“บุ๋ม” เผยเป็นซุป’ตาร์สุดฮอตที่พม่ามา 3 ปีแล้ว บอกลูกค้าถูกใจในรูปร่างอกเป็นอกเอวเป็นเอว ทำให้มีงานไม่ขาดสาย ฟุ้ง “ติ๊งโน้ต” หวงถึงขั้นบินประกบถึงพม่า ลั่นแฟนหนุ่มอยากแต่งงานมีลูกแล้ว แต่ติดที่พ่อของตนไม่อนุมัติ
ช่วงนี้ศิลปินนักแสดงไทยต่างหันไปทำงานโด่งดังโกยเงินเพิ่มแถบประเทศเพื่อนบ้าน ไม่เว้นแม้กระนั้นอดีตนางสาวไทยร่างอวบ “บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” ที่ตอนนี้กลายเป็นซุปเปอร์สตาร์ที่ประเทศพม่า โดยสาวบุ๋มเผยให้ทราบว่าบินไปทำงานโกยเงินที่ประเทศพม่ามา 3 ปีแล้ว หลังจากคนที่นั่นถูกใจในรูปร่างอกเป็นอก เอวเป็นเอวของตน
“เป็นซุป’ตาร์เมื่ออายุเยอะแล้วค่ะ เวลาลงจากสนามบินก็มีคนมาถ่ายรูป มาต้อนรับ มีรายการทีวีมาดักรอเรา มันก็รู้สึกเออนะ ก็ถือเป็นจุดนึงที่เป็นตัวแทน เป็นภาพของคนไทยไปสร้างชื่อเสียงที่นั่นมากกว่า เพราะที่พม่าไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ จะเข้าไปทำงานกันง่ายๆ ทุกๆ อย่างที่ทำต้องผ่านรัฐบาลพม่า กว่าจะออกมาเป็นงานสักชิ้นได้ต้องมีการส่งยื่นเอกสารเยอะแยะมากมาย”
“บุ๋มเขาไปทำงานที่นั่นได้เริ่มจากการไปโชว์ตัวค่ะ ตอนนั้นที่ไปก็แอบหัดพูดภาษาพม่าไปนิดหน่อย ก็ไปพูดว่าฉันรักเธอ เขาก็กรี๊ดกันใหญ่เลย จากนั้นก็มีงานของทางพม่าติดต่อเข้ามาเรื่อยๆ บวกกับที่เขาเคยเห็นเราในละครที่เราเล่นเป็นเจ้านางพม่า”
“ก็ไปทำงานที่นั่นมา 3 ปีแล้วค่ะ เขาก็บอกว่าเขาชอบสาวหุ่นแบบบุ๋ม นางแบบที่นู่นเขาไม่มีเหมือนบ้านเรานะ แบบพวกสูงๆ ผอมๆ แล้วทำหน้าแอ๊บแบ๊ว ไม่ได้เลย นางแบบที่นั่นต้องทำหน้านิ่งๆ ยิ้มมุมปาก เชิดๆ สง่าๆ อกเป็นอก เอวเป็นเอว สะโพกเป็นสะโพก หน้าตาดุๆ หน่อย เขาก็จะชอบแบบนั้นเป็นพิเศษ ซึ่งเราก็มีความใกล้เคียง”
“ตอนนี้ก็มีงานเยอะขึ้นเรื่อยๆ ยาวเลยค่ะ มีทั้งงานโฆษณาที่เป็นแบรนด์สินค้าของเขาเลย อย่างล่าสุดที่ไปก็ไปถ่ายปฎิทินปีใหม่ของเขามากับน้องโจอี้ (อรวิภา กนกนทีสวัสดิ์ นางสาวไทย) น้องเขานิสัยดีไม่งอแง เลยชวนน้องเขาไปทำงานด้วยกัน”
“ตอนไปถ่ายนี่ต้องระมัดระวังมากๆ เลยค่ะเพราะชุดแต่งงานที่ใส่ราคา 6 ล้านบาท สีผมขนาดของบุ๋มไม่ได้ทองอะไรมาก เขาก็ยังไปย้อมเป็นสีดำ เขาเคร่งมาก เสื้อผ้าปิดมิดชิดไปถึงคอ แต่รูปร่างจะต้องเป็นรูปร่าง ทีมงานเขาก็ให้เราเลือกเอง ก็เลยเลือกทีมงานที่มีคนไทยจะได้ทำงานกันง่ายๆ แต่จริงๆ เราก็ใช่ภาษาอังกฤษในการสื่อสารกันค่ะ ตอนนี้ก็รอการอนุมัติจากรัฐบาลพม่าอยู่ค่ะ ในส่วนของรายได้บุ๋มบอกเลยว่าพอๆ กับที่เมืองไทยค่ะ แต่ช่องทางที่จะทำงานมันมีเยอะกว่า”
ลั่นแฟนหนุ่ม “ติ๊งโน้ต ฐิติพงศ์ วโรกร” ตามไปเฝ้าถึงพม่า เพราะเป็นห่วงต้องห่างกัน 4 วัน เผยแฟนหนุ่มตามติดไปทุกทีหลังห่างกันแล้วมีหนุ่มตามจีบ
“เขาตามไปทีหลังค่ะเพราะติดต่อบุ๋มไม่ได้ เขาก็เป็นห่วงค่ะ เขาบอกว่าไป 4 วันนานไป มือถืออะไรก็ติดต่อไม่ได้เขาเลยบินตามไปทันที ไม่ยอมปล่อยเลย เขาเล่นรถเสร็จก็รีบบินตามมาทันที บุ๋มกับเขาเองเราไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดค่ะ จนพ่อเขายังแซวเลยว่าเดี๋ยวนี้ตามแต่บุ๋มนะ(หัวเราะ) แต่ตัวบุ๋มเองก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไรนะคะ เพราะที่ผ่านมาบุ๋มจะเป็นข่าวง่ายตลอด พอดีมีงานนึงเขาไม่ได้ไปกับเราด้วยผลปรากฏว่าพอกลับบ้านแล้วมีคนๆ นึงแมสเสจมาหา ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเขาไปหาเบอร์เรามาจากไหน บุ๋มก็บริสุทธิ์ใจนะ ก็ให้เขาอ่านแมสเสจด้วย แล้วบุ๋มเองก็ไม่ได้ตอบอะไรเขาไป”
“ฉะนั้นก็เลยเลือกให้เขาไปไหนมาไหนด้วยเลยดีกว่า จะได้อุ่นใจไม่มีข่าว บุ๋มก็จะได้ทำงานได้อย่างสบายใจ กลายเป็นว่าไปไหนเดี๋ยวนี้เขาก็จะตามไปตลอด ความหวงนี่มีเท่ากันค่ะ ไม่มีใครมากกว่าใคร แต่กับเพื่อนผู้ชายของเราเขาให้เจอนะคะ เพราะบุ๋มพาเขาไปแนะนำให้รู้จักแล้ว ก็สบายใจกันค่ะ กับเขาเองบุ๋มก็แสกนทุกอย่างค่ะ แต่หลังๆ ไม่ต้องเช็คอะไรแล้วเพราะเชื่อใจกันค่ะ เวลาตามไปดูเขาแข่งรถ พิตตี้ยังต้องหลบให้ เพราะตัวแม่มา พิตตี้เลยไม่กล้า”
เผยแฟนหนุ่มอยากแต่งงานมีลูกแล้ว แต่ติดที่พ่อของตนไม่อนุมัติ บอกอยากใช้เวลาดูมากกว่านี้
“บุ๋มเองก็มีอันดามันแล้ว แถมงานเรายังมีเยอะแยะมากมาย มันก็ยาก ปีหน้าก็ติดถ่ายแบบชุดว่ายน้ำด้วย เรื่องมีน้องนี่ไม่ได้เลย แต่ติ๊งโน้ตเขาอยากมี เขาอยากแต่งงานแล้ว เขาขอบุ๋มแต่งงานตั้งแต่เดือนแรกที่คบกัน แต่ติดที่คุณพ่อบุ๋ม พ่อบุ๋มเป็นคนค่อนข้างดุค่ะ แกก็บอกว่าก็คบไปเรื่อยๆ อย่างนี้ดีแล้ว คือเขาอาจจะเห็นว่าติ๊งโน้ตอายุน้อย จะดูแลรับผิดชอบเราได้ยังไง มากน้อยแค่ไหน เขาอยากให้ใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ติ๊งโน้ตมากกว่านี้”
ที่มา: manager.co.th