“นีโน่” ไม่ท้อ เดินหน้าปั๊มลูกต่อ แต่ทำใจถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไรเพราะอายุเยอะแล้ว ยืนยันขอมีด้วยวิธีธรรมชาติ ไม่พึ่งมือหมอ เผย “โอ วรุฒ” น้องรักมีสภาพจิตใจและร่างกายดีขึ้น พร้อมกลับมาทำงานแล้ว บอก ของานให้ตลอดแต่ติดที่ผู้ใหญ่ยังไม่ให้โอกาส
แต่งงานมาก็หลายปีดีดักแต่ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีลูกเสียที สำหรับพิธีกรอารมณ์ดี “นีโน่ เมทนี บูรณะศิริ” ที่แต่เจ้าตัวก็ยังไม่คิดท้อ บอกจะปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ และไม่คิดที่จะพึ่งวิธีการทางวิทยาศาสตร์แน่นอน พร้อมออกปากขอโอกาสจากผู้ใหญ่ป้อนงานให้น้องรัก “โอ วรุฒ วรธรรม” ที่ก่อนหน้านี้โดนสั่งแบน หลังจากติดเหล้าอย่างหนัก อีกทั้งยังมีปัญหาครอบครัวรุมเร้าจนสุขภาพไม่ไหว บอก ตอนนี้โอพร้อมที่จะทำงานได้เหมือนเดิม 100เปอร์เซ็นต์แล้ว
“เรื่องลูกยังไม่ได้ถอดใจ แต่ไม่ได้รีบเพราะเราอายุเยอะแล้ว แล้วอีกอย่างเราต่างทำงานเยอะทั่งคู่ ถ้ามีหรือไม่มีตอนนี้เราก็รู้สึกเฉยๆ แล้วทั้งคู่เพราะว่าเราอยู่กันมีความสุขดี ผมเลี้ยงเขาเหมือนลูก เขาก็เลี้ยงผมเหมือนลูก (หัวเราะ) เราอยู่กันเหมือนเพื่อนมากกว่าอยากจะไปไหนก็ไป”
“ผมไม่ได้ปรึกษาเรื่องมีลูกกับใครเลยนะ อย่างวิลลี่เพราะลี่เขาก็เหนื่อยเหมือนกันในการมีลูกเพราะฉะนั้นของผมหนักกว่า เพราะผมไม่สามารถทำอะไรได้ในทางวิทยาศาสตร์ ต้องให้มาเองโดยธรรมชาติจะมาก็มา แต่ไม่ท้อหรอกครับเรื่องแบบนี้ มันไม่มีใครท้อหรอก ผู้ชายไม่มีใครท้อหรอกครับ”
“จอยเขาแรกๆ ก็บ่นว่าอยากจะมีเพราะเขามีหลานเยอะ แต่มีผมสองคนที่ไม่มี เราก็มองว่าทำไมเราไม่มี แต่คนอื่นมี ตอนนี้ก็เลยเลี้ยงหลานดีกว่าอยากเล่นก็ไปเล่นด้วย ไม่มีเวลาก็ไม่ต้องไปเล่น มันก็สบายๆ ผมทำงานเกี่ยวกับศาลเยาวชนด้วย ผมเห็นเหตุการณ์เรื่องราวสิ่งที่เห็นเกี่ยวกับเยาวชนเพราะตอนนี้ต้องเลี้ยงดูเขาเป็นอย่างดี เพราะสภาพแวดล้อมมันพาเขาไปในทางที่ผิดค่อนข้างง่าย ถึงแม่ครอบครัวดีแต่คบเพื่อนไม่ดี เราอาจไม่มีเวลาดูแลเขาตลอด 24 ชั่วโมง เราก็กลัวเหมือนกัน”
“เรื่องลูกบุญธรรมคงไม่ขอมาเลี้ยงหรอกครับ เลี้ยงหลานดีดว่า เพราะถ้าไม่ใช่ลูกของเราเองก็จะไม่ขอมาเลี้ยงกลัวเลี้ยงเขาไม่ดีเหมือนพ่อแม่เขา เราไม่ดีอยากมีลูกถึงขั้นตัวสั่นอะไรขนาดนั้น”
แย้มน้องชายคนสนิท “โอ วรุฒ” อยากคืนวงการ บอก ตอนนี้อีกฝ่ายได้ปรับปรุงตัวเองแล้ว แต่ยังไงก็ต้องขอโอกาสจากผู้ใหญ่ด้วย
“เรื่องโอ ยังติดต่อกันอยู่ สุขภาพเขาดีขึ้นแล้ว ตอนนี้ก็รอวันกลับมาทำงาน ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับทางผู้ใหญ่เมตตา เพราะเขาก็อยากกลับมาทำงานใจจะขาดอยู่แล้ว สภาพจิตใจเขาคงเครียดอยู่แล้ว แต่ก่อนมีงานแล้วตอนนี้ไม่ได้ทำเลย ก็คงเครียดเป็นธรรมดา แต่ด้วยสุขภาพก็คิดว่าดีแล้ว ซึ่งผมคิดว่าโอน้องชายผมคงจะกลับเข้าสู่วงการแต่ต้องขึ้นกับผู้ใหญ่”
“แต่ผมก็คุยกับผู้ใหญ่ให้ตลอด แต่โอเขาสร้างเรื่องไว้เยอะ (หัวเราะ) ก็ต้องค่อยๆ แก้ไปทีละเปราะๆ ผมว่าไม่มีใครโกรธเขาหรอกเดี๋ยวคงดีขึ้น ผมว่าตอนนี้เขาน่าจะพร้อม100 เปอร์เซ็นต์แล้ว สุขภาพดีขึ้น เรื่องดื่มแต่ก็มีบ้างแต่น้อยลงบ้าง ผมเองก็เตือนกันมาไม่รู้กี่ครั้งกี่หน แต่ตรงนี้เราก็เข้าใจโอ เขาเองมีเรื่องให้เครียดเยอะ บางครั้งเขาไม่พูดกับใคร เขาก็ระบายออกด้วยการดื่ม”
ที่มา: manager.co.th
