“ชมพู่” แถลงยัน เพื่อนเป็นคนสวมรอยทวีตแขวะ “ออย” เพราะตนเองทวีตแต่ภาษาอังกฤษ สาบานไม่ได้โกหก แต่อยากขอโทษเพื่อเป็นการรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น บ่นซวยที่ต้องเจอเรื่องแบบนี้ ยินดีน้อมรับความซวยทุกรูปแบบ ถึงอีกฝ่ายฟ้องก็จะเตรียมตั้งรับ เผยเป็นเรื่องกวนใจจนสติแตก นอนไม่หลับทำงานไม่ได้ หวังให้ทุกอย่างจบด้วยดี
เป็นศึกนางเอกปะทะนางร้ายที่แซบที่สุดในหน้าหนังสือพิมพ์ตอนนี้เลยก็ว่าได้ สำหรับเรื่องราวเกาเหลาระหว่าง “ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต” กับ “ออย ศรุตา เรืองวิริยะ” หลังจากทางฝ่ายของสาว “ออย” ได้เคยออกมาให้สัมภาษณ์ทำนองว่าเคยรู้จักและคบหากับนักธุรกิจ “น็อต วิศรุต รังสีสิงห์พิพัฒน์” แฟนหนุ่มของชมพู่ จนอีกฝ่ายตอกหน้ากลับว่าไม่อยากใส่ใจ เพราะอดีตไม่สำคัญเท่าปัจจุบัน ก่อนจะเหน็บเบาๆ ว่าไม่อยากเล่นเกมนี้ เนื่องจากมีต้นทุนชีวิตสูงแล้วไม่อยากเอาตัวเองไปแลกให้เจ็บตัว เป็นเหตุให้ฝั่งของสาว “ออย” ออกมาสวนกลับบ้างว่าแบ่งชนชั้น แถมแขวะตบท้ายว่านางเอกสาวเอาชีวิตจริงมาเล่นละคร จนสุดท้ายบานปลายกลายเป็นสงครามน้ำลาย
กระทั่งเมื่อวันเสาร์ที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา ล็อกอินทวิตเตอร์ @ChompooAraya ของสาว “ชมพู่” ก็มีการโพสต์ข้อความว่า “อยากหน้าเหมือนออย ศรุตา” กลายเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ เพราะไม่คิดว่าสองสาวจะเปิดศึกกันแบบเปิดหน้าเปิดตัวขนาดนี้ ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น.ของวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา สาว “ชมพู่” ก็เปิดแถลงข่าวด่วนขึ้นที่บริษัทบลูริบบ้อน ย่านปิ่นเกล้า โดยยอมรับว่าทวิตเตอร์ดังกล่าวเป็นของตนจริง แต่ไม่ได้เป็นคนโพสต์ พร้อมยอมรับเรื่องดังกล่าวทำให้รู้สึกร้อนใจจนนอนไม่หลับทำงานไม่ได้
“ก็เครียดค่ะ ก็…เครียดค่ะไม่รู้จะบรรยายยังไง ชมทราบเรื่องน่าจะพร้อมๆ กับพี่ๆ สื่อ คือเมื่อวานนี้ช่วงเที่ยงๆ ก็ได้รับคำชี้แจงจากทางผู้จัดการส่วนตัวว่ามีการโพสต์ข้อความโดยที่แอ็กเคานต์ชม ก็คือตามที่เป็นข่าว ชมก็ลำบากใจที่จะพูดเพราะมันฟังดูเหมือนการแก้ตัว ฟังยังไงก็ไม่ขึ้น แต่ยังไงก็ตามชมก็ขอโอกาสชี้แจงก็แล้วกัน”
“ชมเพิ่งจะเล่นทวิตเตอร์ช่วงดอกส้มสีทอง ก่อนหน้านี้ชมมีแอ็กเคานต์ทวิตเตอร์ของน้องๆ แฟนคลับทำให้ ไม่ได้ทวีตเอง จนมาช่วงดอกส้มฯ ชมก็เลยรู้สึกว่าอยากจะใกล้ชิดกับแฟนๆ มากขึ้น เพราะกระแสของละครก็เลยตัดสินใจว่าจะเล่น แต่ช่วงที่เล่นก็คือเล่นเอง แต่ตัวผู้จัดการชมเขาก็จะมีล็อกอินซึ่งเขาสามารถทวีตหรืออัปโหลดรูปที่ชมไปงานได้เลย อันนี้ก็เลยเป็นที่มาที่ไปว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง”
“ทีนี้มันคงเป็นการละเล่นอะไรสักอย่างนึง ของแก๊งในกลุ่มของผู้จัดการที่จะเปลี่ยนสเตตัสกัน หรือแกล้งเปลี่ยนรูปเปลี่ยนอะไรก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะเป็นทางบีบี ทวิตเตอร์หรือเฟซบุ๊กก็ตาม แล้ววันที่เกิดเหตุเขาก็แกล้งกัน แล้วบังเอิญว่าวันนั้นก็ไปโพสต์ในทวิตเตอร์ด้วย หมายถึงเพื่อนอีกคนนึงของผู้จัดการชมแกล้ง โดยที่เขาไม่รู้ว่าทวิตเตอร์นั้นมันเป็นล็อกอินชมอยู่ เท่าที่ชมทราบเหตุมันก็เกิดขึ้นใกล้สว่างแล้ว เขาก็มารู้ตัวอีกทีนึงตอนสายๆ ของวันเสาร์เขาก็ลบออก แต่ก็ต้องเข้าใจว่าคนฟอลโลว์เราก็มีประมาณนึง แล้วพี่ๆ สื่อบางท่านก็คงฟอลโลว์และก๊อบปี้หน้านั้นไว้ได้ ก็เลยเป็นที่มาที่ไป”
“วันนี้ที่ชมเชิญพี่ๆ ทุกคนออกมา จริงๆ ก็เกรงใจนะคะเพราะว่าจริงๆ เราก็จะเจอกันวันที่ 1 นี้ แต่ชมก็ค่อนข้างจะร้อนใจมาก พูดตรงๆ ว่ามันกวนใจมาก และกระทบชม เวลาทำงานชมไม่มีสมาธิ แล้วชมก็นอนไม่ได้ (หัวเราะ) ชมก็เลยคิดว่าวันนี้อยากจะจัดการให้มันเรียบร้อย ก็เลยรบกวนทุกๆ คนว่าขอโอกาสในการชี้แจง”
“ซึ่งจุดประสงค์หลักๆ ที่อยากจะออกมาพูดก็คือ หนึ่ง ชี้แจงว่าสถานการณ์มันเป็นแบบนี้ สอง อยากแสดงความรับผิดชอบเท่าที่จะทำได้ สำหรับบุคคลที่ถูกเอ่ยถึง สำหรับคู่กรณีก็อยากจะฝากชี้แจงว่าไม่ได้มีเจตนา และชมก็ไม่ได้ทำ ด้วยความเคารพใครจะมีดุลยพินิจยังไงก็แล้วแต่ จะตัดสินชมยังไงก็แล้วแต่ ชมเคารพการตัดสินใจของทุกคนนะคะ แต่ชมชี้แจงแบบนี้ว่าชมไม่ได้ทำ ณ วันที่เราบอกว่าจบก็คือจบจริงๆ ไม่ได้อยากให้มันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น”
“ในเมื่อมันเกิดขึ้นบนทวิตเตอร์ของชมจริงๆ ชมถือว่าชมสะเพร่า และเลินเล่อที่ปล่อยให้คนอื่นสามารถเข้าแอคเคาท์ของชมได้ ชมก็อยากจะขอโทษ เพราะข้อความที่โพสต์ลงไปไม่ว่าทางใดก็ทางนึง ก็คงกระทบจิตใจคนที่ถูกกล่าวถึงไม่มากก็น้อย ยังยืนยันเจตนารมณ์ว่าอยากจะจบจริงๆ ไม่ได้ต้องการก่อกวนหรือฟื้นฝอยหาตะเข็บ หรือว่าก่อเรื่องขึ้นมาอีก สิ่งที่อยากจะบอกคือประมาณนี้”
“ชมรู้ว่าด้วยสถานการณ์อะไรหลายๆ อย่าง ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมามันก็ค่อนข้างที่จะมีข่าวร้อนประมาณนึง เพราะฉะนั้นมันก็ทำให้มีมูลเหตุจูงใจ คนอาจจะคิดว่ามันเป็นเรื่องจริงได้ ซึ่งชมก็เคารพในการตัดสินของทุกคน แต่ไม่มีใครอยากถูกตัดสินหรอกค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามันไม่ใช่เรื่องจริง ที่อยากจะชี้แจงก็คือหนึ่งทวิตเตอร์นี้ชมไม่เคยทวิตภาษาไทยนะคะ แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นภาษาไทย ชมไม่ได้ดัดจริตนะคะ แต่ว่าชมพิมพ์ไม่ทันและไม่ค่อยถนัด เพราะฉะนั้นน้องๆ ที่ฟอลโลว์เป็นประจำก็จะรู้ว่าเราไม่เคยทวีตภาษาไทย”
“สองก่อนหน้านี้ชมก็ไม่ได้ทวีตมานานมากแล้ว (ลากเสียง) เป็นคนที่ไม่ค่อยขยันทวีตเท่าไหร่ ถ้าย้อนกลับไปดูครั้งสุดท้ายน่าจะเป็นเวลาเป็นเดือนๆ และสามเหตุผลที่ชมทวีตก็เพราะเป็นช่องทางในการสื่อสารกับแฟนๆ ไม่ได้ตั้งใจจะเป็นทวิตเตอร์ที่พูดเรื่องส่วนตัว หรือใช้เป็นที่ระบายอารมณ์ และสุดท้ายสิ่งที่อยากจะบอกก็คือที่ผ่านมาชมเชื่อว่า ใครที่ได้ติดตามฟังหรือพี่ๆ ที่เคยสัมภาษณ์ชม ชมเป็นคนระมัดระวังตัว ออกสื่อทุกครั้งชมค่อนข้างทำการบ้าน และก็หลีกเลี่ยงการที่จะพาดพิงใครมากที่สุด เพราะฉะนั้นการกระทำนี้มันไม่ใช่ชมเลยค่ะ ก็ขอชี้แจงตามนี้ แต่ท้ายที่สุดแล้วจะโดนตัดสินยังไงก็ต้องยอมรับ”
“ชมก็ต้องรับผิดชอบเพราะมันเป็นแอ็กเคานต์ชมจริงๆ และเกิดขึ้นโดยที่ชมก็รู้ว่าเป็นใคร เราก็รู้ที่มาที่ไปว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง ชมก็มีคำอธิบายทุกอย่าง ชมทำอะไรไม่ได้นอกจากบอกความจริงทั้งหมด จริงๆ เบื้องต้นก็มีปรึกษาคนที่ชมปรึกษา เมื่อวานพอตั้งหลักได้ก็ทวิตตอบเลย ว่าขอโทษทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และชี้แจงว่าไม่ได้เป็นเรา หลังจากนั้นชมคิดว่าขอโทษทางสื่อก็น่าจะสมศักดิ์ศรีค่ะ”
“ชมคิดว่าทั้งสองฝ่ายก็น่าจะบอบช้ำกันทั้งคู่ จากใจจริงเลยชมก็ไม่ได้อยากให้มันเกิดอะไรแบบนี้ขึ้น มันไม่คุ้มเลยๆ แต่ว่าชมทำใจยอมรับว่าหลังจากนี้ไม่ว่าจะมีฟีดแบ็กยังไงอาจจะมีหรือไม่มีชมก็เข้าใจ เพราะว่าเขาไม่จำเป็นต้องมาเข้าใจชมก็ได้ไง เพราะมันเป็นสถานการณ์ที่เขามีสิทธิ์ที่จะเชื่ออีกอย่างนึงก็ได้”
แจงคนที่สวมรอยทวิตจนเกิดเรื่องเป็นเพื่อนที่ทำงานเบื้องหลัง ซึ่งอยู่แก๊งเดียวกัน แต่ถึงจะมั่นใจว่าเพื่อนไม่ได้ตั้งใจ สาว “ชมพู่” ก็อยากเคลียร์กับเพื่อนคนดังกล่าวเนื่องจากทำให้ชีวิตตนต้องพบเจอกับความเสียหายมาก
“เป็นแก๊งๆ เพื่อนกันทั้งนั้น ทุกคนก็รู้จักเป็นคนเบื้องหลัง เมื่อวานตอนเย็นๆ เขาก็โทรมาหาชมและขอโทษและชี้แจงว่าเขาได้พยายามทำอะไรเพื่อแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้น ชมรู้ซึ้งว่าไม่มีใครเจตนาให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เพราะจริงๆ คนที่ทำก็เป็นเพื่อนๆ ที่เรารักกันทั้งนั้น พวกเราภายในก็ต้องคุยกันเองอยู่แล้วรวมถึงผู้จัดการชมด้วย ก็คงจะคุยว่ามันเป็นเหตุการณ์ที่มันไม่ควรจะเกิดขึ้นเลย เพราะมันทำให้เกิดความเสียหายกับชมมาก และมีผลกระทบกับชมมาก เราต้องคุยกัน แต่พูดตรงๆ ว่าวันนี้ชมยังไม่ได้คุย”
“ชมยังไม่ได้คุยกับเขาเลย (หัวเราะ) ยังไม่มีโอกาส เรามัวจัดการกับปัญหาอยู่ ตั้งแต่ทราบเรื่องชมก็ไม่มีเวลาให้กับอารมณ์ของตัวเอง ก็พยายามใช้เหตุผลและสติ ชมยืนยันว่าเราจบจริงๆ ก็ต้องขอโทษจริงๆ ในเมื่อต่างฝ่ายต่างจบไปแล้ว แต่มันก็ยังมีเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาอีก อย่างที่บอกมันเป็นความเลินเล่อของเรา ไม่ได้อยากให้เกิดขึ้น หลังจากนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นมันก็เป็นสิ่งที่ชมรับได้ ไม่ใช่ว่าอยากให้เกิดขึ้นนะ แต่ด้วยเหตุผลและปัจจัยหลายๆ อย่าง ชมก็เข้าใจถ้าเขาจะโกรธมันก็เป็นไปได้”
“เรื่องเกิดวันเสาร์ ชมทราบวันอาทิตย์ พูดตรงๆ คือชมค่อนข้างจะหงุดหงิดใจที่ชมรู้ช้า คือเซ็ง รู้สึกว่าเราน่าจะเทคแอ็กชันได้เร็วกว่านี้ แต่ก็ชั่งใจอยู่ว่าถ้าชมจะออกมาแถลงเลยชมก็ไม่รู้ว่าพี่ๆ จะคิดยังไง ทุกคนจะคิดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระหรือว่าเรื่องเล็กเกินไปหรือเปล่าที่จะเรียกทุกคนมาปุ๊บปั๊บ ชมก็เลยคิดว่าจะรอจนถึงวันที่ 1 เดือนหน้าเลยมั้ยเพราะต้องเจอสื่อทุกคนอยู่แล้ว แต่ว่าชมก็เก็บไว้ไม่ไหวเหมือนกัน ชมก็อยากเคลียร์เพราะมันก็กวนใจชมมาก”
“เมื่อวานตอนแรกจะปิดแอ็กเคานต์เลย(หัวเราะ) เมื่อวานโมโหมาก ก็คิดว่าหรือเราจะแสดงความรับผิดชอบด้วยการปิดแอ็กเคานต์ไปเลยดี แต่มันก็ไม่ใช่ทางออกค่ะ ก็คิดว่าคงไม่ให้ใครเล่นแทนแล้ว คงจะเปลี่ยนพาสเวิร์ดเปลี่ยนล็อกอินไปเลย เราอาจจะอัปเดตหรืออาจจะทวีตน้อยลง จากปกติก็ทวีตน้อยอยู่แล้ว เวลาไปไหนอยู่ที่ไหนคงไม่ให้ผู้จัดการทวีตบอกแฟนๆ แล้ว ก็ไม่ต้องให้ผู้จัดการรับผิดชอบแล้ว ชมจะมาดูแลเอง”
ส่วนที่ “ออย” เผยว่าจะปรึกษาผู้ใหญ่อาจจะฟ้องนั้น สาว “ชมพู่” ก็บอกว่าเตรียมตั้งรับอย่างเดียว
“ชมก็อยู่ในจุดที่เป็นฝ่ายตั้งรับอยู่แล้ว อย่างที่บอกมันมีความเป็นไปได้ที่เขาจะทำอะไรก็ได้ คือชมซวยน่ะค่ะ (หัวเราะ) เพราะฉะนั้นมันก็ต้องยอมรับความซวยในรูปแบบต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น ก็คงต้องเป็นฝ่ายตั้งรับ แต่ก็ยืนยันตามนี้ว่ามันเป็นความบริสุทธิ์ใจ ชมสาบานได้เลยว่าทุกคำพูดมันเป็นความจริง”
“ถามว่ากระทบกับงานมั้ย ถ้าเป็นงานจริงๆ คงไม่กระทบค่ะ แต่กับตัวชมมันกระทบคุณภาพชีวิตคุณภาพงานตอนนี้ เพราะชมไม่มีสมาธิ พยายามจะเป็นมืออาชีพที่สุดนะ แต่วันนี้เข้าฉากก็ไม่โอเค ผลกระทบคงเป็นตรงนี้ มันไม่สบายใจ สุขภาพจิตไม่ดีมันก็ส่งผลถึงงาน ถามว่าคุณน็อตให้กำลังใจยังไง เมื่อวานชมอยู่กับเรื่องนี้ทั้งวัน เขาก็บอกให้หยุดพูดหยุดคิดเรื่องนี้ได้แล้ว เราต้องนอนเอาแรงแล้ว แต่ชมเป็นแนวถ้ายังไม่จบชมก็ปล่อยวางไม่ได้”
“สิ่งหนึ่งที่ชมทำใจไม่ได้ตอนนี้ก็คือ ในใจลึกๆ ชมเองยังรับไม่ได้ว่ามันเกิดขึ้น แต่โอเคเราว่าต้องแก้ปัญหายังไง ชมต้องออกมาพูดความจริง ต้องรับมือยังไง แต่ในด้านจิตใจก็คือว่ายังรับไม่ได้กับสิ่งที่มันเกิดขึ้น คุณน็อตก็ถามว่าจะให้ช่วยอะไรได้บ้าง ชมก็บอกว่าไม่เป็นไร แค่เข้าใจก็พอแล้ว ไม่ต้องการอะไร เพราะจริงๆ เรื่องนี้ชมเชื่อว่าก็คงไม่มีใครช่วยชมแก้ไขอะไรได้ แฟนคลับก็ให้กำลังใจอยู่ห่างๆ เราก็รับรู้ แต่พูดตรงๆ ตอนนี้คนใกล้ตัวไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ชม”
เมื่อถามว่าได้ออกมาแถลงข่าวขอโทษแบบนี้แล้วรู้สึกดีขึ้นหรือยัง? เจ้าตัวก็บอกว่า…
“ก็รู้สึกว่าชมได้ทำในสิ่งที่ชมสมควรจะทำ พรุ่งนี้มะรืนนี้ถ่ายละครมีฉากใหญ่ ชมก็ไม่อยากมีเรื่องกวนใจแล้ว ก็ดีขึ้นค่ะ อย่างที่บอกอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ชมยินดีจะยอมรับ แต่ใจชมยังรับไม่ได้ โมโหค่ะ เอาเป็นว่าทุกคนที่ได้ฟังสัมภาษณ์นี้คงเก็ตเนาะว่าชมต้องการให้เรื่องนี้ออกมายังไง อยากให้จบด้วยดี และขอบคุณทุกคนที่เข้าใจ สำหรับคนที่อาจจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่ แต่ก็ขอบคุณที่สละเวลาฟังหรืออ่านข่าวชม”
“ก็ขอยืนยันว่าไม่ได้เจตนาและไม่ใช่การกระทำของชม ถึงแม้จะฟังดูเป็นเรื่องหลอกเด็ก ชมเข้าใจแต่ก็ขอบคุณที่อย่างน้อยให้โอกาสชี้แจง”
ที่มา: manager.co.th
