู่แล้วถ้าคนอื่นฟังแล้วไม่เคลียร์ก็ไว้ไปถามเขาใหม่ดู”
       
       บอกส่วนตัวไม่มีปัญหาคาใจอะไรเพราะปัญหาของตนเองคือการเลี้ยงลูกให้ดีที่สุด แต่ยังมั่นใจในตัวสามีเพราะเป็นหน้าที่ ที่ดีของภรรยา
       
       “ส่วนปัญหาค้างคาใจยังมีอยู่ไหม ตุ๊กจะบอกว่าจริงๆ บางอย่างมันเป็นปัญหา บางอย่างอาจเคลียร์ไม่ได้ แต่บางอย่างเราก็ไม่อยากเคลียร์คือมันไม่ใช่ปัญหาของเรา ปัญหาของตุ๊กตอนนี้คือลูกสองคนจะเข้าใจไหม คนโตจะเข้าใจไหมว่าเรามีน้อง แค่เรื่องลูกเท่านั้น อย่างจะห่วงว่าน้องแพรวคนโตจะเข้าใจไหมว่ามีน้องแล้วจะทำยังไง ให้ไม่รู้สึกว่าเราต้องดูแลน้อง โฟกัสที่น้องอย่างเดียวคือตุ๊กอยากเลี้ยงลูกให้ดีค่ะ”
       
       “ถามว่ายังมั่นใจพี่บ๊วยอยู่ไหม ตุ๊กว่าหน้าที่ของภรรยาคือไว้ใจและเชื่อใจสามี และเชื่อใจกัน วันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นก็คอยรับรู้ความเป็นไป ทุกวันนี้ก็คือต้องเชื่อใจ ประคับประคองสถานภาพของครอบครัวเราให้ดี ให้ผ่านทุกอย่างไปให้ได้ หลายคนอาจมองว่าทุกวันนี้อยู่เพื่อลูกไม่ใช่สามีภรรยาแล้ว ซึ่งตุ๊กก็ยังเชื่อว่าครอบครัวยังไงก็เป็นครอบครัวอยู่แล้ว บอกได้เลยทุกวันนี้มีชีวิตอยู่เพื่อลูก”
       
       “ส่วนข่าวว่าที่จริงผู้ใหญ่อยู่เบื้องหลังอันนี้ตุ๊กไม่รู้ ตุ๊กไม่ได้คิดอะไรถึงขั้นนั้น เราคิดแต่เรื่องลูกเท่านั้นค่ะ อยากให้เรากลับมาเป็นครอบครัวให้ได้เร็วที่สุดเพื่อลูก เรื่องพี่จะมาสัญญาเขาก็คงจะทำไมได้เพราะข่าวเป็นข่าวขึ้นมาเองจะเป็นข่าวหรือไม่เป็นข่าวพี่บ๊วยคงควบคุมอะไรไม่ได้”
       
       “ตอนนี้มีคนให้กำลังใจเยอะมาก ตอนแรกเรายังไม่ได้ดูข่าวเลย เรารู้อยู่แล้วว่ามีคนรักทุกคนห่วงมาก เพราะเขาไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวเรา ตุ๊กเชื่อว่าทุกคนคงไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ ไม่น่าจะมีใครทำแบบนี้ได้ทุกคนก็เป็นห่วง ถามว่าจะให้โอกาสพี่บ๊วยหรือเปล่า (น้ำตาคลอ) ตุ๊กว่าพูดว่าให้โอกาสก็มากไป เรื่องทุกเรื่องมันต้องมีสองฝ่าย ตุ๊กว่าเกิดปัญหาขึ้นตัวเราก็ต้องมาดูตัวเองเหมือนกัน ว่าเราพกพร่องอะไรหรือเปล่า เราต้องมาดูข้อบกพร่องของเราเองด้วย (ร้องไห้)”
       
       แม้จะต้องฝืนยิ้มและกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ไหลตลอดในการให้สัมภาษณ์ แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็สุดจะกลั้นปล่อยน้ำตาไหลออกมาหลังจบคำสัมภาษณ์


ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)