หลังจากที่ผ่านร้อนผ่านหนาวในวงการอุตสาหกรรมจอแก้วมาครึ่งศตวรรษ ล่าสุด โซนี่ บริษัทอิเล็คทรอนิคส์ชื่อดังจากแดนปลาดิบ ได้ประกาศเตรียมแผนการปรับโครงสร้างสินค้าตลาดโทรทัศน์ให้อยู่ในรูปแบบใหม่ หลังธุรกิจที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานทำท่าชะลอตัวลง ตามรายงานจากรอยเตอร์
โดยในรายงานข่าวได้ระบุว่า โซนี่ไม่ได้รับผลกำไรจากตลาดโทรทัศน์มาเกือบแปดปีแล้ว ถึงแม้ว่าจะมีการคาดการณ์ยอดขายประจำปีเกือบ 22 ล้านชุดก็ตาม ซึ่งถึงแม้ดูเหมือนจำนวนตัวเลขจะสูงก็ตามที แต่มันก็มีจำนวนน้อยกว่าที่โซนี่คาดไว้เมื่อต้นปีถึงห้าล้านเครื่อง ขณะที่ด้านตัวแทนหญิงของบริษัท เปิดเผยว่า "โซนี่จะทำการตรวจสอบทุกสิ่งอย่างจากทั้งขั้นตอนการพัฒนาจนถึงการผลิตเพื่อการขาย" ทั้งนี้ โซนี่ได้เข้าสู่ตลาดโทรทัศน์มาตั้งแต่ปี 1960 ด้วยรุ่นจอขาวดำ แต่ก็ยังไม่ได้รับการกล่าวถึงมากนักจนกระทั่งถึงการมาของโทรทัศน์ซีรีส์ Trinitron ที่ทำให้โซนี่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม โดยโซนี่ได้เริ่มทำการแนะนำสินค้าซีรีส์ Trinitron ในปี 1968 และนั่นก็ทำให้บริษัทได้รับคำชมเชยสำหรับการแสดงภาพที่ชัดเจนขึ้น และหลังจากนั้นเป็นต้นมา มันก็ส่งผลให้โซนี่รั้งตำแหน่งผู้นำในตลาดโทรศัพท์อันดับต้นๆ อยู่เสมอ ก่อนจะแผ่วลง เมื่อเจอกับคู่แข่งอย่างจอพลาสม่า และแอลซีดี สำหรับสินค้าซีรีส์ Trinitron นั้นได้ยุติการผลิตลงในปี 2008 หลังจากที่โซนี่้ได้หันไปเปิดตัวผลิตภัณฑ์โทรทัศน์บางเฉียบอย่าง แอลซีดีทีวี ภายใต้ชื่อซีรีส์ WEGA และเปลี่ยนชื่อเป็นแบรนด์ BRAVIA ในปี 2005 และนอกจาก บริษัทโซนี่จะเริ่มประสบความย่ำแย่ในตลาดทีวีในระยะหลังแล้ว บริษัทจากแดนปลาดิบรายนี้ยังต้องเผชิญเคราะห์กรรมในธุรกิจอีกครั้งกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวในบ้านเกิดครั้งใหญ่ที่ต้องได้รับการจารึกในประวัติศาสตร์เมื่อวันที่ 11 มีนาคม ซึ่งนั่นส่งผลให้โซนี่ต้องปิดโรงงานลงถึงหกแห่ง ถัดจากนั้นอีกเพียงเดือนเดียว โซนี่ก็ต้องเผชิญเหตุการณ์ร้ายอีกครั้งเมื่อ PlayStation Network ถูกแฮ็คเกอร์ตัวดีทำการเจาะขโมยข้อมูลบัญชีของผู้ใช้ไปกว่า 77 ล้านราย จนทำให้บริการดังกล่าวต้องตัวปิดลงเป็นเวลากว่าสามสัปดาห์ และจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาทั้งหมดก็ส่งผลให้ราคาหุ้นของโซนี่สะดุดลงด้วยเช่นเดียวกัน
Source : techspot
ที่มา: pantip.com
