นายเอเดรียน โฮ ผู้จัดการฝ่ายวิจัยด้านบริการบริหารจัดการระบบและกลุ่มอุปกรณ์เครือข่ายประจำไอดีซี เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า จากสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา ส่งผลให้หน่วยงานด้านโทรคมนาคมต่างๆ ลงทุนเทคโนโลยีการติดต่อสื่อสารอย่างต่อเนื่อง อาทิ เครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ และโครงสร้างการติดต่อสื่อสารบนเทคโนโลยีไอพี ขณะที่องค์กรธุรกิจทั้งขนาดเล็กและใหญ่ ต่างเพิ่มการลงทุนด้านเทคโนโลยีไอที ที่ช่วยให้บริษัทฯ ได้ประโยชน์และสามารถบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ จากเครื่องมือต่างๆ ซอฟต์แวร์ในการให้บริการ (SaaS) หรือการใช้เครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์ และเพิ่มความระมัดระวังในการควบคุมค่าใช้จ่ายมากขึ้น เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและเติบโตระยะยาวในการลงทุน
ผู้จัดการฝ่ายวิจัยด้านบริการบริหารจัดการระบบและกลุ่มอุปกรณ์เครือข่ายประจำไอดีซี เอเชียแปซิฟิก กล่าวต่อว่า ไอดีซีคาดการณ์ถึงแนวโน้มตลาดบริการโทรคมนาคม ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น) ประจำปี 2552 อาจมีมูลค่าสูงถึง 253 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ด้วยอัตราการเติบโต 8.9% ขณะที่การใช้จ่ายเกี่ยวกับอุปกรณ์เครือข่ายสำหรับองค์กรนั้น เติบโตขึ้น 9% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 10.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากการใช้จ่ายด้านเครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์อย่างต่อเนื่อง โดยการใช้จ่ายส่วนดังกล่าว อาจมีการเติบโตในระดับปานกลางที่ 3.9% คิดเป็นมูลค่ารวม 52.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ บริษัทฯ พบว่า ค่าใช้จ่ายที่ไม่ผ่านการวางแผนกลายเป็นต้นทุนที่สูงสุดในองค์กร เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายด้านอื่น
นายเอเดรียน กล่าวอีกว่า แนวโน้มของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีไอที ภายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ประจำปี 2552 นั้น มีทิศทางที่สำคัญ คือ ปัญหาเศรษฐกิจที่ส่งผลให้ผู้บริโภคเพิ่มความระมัดระวังในการใช้จ่าย อาจส่งผลให้องค์กรธุรกิจชะลอการลงทุนและนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ออกไป ขณะที่เทคโนโลยีด้านการติดต่อสื่อสารในองค์กรธุรกิจจะมีบทบาทมากขึ้น เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เช่นเดียวกับ ระบบสตอเรจเวอร์ชวลไลเซชัน (Virtualization) และโซลูชัน Femtooells (เฟมโตเซล) ที่จะเข้ามาช่วยพัฒนาประสิทธิภาพของการทำงานด้านโทรคมนาคม ส่วนเทคโนโลยี Broadband ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทำให้องค์กรธุรกิจสามารถดำเนินงานได้อย่างง่ายดาย รวมถึงการกลับมาโดดเด่นอีกครั้งของซอฟต์แวร์ SaaS (Software as a Service) ในธุรกิจที่ใช้ต้นทุนดำเนินการต่ำ
