“เอมี ไวน์เฮาส์” ลาโลกไปได้ประมาณ 1 สัปดาห์เท่านั้น แต่ก็เริ่มมีการพูดถึง “มรดก” ทางดนตรีที่นักร้องสาววัย 27 ปี ทิ้งเอาไว้กันแล้ว และหลายฝ่ายก็เชื่อว่ามันน่าจะ “มีมูลค่ามหาศาล” แม้คนใกล้ชิดยังยืนยันว่าไม่มีการตัดสินใจใด ๆ ก็ตาม
นักร้องสาวมากพรสวรรค์ เอมี ไวน์เฮาส์ ผู้ใช้ชีวิตอย่างดิ้นรนมาตลอด จากปัญหาส่วนตัวมากมาย ทั้งการติดยาเสพติด, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และความกดดันจากชื่อเสียงที่ถาโถมเข้ามาอย่างไม่ได้ตั้งตัว ได้เสียชีวิตลงอย่างน่าเศร้าเมื่อวันที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา ปิดฉากชีวิตของนักร้องสาวผู้ที่ทั้งมากไปด้วยความสามารถ และมีชีวิตที่เต็มไปด้วยความเปราะบาง ขณะที่เธอมีอายุเพียง 27 ปีเท่านั้น แต่สำหรับเรื่องธุรกิจต้องยอมรับว่า มันไม่ได้จบไปพร้อมกับชีวิตของเธอแต่อย่างใด
แม้ชีวิตของ ไวน์เฮาส์ จะปิดฉากลงไปแล้ว แต่สำหรับบริษัทเพลงมูลค่าทางธุรกิจของ “เอมี ไวน์เฮาส์” ยังคงมีอยู่ และอาจจะเพิ่มขึ้นอีกก็ได้ หากทุกอย่างถูกจัดการอย่างถูกต้องมีระบบ
จากวันที่เสียชีวิต ยอดขายผลงานเพลงของ เอมี ไวน์เฮาส์ ก็พุ่งสูงขึ้นตามไปด้วย ทั้งยอดจำหน่ายเพลงผ่านระบบดิจิตอลทางอินเตอร์เน็ต ที่เพิ่มมากขึ้นเป็น 2,000% ในช่วงสัปดาห์หลังการเสียชีวิตของเธอ ขณะที่ผลงานชุด Back to Black ก็กลับเข้ามาติดอันดับในชาร์ตอัลบั้มของ Billboard อีกครั้ง ซึ่งอัลบั้มชุดนี้ รวมถึงงานชุดแรกของเธอที่ชื่อว่า Frank ยังพุ่งขึ้นไปติดอยู่ใน TOP 5 ของเว็บไซต์ Amazon ในขณะนี้ นอกจากนั้นผลงานเพลงจำนวนถึง 7 เพลงของ ไวน์เฮาส์ ยังกลับเข้าไปติดใน 40 อันดับแรก ของการจัดอันดับเพลงในอังกฤษ ในสัปดาห์หลังจากการเสียชีวิตของเธอด้วย
ย้อนหลังไปเมื่อเดือน ก.ค. 2010 “เอมี ไวน์เฮาส์” เคยเปิดเผยว่าเธอกำลังจะมีอัลบั้มใหม่ออกมาภายในระยะเวลา 6 เดือนข้างหน้า แต่สุดท้ายมันก็ไม่ได้เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามงานเพลงที่ยังทำไม่เสร็จนี่เอง ที่หลายฝ่ายเชื่อว่าจะเป็น “ขุมทอง” ของเจ้าของลิขสิทธิ์ต่อไป
ตลอดการโลดแล่นในวงการเพลงมา 13 ปี ไวน์เฮาส์ มีผลงานเพลง 2 อัลบั้มเท่านั้น แต่โฆษกส่วนตัวของเธอ คริส กู๊ดแมน ได้ประกาศเมื่อวันพฤหัสที่แล้วว่า ไวน์เฮาส์ ยังทิ้งเพลงที่เธอบันทึกเสียงเอาไว้ และยังไม่ได้ถูกเผยแพร่อีก “มากมาย” แต่ขณะนี้ยังไม่ได้มีการปรึกษาพูดคุยว่าจะจัดการอย่างไรกับผลงานเหล่านั้น และยังไม่มีการยืนยันว่าเพลงต่าง ๆ ที่เธอได้บันทึกเสียงเอาไว้ ได้เสร็จสมบูรณ์ไปถึงขั้นไหนแล้ว
หนังสือพิมพ์เมืองผู้ดี The Guardian ได้อ้างแหล่งข่าวของ Universal Music รายหนึ่งที่กล่าวว่านักร้องสาวผู้ล่วงลับทิ้งงานเพลงซึ่งพอจะเป็นรูปเป็นร่างแล้ว ไว้หลายสิบเพลง
แต่ทางฝ่าย ซาลาม เรมี โปรดิวเซอร์ที่เคยรวมงานกับ ไวน์เฮาส์ ทั้งในอัลบั้มสองชุดของเธอ รวมถึงผลงานใหม่ที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ด้วย ให้ข้อมูลกับรายการของสถานีวิทยุ Power 105.1 ของนิวยอร์กว่า เพลงของ ไวน์เฮาส์ ที่เสร็จสิ้นสมบูรณ์พร้อมเผยแพร่ทันทีนั้นมีอยู่ไม่มากนัก ขณะเดียวกันผู้จัดการมรดกของเธอ ก็ยังไม่ได้ตัดสินใจอนุญาตให้นำผลงานต่าง ๆ เหล่านั้นออกมาเผยแพร่
“เรามีอะไรอีกหลายอย่างที่ต้องทำ มีเพลงที่บันทึกเอาไว้แล้ว แต่มีสิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรกอยู่ผมว่านะ เราต้องพยายามใส่ใจว่าจะช่วยเหลือ หรือมีอะไรที่ครอบครัวของเธอต้องการบ้าง” เรมี กล่าว
มีศิลปินชื่อดังมากมายที่เสียชีวิตไปก่อนวัยอันควร แต่ผลงานของพวกเขาและเธอยังถูกนำมาเผยแพร่อย่างต่อเนื่องภายหลังการเสียชีวิต ที่ตอนนี้ เอมี ไวน์เฮาส์ ก็กำลังจะไปอยู่ในกลุ่มนั้นแล้ว
ในการเก็บตกผลงานของศิลปินผู้ล่วงลับ นักวิจารณ์ชื่อดัง “จอห์น ไอเซิลวู๊ด” แสดงความเห็นว่า การปล่อยผลงานออกมาภายหลังการเสียชีวิตของศิลปิน อาจจะช่วยทั้งส่งเสริมให้ชื่อของศิลปินรายนั่น ๆ ยิ่งใหญ่กลายเป็นตำนานขึ้นไปอีก แต่หากทำกันแบบไม่รอบคอบ ผลก็อาจจะออกมาตรงกันข้าม
จอห์น เลนนอน, เอลวิส เพรสลีย์ รวมถึง ไมเคิล แจ็คสัน คือศิลปินที่ทำเงินทองให้กับบริษัทต้นสังกัดอย่างมากมาย แม้ว่าพวกเขาเหล่านี้จะจากโลกไปแล้ว
“บริษัทเพลงพร้อมอยู่แล้วที่จะหากินกับมรดกตกทอดของศิลปินผู้ล่วงลับ” ไอเซิลวู๊ด แสดงความเห็น “แต่ถ้าพวกเขาปล่อยผลงานที่ต่ำกว่ามาตรฐานออกมา มันก็อาจจะเป็นผลในทางลบต่อศิลปินได้เหมือนกัน”
เขายังยกตัวอย่างศิลปินอย่าง เจฟฟ์ บั๊กลีย์ ที่จมน้ำตายในปี 1997 หลังจากมีผลงานเพียงชุดเดียว อันได้แก่อัลบั้ม Grace ที่ออกขายก่อนหน้าการจากไปของเขา 3 ปี และกลายเป็นผลงานที่ได้รับการยกย่องจากทุกฝ่าย แต่ผลงานที่ออกจำหน่ายภายหลังการเสียชีวิตของ เจฟฟ์ บั๊กลีย์ กลับมีคุณที่ตกต่ำลงไป
“หลังจากเขาเสียชีวิต ก็มีผลงานแย่ ๆ ออกวางขายตามมาเต็มไปด้วย ผมไม่คิดว่างานเหล่านั้นจะช่วยยกระดับชื่อเสียงของศิลปินได้ เป็นสิ่งเดียวที่เกิดขึ้นกับ จิมี เฮนดริกซ์ นั่นแหละ ที่เมื่อเขาตายก็เริ่มมีผลงานอัลบั้มต่าง ๆ ออกวางจำหน่ายเต็มไปหมด และส่วนใหญ่ก็ไม่น่าพึงพอใจเลย” นักวิจารณ์เพลงคนดังอธิบาย
สำหรับกรณีของ จิมี เฮนดริกซ์ มือกีตาร์ที่ยิ่งใหญ่ และทรงอิทธิพลต่อการเล่นกีตาร์ไฟฟ้ามากที่สุดคนหนึ่งตลอดกาล มีผลงานอัลบั้มเต็มทั้งหมด 3 ชุด ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตลงในปี 1970 แต่หลังจากนั้นมีการนำผลงานต่าง ๆ ทั้งบันทึกการแสดงสด, เพลงที่อัดไว้แต่ยังไม่เคยถูกเผยแพร่ และการนำเพลงของคนอื่นมาบรรเลง มารวบรวมเป็นอัลบั้มเพลงเพื่อออกวางจำหน่าย ถึงตอนนี้ก็นับได้กว่า 40 ชุดแล้ว ซึ่งก็มีหลายชิ้น ที่ผลงานเหล่านั้นถูกวิจารณ์ว่ามีคุณภาพไม่ได้มาตรฐาน
ซึ่งนักวิจารณ์เพลงอย่าง จอห์น ไอเซิลวู๊ด มองการทำงานลักษณะนี้ว่าเป็นเรื่องสุ่มเสี่ยงอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับการกรณีหยิบเอาผลงานที่ยังไม่เสร็จมาสานต่อ “มันเป็นเรื่องอันตรายจริง ๆ ที่จะเอาเพลงที่ทำค้างเอาไว้มาทำให้สมบูรณ์” เขากล่าว
อันดับศิลปินเพลงผู้จากไป ที่ยังคงทำรายได้มหาศาลในช่วงปีทีผ่านมา
1. ไมเคิล แจ็กสัน 275 ล้านเหรียญ
2. เอลวิส เพรสลี่ย์ 60 ล้านเหรียญ
3. จอห์น เลนนอน 17 ล้านเหรียญ
4. เจมี่ เฮนดริกซ์ 6 ล้านเหรียญ
ที่มา: manager.co.th