เอชพี ปรับโฉมระบบ ePrint พ่วงพรินเตอร์ 8 รุ่นใหม่ในกลุ่มเอนเตอร์ไพร์สและคอนซูมเมอร์ ชูจุดเด่นที่การทำงานไร้สายผ่านสมาร์ทโฟน เชื่อปลายปี 2555 พรินเตอร์พร้อมเชื่อมต่อเว็บ (web-connected printers) จะพุ่งสูงถึง 50 ล้านเครื่อง
สตีเฟ่น ไนโกร รองประธานอาวุโส แผนกอิงค์เจ็ทและเว็บโซลูชั่น กลุ่มธุรกิจภาพและการพิมพ์ของเอชพี กล่าวว่า ด้วยจำนวนยอดผู้ใช้พรินเตอร์พร้อมเชื่อมต่อเว็บที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม 2554 อยู่ที่ 10 ล้านเครื่องและคาดว่าจะสามารถพุ่งสูงถึง 50 ล้านเครื่องในช่วงปลายปี 2555 มีผลให้เอชพีสนใจจะพัฒนาและปรับปรุงในส่วนของเว็บโซลูชันให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยจะผลักดันเรื่องระบบ ePrint ให้สามารถใช้งานได้ครอบคลุมกับทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์
"อันดับแรกเอชพีจะขยายขอบเขตเรื่องระบบ ePrint จากเดิมที่จับตลาดเฉพาะคอนซูมเมอร์ให้ครอบคลุมถึงกลุ่มเอนเตอร์ไพร์สและกลุ่มกราฟิกดีไซน์เนอร์ และอันดับที่สองในเรื่องของโมบาย โซลูชันที่ได้ปรับปรุงและพัฒนาระบบ ePrint 3 ส่วนได้แก่ ส่วนที่หนึ่ง HP Printer Control mobile app ที่ให้ผู้ใช้สามารถสั่งพิมพ์ ถ่ายเอกสาร สแกนภาพจากสมาร์ทโฟนผ่านระบบไร้สายได้ ส่วนที่สอง HP ePrint Home & Biz mobile app ที่เป็นการผนวกการใช้งาน ePrint กับเครื่องมือใช้งานฟรีสำหรับสมาร์ทโฟน ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์, ไอโฟน และซิมเบียน เข้าด้วยกัน เพื่อให้สมาร์ทโฟนสามารถค้นหาตำแหน่งเครื่องพิมพ์และสั่งพิมพ์ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตจากทั่วโลกได้ และสุดท้ายส่วนที่สาม Social ID จะช่วยให้ผู้ใช้ทั้งเก่าและใหม่สามารถสั่งพิมพ์ข้อความจากอีเมลแอดเดรสได้ทันทีจากตัวพรินเตอร์"
สตีเฟ่นกล่าวต่อว่า ตั้งแต่ต้นปีหน้าเป็นต้นไป ระบบ ePrint จะเริ่มถูกนำมาใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนทั้ง แอนดรอยด์, ไอโฟน และซิมเบียนซึ่งถือเป็นการทำงานไร้สาย ที่ช่วยอำนวยความสะดวก รวมถึงลดความยุ่งยากซับซ้อนในการสั่งงานพรินเตอร์ลงได้
ในส่วนแอปพลิเคชันบนพรินเตอร์ที่รองรับ ePrint สตีเฟ่นกล่าวเสริมว่า ปัจจุบันมีแอปพลิเคชันถึง 100 แอปพลิเคชันที่สามารถทำงานร่วมกับ ePrint โดยทางเอชพีได้ร่วมมือกับผู้ให้บริการคอนเทนต์ใหม่เพิ่มอีกจำนวน 5 รายในเอเชีย แปซิฟิก ได้แก่ บริษัท Anyschool (เกาหลี) บริษัท Magic Chanja (เกาหลี) บริษัท Modern Educational Research Society, Ltd. (ฮ่องกง) บริษัท Sesame Street และบริษัท Meishi China ส่วนประเทศไทยทางเอชพีกำลังอยู่ในช่วงวางแผน
นอกจากนั้นทางเอชพียังได้เปิดตัวพรินเตอร์ 8 รุ่นในกลุ่มเอนเตอร์ไพร์สและคอนซูมเมอร์ พร้อมสแกนเนอร์ 1 รุ่น ได้แก่ HP TopShot Laserjet Pro M275 ที่ถือเป็นเรือธงของกลุ่มเพราะด้วยความสามารถในการสแกนวัตถุแบบสามมิติและตัวเครื่องจับตลาด SMBs เป็นหลัก HP LaserJet Pro 100 color MFP M175nw เป็นเลเซอร์เจ็ทสีที่มาพร้อมขนาดที่กระทัดรัดสามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก HP LaserJet Enterprise 600 M601 M602 และ M603 สามารถรองรับระบบการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไร้สายและมาสามารถตั้งระบบรักษาความปลอดภัยได้ HP LaserJet Enterprise 500 color M551 series เป็นพรินเตอร์เอนเตอร์ไพรส์ที่มาพร้อมระบบ ePrint และเน้นจับกลุ่ม SMBs ที่ต้องการงานพิมพ์ราคาไม่สูง และ HP Scanjet Enterprise 8500fn1 Document Capture เป็นสแกนเนอร์ที่เน้นใช้งานในรูปแบบ Workgroups
ด้านพรินเตอร์คอนซูมเมอร์นำทัพด้วยหัวหอกสำคัญ HP Envy100 e-All-in-One ที่เน้นเรื่องดีไซน์และรูปแบบการใช้งานแบบออลอินวัน และในส่วนของกลุ่ม Photosmart e-All-in-One 3 รุ่น ได้แก่ Photosmart 7510 Photosmart 6510 และ Photosmart 5510 จะมาพร้อมกับระบบ ePrint และแอปพลิเคชันที่สามารถเรียกใช้งานได้โดยตรงจากพรินเตอร์
ในส่วนราคาสำหรับพรินเตอร์กลุ่มเอนเตอร์ไพร์สจะเริ่มต้นตั้งแต่ 349 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 10,470 บาท) ถึง 3,199 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 95,970 บาท) สำหรับพรินเตอร์กลุ่มคอนซูมเมอร์จะมีราคาเริ่มตั้งแต่ 99 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 2,970 บาท) ถึง 299 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 8,970 บาท) โดยสำหรับวันวางจำหน่ายจะอยู่ในช่วงปลายปี 2554
Company Related Link :
HP
ที่มา: manager.co.th