สาวสวยกับ Nikon1
Nikon1กล้องอัจฉริยะเปลี่ยนเลนส์ได้ที่มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา
นิคอน ส่ง “นิคอน วัน” ลงศึกกล้องไร้กระจกสะท้อนภาพ 2 รุ่น ชูจุดเด่นกล้องอัจฉริยะเปลี่ยนเลนส์ได้ที่มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา เซนเซอร์รับรับภาพออกแบบใหม่ หวังปีหน้า แชร์ ทะลุ 50% พร้อมขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งตลาดกล้องไร้กระจกไทย
เคนจิ คุมาคิ ประธานบริษัท นิคอน เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ด้วยอัตราการเติบโตของตลาดกล้องไร้กระจกสะท้อนที่มีอัตราการเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้นิคอนตั้งใจเปิดตลาดกล้องไร้กระจกสะท้อนภาพของตนขึ้นใหม่ในชื่อ ACIL (Advanced Camera with Interchangeable Lens) พร้อมส่งกล้อง นิคอน วัน ลงตลาด 2 รุ่นแรกในกลุ่ม ACIL ได้แก่ นิคอน วัน เจ 1 และ นิคอน วัน วี 1 ที่มีความพิเศษอยู่ที่ตัวกล้องมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา สามารถถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ และคุณภาพเทียบเท่ากล้อง DSLR
“ในความจริงแล้วทางนิคอนได้พัฒนากล้องไร้กระจกสะท้อน นิคอน วัน มาก่อนหน้าคู่แข่งระยะหนึ่ง แต่ด้วยความตั้งใจที่เราต้องการพัฒนาเทคโนโลยีให้สดใหม่กว่าคู่แข่ง เพื่อตอบโจทย์ของความเป็นกล้อง ACIL เช่น เซนเซอร์ฟอร์แมต CX ที่เป็นเซนเซอร์รับภาพต่อยอดจากฟอร์แมต FX และ DX หรือหน่วยประมวลผลภาพ EXPEED 3 ที่นิคอนเป็นผู้ผลิตเองทั้งหมด ทำให้นิคอนเปิดตัวกล้อง นิคอน วัน ในตระกูล ACIL ช้ากว่าคู่แข่ง”
สำหรับคุณสมบัติเด่นของกล้อง นิคอนวันทั้ง 2 รุ่น เคนจิ กล่าวเสริมว่า สำหรับนิคอนวันทั้ง เจ 1 และ วี 1 เซ็นเซอร์รับภาพจะเป็นฟอร์แมต CX พร้อมโหมดถ่ายภาพที่มีให้เลือกใช้ 4 โหมด ได้แก่ Motion Snapshot, Smart Photo Selector, Still image, Movie โดยในส่วนการบันทึกวิดีโอจะรองรับความละเอียดแบบ Full HD 1080p และสามารถบันทึกภาพสโลโมชันที่ความเร็วสูงถึง 1,200 เฟรมต่อวินาที พร้อมระบบออโต้โฟกัสแบบไฮบริด ที่ทำให้การโฟกัสสามารถทำได้รวดเร็วและแม่นยำขึ้น และสามารถ่ายภาพต่อเนื่อง (AF-S) ที่ความเร็วสูงถึง 60 เฟรมต่อวินาที ซึ่งถือว่าเร็วที่สุดในโลก
นอกจากนี้ ผู้ต้องการนำ นิคอน วัน มาใช้ร่วมกับเลนส์ DSLR บนเมาท์ F ยังสามารถทำได้ผ่านอะแดปเตอร์ FT 1 ที่มีจุดเด่นในการเรียกใช้ ออโต้โฟกัส จากเลนส์เมาท์ F ได้ทันทีทั้งการถ่ายภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว
สำหรับการทำตลาด สุรชัย ดุษฎีเมธา ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นิคอน เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับในประเทศไทย นิคอน วัน จะเริ่มลงตลาดในช่วงปลายเดือนตุลาคม ในราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 20,000 บาท โดยตั้งเป้าขายสิ้นปีนี้ไว้ 20,000-25,000 ตัว และคาดหวังจะสามารถดึงส่วนแบ่งการตลาดกล้องไร้กระจกสะท้อนในไทยได้เกิน 50% ในปีหน้า พร้อมเชื่อมั่นว่า จะสามารถขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งของตลาดกล้องไร้กระจกสะท้อนไทยได้ในปี 2555
สุรชัย เชื่อว่า กลุ่มของกล้อง ACIL จะไม่ส่งผลกระทบกับตลาดของ DSLR เพราะกลุ่มเป้าหมายต่างกัน โดยสำหรับกลุ่มคนที่ใช้ DSLR จะมีความชัดเจนในเรืิ่องรูปแบบการใช้งานที่ไปทางมืออาชีพและมีรูปแบบการใช้งานที่จริงจัง ต่างจากกลุ่มคนใช้กล้อง ACIL ที่เน้นในเรื่องการพกพาเพื่อท่องเที่ยว ไม่เน้นงานมืออาชีพ แต่ต้องการคุณภาพของภาพแบบ DSLR
Company Related Link :
Nikon
ที่มา: manager.co.th
