Author Topic: “ป้อง” ปฏิเสธ เรียกสาวมาหาที่โรงแรม 2 คน จนเปิดศึกตบกันที่เชียงใหม่  (Read 879 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


“ป้อง” โต้ เรียกสาวเชียงใหม่มาหาที่โรงแรม 2 คน จนผู้หญิงเปิดศึกตบกันนัว จวก เป็นเรื่องตลก ซัด ข่าวไม่มีมูล เผย มีคนคุยแล้วแต่ยังไม่ใช่คนพิเศษ รับ กลัวการใช้ชีวิตคู่ทำให้ยังไม่พร้อมคบใครจริงจัง พร้อมบอก หากจะแต่งงานก็มีเหตุผลเดียวก็คืออยากมีลูก
       
       เป็นหนุ่มเนื้อหอมที่มีข่าวกับสาวๆ ไม่ซ้ำหน้า แต่ล่าสุดก็ทำเอาพระเอก “ป้อง ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์” ถึงกับงานเข้า เมื่ออยู่ๆ ก็มีข่าวว่าไปเที่ยวเชียงใหม่แล้วเรียกสาวมาหาที่โรงแรม 2 คน จนทำให้ 2 สาวเปิดศึกตบกันเพื่อแย่งชิงพระเอกป้อง ทำเอาฉาวข้ามจังหวัด แต่งานนี้หนุ่ม “ป้อง” ออกมาโต้แหลกว่าข่าวไม่มีมูล ดูเป็นเรื่องตลก แต่ยอมรับไปเชียงใหม่มาจริง
       
       “ไม่มีอะไรครับ เชียงใหม่ผมไม่ได้ไปมานานแล้ว ประมาณ 4-5 เดือน ตลกครับเรียกสาวมาอะไร โรคจิตแล้ว ไม่รู้เรื่องเลย ไม่มีมูล ตลกมาก ผมเองก็ไม่ทราบว่าข่าวนี้มาจากไหน เรื่องนี้ไม่จริงเลย ล่าสุดก็มีไปงานที่เชียงใหม่หลายเดือนมากแล้ว เสร็จงานก็กลับโรงแรม ไม่มีอะไรอย่างนั้นครับ ส่วนเรื่องสาวๆ ทั้งสอง ดีนะที่ไม่รู้ว่าใคร(หัวเราะ)”
       
       “กินข้าวก็เป็นน้องๆ เพื่อนๆ กันนี่แหละครับ ก็แค่กินข้าวมื้อเดียวเอง จะไปกินกับใครก็ได้ ถ้าถูกหน่อยก็เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวธรรมดา ไม่ได้เป็นมื้อพิเศษหรือว่าอะไรเลย พาแฟนไปทานนี่ไม่ใช่เลย ส่วนสาวคนที่พาไปซื้อกระเป๋านี่ก็เป็นพี่ครับ เขาเป็นผู้บริหารพารากอน พอดีวันนั้นเอาของไปเปลี่ยนก็ให้พี่เขาช่วยพูดให้หน่อยว่ามันเปลี่ยนได้รึเปล่า ก็แค่นั้นเอง กระเป๋านี่ก็ไม่ได้ซื้อให้สาวที่ไหนครับ ซื้อให้คุณแม่ ถ้าดูภาพดีๆ พี่เขาโตกว่าผม"
       
       "เรื่องเพลย์บอยจริงๆ ข่าวนี้มีมานานแล้ว แต่จริงๆ ไม่มีอะไรเลย มันมีเหตุผลของมันคืออย่างไปพารากอนที่มีภาพก็เพราะว่าไปเปลี่ยนของ ส่วนน้องที่ไปกินข้าวด้วย ก็เป็นพี่น้องกันธรรมดา ก็แค่ข้าวมื้อเดียว ผมยอมรับก็คุยอยู่หลายคนครับ แต่คนที่สนิทที่สุดยังไม่มี เอ้ย...ไม่ใช่อย่างนั้น ก็มีคนที่คุยด้วย แต่ไม่ได้คุยกันแบบเป็นแฟนเป็นเพื่อนเรื่อยเปื่อยมากกว่า อย่างเราไปทำงานหรือถ่ายละครแถวไหน เพื่อนเราอยู่ละแวกนั้นเสร็จงานแล้วก็จะชวนเขาไปกินข้าว ก็เป็นเพื่อนกันไปก่อน เดี๋ยวถ้าจะพัฒนาก็ค่อยว่ากันไป"
       
       "ถามว่าพร้อมมีแฟนมั้ย ผมก็พร้อมนะ ถ้ามีคนที่เขาชอบเรา เราชอบเขาก็อยากจะมีนะครับ เห็นบางคนเห็นเขามีแล้วมีความสุข ก็รู้สึกดีกับเขาไปด้วย ผมเองไม่มีแฟนจริงจังมานานมากแล้ว ทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครมาวินนะครับ ผมก็ดูไปเรื่อยๆ บางทีคนที่เราชอบเขาอาจจะไม่ชอบเราก็ได้ มันอยู่ที่ว่าใจตรงกันรึเปล่า”
       
       “ถ้ามีตอนนี้ได้ก็ดีเหมือนกันนะ คือผมรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจว่า ถ้ามีแล้วเราจะดูแลผู้หญิงคนนึงไป 30-40 ปีได้รึเปล่า อีกหน่อยถ้าตื่นมาแล้วเจอเขาอ้วน เขาไม่สวยแล้ว เหมือนทุกวันนี้จะรับได้รึเปล่า ไหนเราจะต้องดูแลเทคแคร์เขาให้ดี ผมก็เลยรู้สึกว่าถ้าจะมีจริงๆ ต้องรู้สึกแน่ใจก่อน ต้องบอกเลยว่าผมเป็นคนที่คิดเยอะครับ ต้องมั่นใจมากๆจริงๆ ถ้าไม่มั่นใจก็ไม่อยากจะดึงใครเข้ามาในชีวิตทำให้เขามีความทุกข์"
       
       รับ กลัวการใช้ชีวิตคู่จึงทำให้ไม่คบใครจริงจังมานานแล้ว ลั่น ขอดูไปเรื่อยๆ ก่อนสำหรับคนที่คุยอยู่ก็ยังไม่มีใครเข้าตา
       
       "ผมเองกลัวการมีชีวิตคู่นะ แต่พอผมเห็นพ่อแม่ผมเขาก็อยู่กันมาปกติ ผมก็รู้สึกว่าไม่รู้เราจะทำได้รึเปล่า อย่างที่บอกว่าต้องอยู่กับคนๆ นึงเป็นสิบๆ ปี จะอยู่มันก็ต้องอยู่ให้ดีๆ ไม่ใช่อยู่แบบเซ็งๆ กันผมก็ไม่ชอบ ไม่ชอบมีแล้วเลิกแต่งงานแล้วเลิก เหมือนใจเร็วด่วนได้ คบแป๊บก็รีบแต่งอีกพักเลิก ผมว่าอย่างนั้นมันไม่ดีครับ เอาให้มันแน่นอนหน่อยดีกว่า กลัวก็กลัวว่าบางมีเผื่อเรามีกิจกรรมไปทำนั่นนี้ อย่างสมมติแฟนนัดไปดูหนังกับเพื่อนนัดเตะบอล ทุกวันนี้ใจก็อยากไม่อยากไปเตะบอลอยู่แล้วแหละ สมมติว่ามีสาวที่ไหนมานัดชนก็ดีก็คงไปอยู่กับเขา"
       
       "จะว่าหวงความโสดรึเปล่า อยู่แบบนี้มันก็สนุกดี จริงๆ แล้วผมไม่ได้เลือกเยอะอะไรหรอกนะครับ มันต้องเป็นทั้งสองฝ่ายรู้สึกใจตรงกัน ไม่ใช่เป็นเราที่มีใจไปชอบเขาฝ่ายเดียว เขาไม่ชอบผมก็มี หรือบางทีเขามาชอบผมแต่ผมไม่ชอบเขาก็มีเหมือนกัน อย่างที่บอกมันตรงชอบกันทั้งสองฝ่าย ซึ่งนั่นก็ดูจะเป็นเรื่องลำบากนิดนึงสำหรับผม ถามว่าพร้อมมีแฟนมั้ย ผมก็พร้อมนะ ถ้ามีคนที่เขาชอบเรา เราชอบเขาก็อยากจะมีนะครับ เห็นบางคนเห็นเขามีแล้วมีความสุขก็รู้สึกดีกับเขาไปด้วย”
       
       แย้ม ครอบครัวอยากให้เป็นฝั่งเป็นฝาได้แล้ว ลั่น หากจะแต่งงานเป็นเพราะสาเหตุเดียวคืออยากมีลูก
       
       "พ่อผมเองก็เป็นคนจีนนะ เขาก็อยากจะให้มีลูก แต่โชคดีที่พี่สาวผมเขามีหลานให้แล้ว ตอนนี้ก็เล่นกับหลานไปก่อนลืมๆ เรื่องผมไป พ่อผมเขาไม่ได้มานั่งสืบสวนซีเรียสอะไรขนาดนั้นหรอกครับ เขาก็แค่เปรยๆ ว่าแต่งงานมั้ย จะเอารึยัง อายุมากแล้วนะ พี่สาวผมมีลูกแล้วก็จริงแต่เขาก็คงอยากอุ้มหลานที่มาจากลูกชายมากกว่า ก็มีแอบกระซิบบ้างว่าพ่ออย่าเพิ่งซีเรียสเลย”
       
       “ผมเองก็อยากมีลูกนะครับ สาเหตุหลักที่ผมจะแต่งงานเลยเป็นเพราะผมอยากจะมีลูก ถ้าแต่งงานแล้วไม่มีลูกผมก็ไม่รู้จะแต่งงานไปทำไม นี่เป็นความคิดส่วนตัวของผมนะ ผมรู้สึกว่ามีลูกทันตอนพ่อแม่ยังวัยรุ่นอยู่มันก็ดี มันเป็นภาพที่น่ารักดี แต่คงไม่ทันแล้วมั้ง เอาเป็นว่าขอรอพี่แท่ง(ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง)ก่อนแล้วกัน”
       
       ยัน ไม่คิดสานสัมพันธ์กับสาว “ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์” หลังควงคุณแม่ไปออกรายการพร้อมกันในวันแม่ที่ผ่านมา แล้ว 2 คุณแม่แซวให้จับคู่กัน
       
       “ไม่ได้เชียร์อะไรหรอกครับ ล่าสุดก็ไปออกรายการวันวานยังหวานอยู่กับน้องมา ก็เหมือนเป็นสคริปต์พูดให้รายการมันสนุกสนานเท่านั้นเอง ไม่มีอะไรเลย คุณแม่น้องขวัญเขาก็เชียร์เนียน เขาจะกล้าพูด อย่างแม่ผมเขาก็จะเขินๆ ก็สนุกๆ กันครับ พอถ่ายรายการเสร็จก็ไม่มีอะไร สวัสดีแยกย้ายกัน แม่น้องขวัญเขาก็เป็นคนน่ารักครับ ที่เคยได้ยินข่าวกับตัวจริงไม่เหมือนกันเลย เชียร์ไปก็ไม่เป็นผลหรอกครับ เพราะหลังจากวันนั้นก็ไม่ได้ติดต่อสานสัมพันธ์อะไรกัน”
       
       โต้ค่าย “ดาราวีดีโอ” ทาบลงละคร “น้ำเซาะทราย” ประกบ “กบ สุวนันท์ คงยิ่ง” รับ มีติดต่อมาแต่ปฎิเสธไปเพราะคิวไม่ได้
       
       “ผมได้ยินเป็นเรื่องอื่นนะ แต่รู้สึกว่าคิวจะไม่ได้ เสียดายอยู่เหมือนกัน ตอนนี้ผมกำลังถ่ายละครกับดาราวีดีโออยู่ด้วยมั้งครับ ทำงานกับค่ายนี้ก็สนุกโอเคดี เขาคงเห็นว่าเราโอเคเลยอยากจะร่วมงานกันอีกมั้งครับ คือยอมรับว่าเขาชวนเล่นละครอีกเรื่องนึง แต่ว่ายกเลิกไป เพราะคิวมันไม่ได้ ก็เสียดายอยู่เหมือนกัน ส่วนเรื่องที่ปฎิเสธไปเล่นกับใครนั้นผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ไม่ใช่เรื่องน้ำเซาะทราย และไม่ใช่กับคุณกบครับ”

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)