เทคโนโลยีแว่น 3 มิติ กำลังจะเกิดขึ้นแล้ว แว่นตา 3 มิติครอบจักรวาลที่สามารถใช้กับทีวี 3 มิติหลายแบรนด์ใกล้แจ้งเกิดแล้ว เมื่อ 4 บริษัทใหญ่อย่างพานาโซนิค ซัมซุง โซนี่ และบริษัทผลิตแว่นตา XPAND ประกาศพร้อมใจพัฒนามาตรฐานเทคโนโลยีกลางสำหรับแว่นดูภาพ 3 มิติชนิด active shutter วางแผนเริ่มเปิดตัวไลเซนส์มาตราฐานเทคโนโลยีแว่น 3 มิติได้ในช่วงก.ย.ปีนี้ ก่อนจะส่งตัวแว่นวางตลาดจริงช่วงปี 2012
โครงการพัฒนามาตรฐานแว่นตา 3 มิติครอบจักรวาลนี้มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า Full HD 3D Glasses Initiative เป้าหมายหลักคือการสร้างมาตรฐานสำหรับแว่นตา 3 มิติชนิด active shutter ที่สามารถใช้งานได้กับชุดอุปกรณ์หน้าจอแสดงภาพ 3 มิติของผู้ผลิตหลายแบรนด์ในตลาด ต่างจากปัจจุบันที่ชุดอุปกรณ์ 3 มิติแต่ละแบรนด์จะต้องใช้แว่นเฉพาะแบรนด์เท่านั้น ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อจำกัดหลักของการใช้งานทีวี 3 มิติในขณะนี้
ความร่วมมือครั้งนี้เกิดขึ้นบนแผนซึ่งบริษัท XPAND 3D เคยประกาศไว้เมื่อเดือนมี.ค.ปี 2010 ซึ่งระบุว่าการสร้างมาตรฐานหลักหรือ universal standard ให้กับแว่นตา 3 มิติชนิด active shutter ในตลาดจะทำให้ต้นทุนทั้งในแง่ของผู้บริโภคและผู้จำหน่ายลดลง บนความเชื่อว่าผู้บริโภคจะเลิกมองว่าแว่นตาคืออุปสรรคหลักในการซื้อทีวี 3 มิติเครื่องใหม่ ตามผลสำรวจที่บริษัทวิจัย NPD Group พบเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา
แว่นตา 3 มิติชนิด active shutter มีหลักการทำงานต่างจากแว่นสีน้ำเงินแดงในอดีต โดยแว่นสีน้ำเงินแดงดั้งเดิมนั้นจะทำให้ตาแต่ละข้างของผู้ชมมองเห็นภาพที่มีมุมมองต่างกันในเวลาพร้อมกัน ซึ่งการซ้อนภาพสีน้ำเงินและแดงจะถูกแยกออกเป็น 2 ภาพเมื่อมีการมองผ่านแว่นตาน้ำเงิน-แดง
แต่แว่นตา 3 มิติชนิด active shutter จะไม่แยกภาพด้วยสี โดยจะใช้วิธีเปิดปิดภาพสำหรับตาแต่ละข้าง เหมือนชัตเตอร์ที่คอยเปิดปิดภาพที่ผู้ชมจะได้เห็นด้วยตาแต่ละข้างอย่างรวดเร็ว การเปิดปิดของแว่นตาแต่ละข้างจะสอดคล้องกับภาพที่สลับบนหน้าจอ ซึ่งจอและแว่นจะส่งถ่ายข้อมูลระหว่างกันผ่านคลื่นวิทยุและคลื่นอินฟราเรดแล้วแต่เทคโนโลยี ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือผู้ชมสามารถเห็นเป็นภาพ 3 มิติ โดยที่ภาพ 3 มิตินั้นยังสามารถมองได้ชัดเจนด้วยตาเปล่า
ที่ผ่านมา ผู้ผลิตทีวี 3 มิติลงมือพัฒนาแว่นตาสำหรับแบรนด์ตัวเองอย่างต่างคนต่างทำ ราคาจำหน่ายแว่นจึงมีหลากหลายตั้งแต่ราคา 40 เหรียญไปถึง 100 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1,200-3,000 บาท เบื้องต้นมีการคาดการณ์ว่า แว่นตา 3 มิติที่สามารถชมได้ทุกแบรนด์จะมาในราคาราว 200 เหรียญหรือประมาณ 6,000 บาท โดยจะสามารถใช้กับทีวีที่ต้องการแว่นซึ่งรองรับคลื่นวิทยุและคลื่นอินฟราเรด ซึ่งเป็นทีวี 3 มิติส่วนใหญ่ในปี 2011 ได้
ความร่วมมือครั้งนี้ทำให้หลายฝ่ายคาดหวังว่า ทีวี 3 มิติจะมีอนาคตที่สดใสยิ่งขึ้น เนื่องจากการสำรวจโดยบริษัท Nielsen บนกลุ่มผู้บริโภคออนไลน์มากกว่า 27,000 คนเมื่อเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา พบว่า 59% ของชาวอเมริกาเหนือไม่มีความสนใจที่จะซื้อทีวี 3 มิติ ขณะที่บริษัทวิจัย SNL Kagan พบว่ามีเพียง 2% ของครัวเรือนสหรัฐฯที่คิดว่าจะซื้อทีวี 3 มิติภายในปี 2011
ทุกสถิติสวนทางกับผลิตภัณฑ์จอแอลซีดี 3 มิติที่มีแนวโน้มสดใสกว่า โดย NPD Group พบว่าการจัดส่งหน้าจอ 3D LCD panel นั้นมีอัตราเติบโตกว่า 104% ช่วงไตรมาส 1 ปี 2011 ที่ผ่านมา
Company Related Link :
Xpand
ที่มา: manager.co.th