เอเอ็มดี เล็งเห็นปัจจัยเชิงบวก ส่ง AMD Fusion A-Series ซีพียูรุ่นล่าสุดที่มีการประมวลผลภาพวีดีโอระดับ HD และการประมวลผลภาพ 3 มิติ พร้อมคาด Q2/54 มีส่วนแบ่งการตลาด 18% ส่วนยูนิตตั้งเป้าเพิ่มเป็น 30% มั่นใจจะสามารถกินส่วนแบ่งแต่ละแบรนด์ แบรนด์ละ 25% ของยอดการผลิตโน้ตบุ๊ค และเดสก์ทอปภายในปี 2555
นายจักกริช วัชรศักดิ์ศิลป์ ผู้จัดการ AMD ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันการทำงานบนคอมพิวเตอร์ และโน้ตบุ๊กส่วนใหญ่กว่า 70% เป็นการใช้เพื่อความบันเทิง มีเพียง 30% เท่านั้นที่ใช้ทำงานแบบจริงจัง อีกทั้งการใช้งานอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยปี’54 พบว่ามีการเติบโตกว่า 30% หรือประมาณ 20 ล้านคนในประเทศที่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ สอดคล้องกับจำนวนประชากรที่มีคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ และโน้ตบุ๊กรวมกันทั้งหมด 12 ล้านเครื่อง หรือ 25% ของประชากร
ดังนั้นจากปัจจัยต่างๆ ข้างต้นทำให้ล่าสุดบริษัทเอเอ็มดี เปิดตัว “AMD Fusion A-Series” หน่วยเร่งการประมวลผล หรือที่บริษัทเรียกว่า APU เพื่อประมวลผลภาพระดับสูงสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค และเดสก์ทอป ซึ่งมาพร้อมกราฟฟิกระดับ HD โดยมีลักษณะเดียวกันกับซุปเปอร์คอมพิวเตอร์
ทั้งนี้ภายหลังจากเปิดตัว APU ทำให้ยอดขายของเอเอ็มดีเติบโตขึ้น 20% เทียบไตรมาสต่อไตรมาส
ขณะที่สัดส่วนรายได้บริษัทแบ่งเป็นคอนซูมเมอร์ 80% คอมเมอร์เชียล 20% โดยในกลุ่มคอมเมอร์เชียลที่โตขึ้นจะเป็นส่วนของราชการ อาทิเช่นหน่วยงานภายใน กทม. และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นต้น
“ส่วนแบ่งการตลาดเอเอ็มดีในประเทศไทย รวมทุกกลุ่ม ในไตรมาส 1 มี 15% ส่วนในไตรมาสที่ 2 คาดมีส่วนแบ่งในตลาด 18% ขณะที่ถ้าเปรียบเทียบยอดขายเป็นยูนิตในปี’54 ไตรมาส 1 โต 20% พร้อมคาดการณ์ไตรมาสที่ 2 โตเป็น 30% “
AMD Fusion A-Series มีจุดเด่นในเรื่องการผสมผสานนำเอาคอร์ซีพียูตระกูล X86 สูงสุดถึง 4 คอร์เข้ากับชิปกราฟิกระดับกลางที่มีความสามารถในการใช้งาน DirectX 11 จนถึงระดับกราฟิกชิปตระกูล Radeon 400 และการใช้งานแบตเตอร์รีที่ยาวนานถึง 10.5 ชั่วโมง การประมวลภาพวีดีโอระดับ HD การประมวลผลภาพ 3 มิติ รวมไปถึงการทำงานกับข้อมูลแบบอนุกรม ขนานบนโปรเซสเซอร์แบบชิปเดียว ทำให้มีศักยภาพที่ไม่สิ้นสุดสำหรับผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ ที่บรรจุอยู่ในแพกเกจขนาดเล็กลงไปอีกดับ
โดยในระยะแรก AMD Fusion A-Series ได้เริ่มส่งมอบเพื่อจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว ซึ่งจะจำหน่ายเฉพาะโน้ตบุ๊ค และแล็ปท็อปรวม 10 รุ่นก่อน
“บริษัทตั้งเป้ากินสัดส่วนผู้ผลิตแต่ละแบรนด์ที่เป็นพาร์ทเนอร์ แบรนด์ละ 25% ของยอดการผลิตโน้ตบุ๊ค และเดสก์ทอปภายในปี 2555 โดยถือเป็นแผนระยะยาวของบริษัททื่เริ่มตั้งเป้าหมายไว้แต่ปีที่แล้ว”
สำหรับกลยุทธ์ในการทำตลาดโดยตั้งแต่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2553 เอเอ็มดี เริ่มให้ความสำคัญกับการเพิ่มทีมขายมากขึ้น เพื่อให้ทีมขายเหล่านี้ออกไปแนะนำให้ความรู้กับหน้าร้านที่เป็นพาร์ทเนอร์ทั่วประเทศซึ่งในตอนนี้มีเพิ่มมา 6 คน จากเดิมที่จะเน้นเพียงการทำตลาดกับพาร์ทเนอร์อย่างเดียวเท่านั้นไม่ได้ให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าว
ส่วนในช่วงปลายปี’54 นี้เอเอ็มดีจะออกตัวซีพียูใหม่อีกหนึ่งตัวมีชื่อรุ่นว่า “FX” ที่มีการประมวลผลถึง 8 คอร์แต่มีเฉพาะบนเดสก์ทอปเท่านั้น
Company Related Link :
AMD
ที่มา: manager.co.th