Author Topic: ไมโครซอฟท์ เรียกร้องให้ไอทีซีสหรัฐฯ สั่งแบนการนำเข้าโทรศัพท์จากค่ายโมโตฯ  (Read 1202 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


ไมโครซอฟท์เรียกร้องให้คณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกา หรือไอทีซี (International Trade Commission) สั่งระงับการนำเข้าโทรศัพท์จากโมโตโรล่า เหตุเพราะผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือจากสหรัฐฯ ได้ใช้เทคโนโลยีแอนดรอยด์ในสมาร์ทโฟน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มาจากผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์

ทั้งนี้แหล่งข่าวได้รายงานเพิ่มเติมด้วยว่า การสอบสวนได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาที่เมืองวอชิงตัน ซึ่งไมโครซอฟท์ได้อ้างว่า โมโตโรล่าได้ทำการละเมิดสิทธิบัตรของบริษัทถึงเจ็ดฉบับ รวมถึงยังอ้างอีกด้วยว่า สมาร์ทโฟน Droid 2, Droid X, Cliq XT, Devour, Backflip และ Charm เหล่านี้ได้มีการกระทำละเมิดต่อกฏหมาย แต่อย่างไรก็ดี คณะกรรมการการค้าสหรัฐฯ จะสั่งให้มีการยุติการนำเข้าได้ ถ้าพวกเขารู้สึกว่าผลิตภัณฑ์เหล่านั้นฝ่าฝืนสิทธิบัตรจริง "เรามีหน้าที่ที่จะต้องรับผิดชอบแก่พนักงาน ผู้บริโภค คู่ค้า และผู้ถือหุ้นในการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาของเรา" David Howard รองประธานบริหารไมโครซอฟท์ และตัวแทนที่ปรึกษาทางด้านกฏหมายอธิบายผ่านทางอีเมลล์ "โมโตโรล่า ทำการฝ่าฝืนสิทธิบัตรของเรา และเราก็มั่นใจว่าไอทีซีจะปฏิบัติตามข้อเรียกร้อง" ขณะที่ด้านโมโตโรล่าก็รีบส่งตัวแทนหญิงออกมาอธิบายแก้เกมว่า "พวกเราได้ดำเนินการตามกฏหมายของตนเองกับไมโครซอฟท์ทั้งในสหรัฐฯ และยุโรปด้วยเหตุผลเดียวกันแล้ว"อย่างไรก็ดี มีแนวโน้มว่าเหตุการณ์ดังกล่าวอาจจะกลายเป็นคดีความครั้งแรก หลังจากที่กูเกิลได้เห็นชอบเข้าซื้อกิจการโมโตโรล่า โมบิลิตี้ ด้วยเม็ดเงินมูลค่า 12.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ก่อน โดยเหตุผลหลักที่ทำให้กูเกิลตัดสินใจเข้าซื้อกิจการก็เนื่องจากต้องการที่จะครอบครองสิทธิบัตรจากโมโตโรล่า โมบิลิตี้ เพื่อไว้ใช้ในการปกป้องตนเองเช่นเดียวกับแพลตฟอร์มแอนดรอยด์ แต่สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ กูเกิลไม่มีชื่อเอี่ยวในการเรียกร้องครั้งนี้ด้วย ทั้งหมดนี้ ศาลมีกำหนดที่จะตัดสินเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 4 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ และคณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกา จะสอบสวนเหตุการณ์ให้แล้วเสร็จในวันที่ 5 มีนาคมปีหน้า

Source : TechSpot

ที่มา: pantip.com


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)