“โด่ง องอาจ” ผอ.ช่อง8 ไม่สนคนแอนตี้ ดึง “พิ้งกี้” รับบทสาวแรงมากรักใน “ทองประกายแสด” บอก เห็นหน้าพิ้งกี้ลอยมาตั้งแต่อ่านบท ด้าน “ชุดาภา” ผกก. เผย เลิฟซีนต้องมีอยู่แล้ว แต่ต้องดูลิมิตของพิ้งกี้ด้วย
เรียกได้ว่ากระแสข่าวมาแรงตั้งแต่ยังไม่ทันได้เปิดกล้อง สำหรับละครเรื่อง “ทองประกายแสด” ที่ทางบริษัทอาร์เอส จำกัด (มหาชน) ได้หยิบนำมาปัดฝุ่นในเวอร์ชั่น2011 ที่งานนี้ได้ฤกษ์บวงสรวงเปิดกล้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 19 ส.ค. ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ “โด่ง องอาจ สิงห์ลำพอง” ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตละครโทรทัศน์ช่อง 8 อินฟินิตี้ ถึงกับออกปากว่าบทนี้ต้องเป็น “พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช” นี้เท่านั้น เพราะเห็นหน้าอีกฝ่ายลอยมาตั้งแต่อ่านบท นอกจากนี้ยังได้ดารานักแสดงรุ่นเก๋า อย่าง “ชุดาภา จันทเขตต์” มาเป็นผู้กำกับและเมื่อสมัย 10 กว่าปีก่อน เจ้าตัวยังเคยสวมบทเดียวกันกับสาวพิ้งกี้มาแล้ว และยินดีที่ได้ดาราสาวมาร่วมงานเพราะชื่นชมในฝีมือการแสดง
โด่ง : “ที่เลือกเรื่องนี้มาเพราะว่าเราได้คุยกันแล้วมีความสนใจ ฐานคนดูเราส่วนใหญ่ก็จะเป็นแมส ก็พยายามเลือกเรื่องที่ให้เข้ากับคนดู คนดูน่าจะสนใจเป็นเรื่องของผู้หญิงคนนึง ที่มีความทะเยอทะยานไปถึงฝันของตัวเอง”
“ถามว่าเลือกเรื่องเพื่อพิ้งกี้หรือเลือกพิ้งกี้แล้วค่อยเลือกเรื่อง (หัวเราะ) อันนี้ผมว่ามันมาพร้อมๆ กันนะครับ เราเลือกเรื่องแล้วก็นึกถึงนักแสดง ผมว่าในวินาทีนี้คือบทมันต้องการคนมี่มีความสามารถจริงๆ ต้องการนักแสดงที่มีคุณภาพ ในที่นี้คงไม่มีใครปฏิเสธน้องพิ้งกี้ในเรื่องของความสามารถ ผมมองว่าบทและนักแสดงต้องเป็นสิ่งที่มาพร้อมกัน พิ้งกี้คือคำตอบที่แทบจะไม่ต้องมีข้อคิดเห็นใดๆ”
“คือผมมองน้องไว้คนเดียวเลยครับ ก็คือต้องพิ้งกี้เท่านั้น เห็นบทแล้วก็มองเห็นหน้าเขา ไม่เกี่ยวที่ว่าธัญญ่า(ธัญญาเรศ รามณรงค์)เขาเคยเล่นมาก่อนแล้วเอาพิ้งกี้มาเล่นเพื่อเป็นกระแส ไม่เลยนะเพราะตอนผมอ่านบทก็คิดถึงเขา แล้วก็เห็นว่าพี่ชุเคยแสดงมาแล้วด้วย ก็เลยมีการพูดคุยเรื่องนี้ ว่าเราชอบเรื่องนี้มากๆ”
“ส่วนเรื่องกระแสสังคม ผมว่าเวลาเราเลือกนักแสดง อย่างที่บอกผมเลือกจากความสามารถ กระแสกับคำวิจารณ์มันมาแล้วก็คงหายไป บทบาทและนักแสดงและความสามารถมากกว่าที่จะอยู่ได้นาน กระแสถึงมีในช่วงนี้ เราก็ไม่ได้มอง แต่เรามองเมื่อละครออนแอร์ไปแล้ว และเขามีความสามารถ นั่นคือสิ่งที่ทุกคนจะลบสิ่งที่อยู่ในใจได้ ผมไม่ได้มองตรงนั้น ปมคืออยากทำงานกับเขาจริงๆ อยากร่วมงานกับคนที่มีความสามารถ ให้เขาได้มีเวทีใหม่ๆ เข้ามาแสดง”
ในขณะที่ “ก้อง ปิยะ” ในฐานะผู้จัดก็ให้ความเห็นว่า… “เราก็นะทำตามผู้จ้าง (หัวเราะ)ในเรื่องนี้เราก็เสนอเรื่องไปในทางอาร์เอสก็ชอบเรื่องนี้ ตอนแรกยังคิดในใจว่าจะเอาใครดี ทางอาร์เอสก็บอกว่าอยากได้น้องพิ้งกี้มาลง เราก็โอเคเพราะว่ายอมรับเรื่องการทำงานของน้องจากที่ทำงานอีเว้นท์ด้วยกัน น้องเขาเต็มที่และที่วินัยมากที่สุด คือไม่ว่าจะทำอะไรแสดงอะไรน้องทำเต็มที่มาก เลยรู้สึกว่าดีใจเพราะน้องมีความสามารถก็แฮปปี้เหมือนกัน ไม่ได้เอาข่าวมาตัดสิน เราเลือกคนที่ความสามารถและสามารถทุ่มคิวให้เราได้เต็มที่ ถ้าเกิดต้องสลับคิวมากไปก็ไม่ไหว”
โด่ง : “นโยบายของช่อง 8 เราก็เลือกคนที่เหมาะสมกับบทก่อนอยู่แล้ว บทไหนเหมาะสมกับพวกนักร้องของทางอาร์เอสเราก็เอามาเล่น แต่ถ้าบทไหนไม่เหมาะก็ดึงนักแสดงท่านอื่นมาเล่น ตามความเหมาะสมมากกว่า ไม่ใช่ว่าจะเอาแต่เด็กในสังกัดของอาร์เอสเราไม่จำกัดครับ”
ด้าน “ชุดาภา” ผู้กำกับและเป็นหนึ่งในผู้ที่เคยเล่นบทนี้มาก่อน ได้พูดถึงการทำงานครั้งนี้ว่า…
“ความรู้สึกตอนนั้นเราเป็นนักแสดง ในการแสดงนำเรื่องนี้แล้วพอมาอยู่เบื้องหลัง เราก็คิดว่าการทำงานของเรา มันน่าจะเป็นสไตล์ของผู้กำกับ งานที่ออกไปน่าจะเป็นตามสไตล์ของเรา ความหนักใจก็คงไม่มี แต่สิ่งที่ห่วงคือเราได้นักแสดงที่ดี ได้ทีมงานที่แข็งแรง เมื่อได้ทั้งสองอย่างที่ผ่านมาเราก็ดีใจแล้ว ภาคเก่าๆ มันก็มีความสนุกอยู่แล้ว ทีนี้ภาคนี้เรามองภาพยังไงก็เสนอแบบนั้น นอกจากจะแซบ มัน สนุกหวือหวาแล้วมันยังมีเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกความรัก การตะเกียกตะกายทางเลือกของผู้หญิงว่าจะเลือกอะไร”
“ในเรื่องความแรง มีลิมิตแค่ไหนเราว่าเรื่องนี้เหมาะกับเรื่องปัจจุบัน ที่สุดเรื่องนี้จริงๆ แล้วถ้าเราจะยอมรับความจริง สังคมปัจจุบันไม่ได้แตกต่างจากในละคร เพราะฉะนั้นเราว่ามันถูกยุคถูกสมัย บางทีนำเสนอออกไปเราว่าแรงแล้ว คนดูอาจมองว่ามันคือสังคม มันคือการนำเสนอการที่มีสามีหลายๆ คน สังคมอาจว่าเป็นเรื่องปกติ”
“เรื่องเลิฟซีนจะบอกว่าน้องพิ้งกี้เขาก็มีลิมิตในการแสดง ในฐานะที่เรากำกับก็จะนำเสนอเต็มที่ เราก็มองเนื้องาน เราเชื่อฝีมือของน้อง ง่ายๆ คือเราพอใจที่ได้ทำงานร่วมกับนักแสดงเก่งๆ งานเราไม่ใช่ดูแล้วจบไป เดี๋ยวนี้งานดูแล้วต้องเก็บ ทุกคนเล่นได้ดี งานก็จะถูกชื่นชม เราก็หวังไว้ คนดูจะชอบ”
โด่ง : “ละครเรื่องนี้เรท18+อยู่แล้วครับ”
ก้อง ปิยะ: “จะบอกว่าทองประกายแสดเวอร์ชั่นนี้ เป็นยุค2011 จะทำให้ปัจจุบันขึ้น พระเอกแต่ละคนก็เลือกที่ความสามารถและความเหมาะสม เน้นคือตรงคาแร็กเตอร์มากกว่า”
ที่มา: manager.co.th
