“ปุ๊กลุก” รับแล้ว สัมพันธ์ “วี” ไม่เหมือนเดิม บอก ขอถอยกลับไปทบทวนตัวเอง ยัน ไม่เกี่ยวมือที่3 แต่ถ้าเมื่อไหร่จับได้ว่ามีคนอื่นถึงจะใช้คำว่าเลิก แจง อีกฝ่ายเป็นผู้ชายที่ดีแต่ยังไม่ดีพอสำหรับตน พร้อมปัด วีขอพินบีบี “ฟ้า ชัญษร” แต่หากเป็นจริงก็จะไม่เสียใจ
เคยถอยห่างกันไปแล้วรอบนึง แต่ดูเหมือนว่าการกลับมาจูนกันครั้งนี้ของนางเอก “ปุ๊กลุก ฝนทิพย์ วัชระตระกูล” กับพระเอกคาสโนว่า “วี วีรภาพ สุภาพไพบูลย์” จะไม่เป็นผล แถมดูความสัมพันธ์จะระส่ำระสายมากกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ ล่าสุด “ปุ๊กลุก” ได้ยอมเปิดปากในงาน “โอเรียนทอล พริ้นเซส” ณ เซ็นทรัลเวิลด์ แบบไม่กั๊กอีกต่อไปว่า ตอนนี้ความสัมพันธ์กับหนุ่ม “วี” เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว
“เราก็ห่างกันมาได้พักหนึ่ง ประมาณ 2 อาทิตย์ค่ะ แล้วหลายๆ คนก็บอกว่าปุ๊กลุกผ่านช่วงมรสุมมาแล้วไม่ใช่หรือ แล้วทำไมกลับมาเป็นแบบนี้ เราคิดว่าจริงๆ แล้วมันเหมือนเรากลับมาใช้ความคิดที่โตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แล้วเราก็ได้ห่างกันเพราะว่าทำงาน แล้วเราก็ไม่ได้เจอกันเป็นเดือนๆ ก็กลับมาเจอกัน แล้วเลือกที่จะปรับตัวเข้าหากัน แต่เมื่อมันยังไม่พอสำหรับเรา เราอาจรู้สึกว่าเรายังต้องการมากกว่านี้ เรื่องนี้มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนค่ะ ไม่สามารถจะพูดได้ มันไม่พอ...”
“จริงๆ เขามีให้ได้ทุกอย่างค่ะ แต่เพียงปริมาณมันยังไม่มากพอ แต่พี่วีเป็นคนใส่ใจ แล้วใส่ใจความรู้สึกเรามากพอสมควร แล้วเราก็รู้ว่าพี่วีทำดีที่สุด และมากสำหรับผู้ชายคนหนึ่งจะทำให้ผู้หญิงได้ และเรายังมีความรู้สึกที่ดีต่อกัน และเราก็เป็นคนที่ขอถอยออกมาทบทวนปัญหาหลายๆ อย่างเอง แล้วพี่วีเองก็คงคิดว่าถึงเวลาที่เราจะได้ใช้สิทธิ์นี้ ก็เพราะว่าเราอาจจะขอใช้สิทธิ์นี้หลายครั้งแล้ว แต่มันยังคงอยู่ในช่วงที่ขอโอกาส ขอพิสูจน์”
“ตอนที่เราบอกเขาว่าเราจะถอย มันก็เป็นธรรมดาของคนที่รู้จักกันมานาน เขาก็ถามเหตุผล เพราะอะไร ทำไม แต่ก็คิดว่าเขาเองก็รู้เหตุผลดี และเราทั้งสองคนทำดีที่สุดแล้ว มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่เข้าใจเหตุผลที่จะถอยมาทบทวนตัวเอง แล้วก็ไม่มีนะ ที่ไปโพสต์ในทวิตเตอร์ว่าไม่ขอคนดำแล้ว ไม่มีค่ะ”
“ต่อไปเราก็ไม่รู้อนาคตจะเป็นอย่างไร เพราะทุกคนก็ต้องหาคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับทั้งสองฝ่ายด้วย แต่พี่วีก็เป็นผู้ชายที่ดีคนหนึ่งค่ะ ก็ยังรู้สึกดีๆ ด้วยทุกอย่าง แต่ว่ามันแค่เราโตขึ้นแล้วต้องมองให้ไกลขึ้น แล้วก็ตอบคำถามในใจของตัวเองให้ได้ทุกคำตอบ แล้วเหตุการณ์ต่างๆ มันก็เกิดขึ้นมาตั้งแต่วันแรกที่เรารู้จักกัน แล้วเราก็พยายามทั้งสองฝ่ายแล้ว แต่มันยังคงไม่ถึงจุดที่เราต้องการ เรียกว่าความสัมพันธ์กับพี่วีตอนนี้ไม่เหมือนเดิมค่ะ”
บอก มีหลายสาเหตุแต่ไม่เกี่ยวฝ่ายชายมีข่าวกับสาวๆ ไม่เว้นแต่ละวัน แต่ถ้าจับได้ว่ามีมือที่สามถึงจะใช้คำว่าเลิก
“อย่างที่บอกไปเรื่องที่เกิดถ้ามันไม่ใหญ่มาก ก็จะบอกว่าไม่มีอะไรทะเลาะกันปกติ แต่ว่าครั้งนี้มันก็เหมือนว่าเราถอยมาทบทวนอะไรหลายๆ อย่างค่ะ จริงๆ ก็มีหลายๆ เหตุผล แต่จริงๆ แล้วมันก็ไม่ได้อยู่ที่เหตุผลเหตุผลเดียวนะคะ ประมาณว่าตอนนี้เราโตขึ้น แล้วมองไปถึงอนาคตที่มันโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น”
“พี่วีก็เป็นคนดีค่ะ แล้วก็มีอนาคต แล้วพี่เขาก็เป็นคนทำให้เรามองเห็นอนาคตด้วย เพราะเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน พี่เขาก็จะสอนเรื่องเป้าหมายในชีวิต แล้วพี่เขาก็เต็มที่ค่ะ แล้วเขาก็แสดงอะไรหลายๆ อย่างที่ทำเพื่อเรามามากพอสมควร แล้วเขาก็เป็นคนดีมากๆ คนหนึ่ง”
“ส่วนเรื่องสาเหตุก็มีหลายสาเหตุแล้วก็หลายปัจจัยค่ะ แล้วก็อย่างที่เคยให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่า ถ้ามีผู้หญิงคนหนึ่งมาพรากพี่วีไปจากเรา เราก็พร้อมที่จะไป แต่ก็ยังยืนยันว่าวันนี้ที่เราตัดสินใจถอยออกมาทบทวนอะไรหลายๆ อย่างไม่ใช่เรื่องมือที่สาม แล้วถ้าใครมีหลักฐานว่าเป็นมือที่สาม ก็บอกได้ แล้วก็พร้อมที่จะพูดคำนั้น(เลิก) ทันที ถ้าเป็นประเด็นมือที่สามถึงจะใช้คำว่าเลิก แล้วถ้ามั่นใจจะออกมาบอกทุกๆ คน ตอนนี้ไม่อยากพูดไปเพราะไม่อยากออกมาแก้ข่าว”
“แต่ว่าเหตุผลที่เราถอยกลับมาทบทวนมันไม่ใช่เรื่องมือที่สาม เพราะฉะนั้นเราก็อยากคิดทบทวนอะไรหลายๆ อย่าง แต่ตอนนี้เราก็ตัดสินใจไปแล้ว แต่แค่ระยะเวลามันยังไม่นานพอที่เราจะพูดคำๆ นั้น เพราะว่าการใช้ชีวิตในวงการบันเทิงมันก็สอนให้เรารู้ว่า เวลาเราพูดอะไรออกไปมันไม่สามารถกลับมาแก้ไขได้”
“แล้วก็ระยะเวลาที่สนิทกับพี่วีก็ใช้เวลานาน กว่าที่จะออกมาบอกสื่อก็เป็นปี เพราะฉะนั้นวันนี้ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลงก็อยากใช้เวลาซักหน่อย ในการที่จะคิดทบทวนว่าเราโอเคกับเหตุผลนี้ไหม และก็มีคำถามอะไรที่ยังค้างคาอยู่หรือเปล่า ก็จะหาคำตอบให้ตัวเองให้เร็วที่สุด”
“ส่วนข่าวสาวๆ ของเขาไม่มีผลกระทบกับเรื่องในครั้งนี้ เพราะถ้ามีก็คงไปตั้งนานแล้ว ยิ่งหลังๆ ยิ่งไม่เลย แล้วตัวพี่วีเองเขาก็แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้ยกย่องผู้หญิงคนไหนสำคัญในชีวิตเขา แล้วทุกคนของเขาก็เหมือนเป็นเพื่อน แล้วก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับใครเป็นพิเศษ แล้ววันนี้เราถอยออกมา เราก็ยังอยู่ที่เดิมในโมเม้นท์ของเขา”
ปัด “วี” ขอพินบีบี “ฟ้า ชัญษร สาครจันทร์” มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ประจำปี 2554
“ส่วนเรื่องที่บอกว่าพี่วีขอพินบีบีฟ้า จริงๆ ต้องบอกว่าพี่วียังไม่เคยเจอตัวฟ้าเลยนะคะ แล้วตัวเองก็เพิ่งจะได้พูดคุยกันน้องก่อนที่จะบินไปประกวดเอง เขาก็ไม่ได้พูดอะไรถึงพี่วี ก็ไม่น่าจะมีอะไรค่ะ แล้วข่าวเรื่องสาวๆ กับพี่วี จริงๆ ก็รู้สึกสงสารพี่วี เพราะว่าถ้าจะกิ๊กใครก็ไม่น่าจะเป็นเพื่อนในกลุ่ม น่าจะเป็นคนอื่นมากกว่า (คิดว่าเป็นเพราะยังไม่เลิกกัน ฟ้าก็เลยไม่กล้าบอกว่าวีขอพินหรือเปล่า?) เรื่องนี้ก็ต้องรอถามน้องฟ้าดู ไม่อยากตอบแทนใครเดี๋ยวเป็นประเด็นอีก ตัวเองก็รู้สึกดีกับฟ้า แล้วก็พยายามสอน ประสบการณ์ที่เก็บเกี่ยวมา แล้วน้องเขาก็ตั้งใจเต็มที่ แล้วก็อยากชวนคนไทยช่วยโหวตน้องด้วยค่ะ”
“และถ้าวันหนึ่งมันเกิดเรื่องนี้ขึ้นมาจริงๆ แล้วเราก็ตัดสินใจไปแล้วว่าจะออกมา ก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องรู้สึกอะไร แล้วความรู้สึกดีๆ มันไม่สามารถลบล้างได้ แค่มันเป็นเรื่องของอนาคตที่จุดมุ่งหมายมันไม่เหมือนกัน และความรู้สึกดีๆ ก็ยังอยู่ เราก็ไม่ได้เกลียด และเราก็ยังจำได้ว่าผู้ชายคนนี้เคยทำอะไรดีๆ ให้เรา ส่วนน้องฟ้าเอง ก็ยังเป็นน้องที่เราเคยสอน ส่วนวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไรก็เป็นเรื่องของอนาคตค่ะ แต่ว่าเรายังจดจำทุกอย่างได้ บอกได้เลยว่าเราเป็นคนตรงๆ แล้วมั่นใจ ถ้าบอกแล้วว่าจะไปก็จะไม่มีคำว่าเสียใจ”
ที่มา: manager.co.th