ดูทว่าแอปเปิ้ลจะเป็นต่อ เอชทีซี ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจากไต้หวันอยู่ไม่น้อยในช่วงเดือนที่ผ่านมา เมื่อคณะกรรการการค้าสหรัฐฯ หรือไอทีซี มีคำสั่งชี้ขาดในเบื้องต้นว่า ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์จากไต้หวันรายนี้ ละเมิดสิทธิบัตรถึงสองฉบับของแอปเปิ้ลจริง
ซึ่งตามหลักทฤษฏีแล้ว การตัดสินชี้ขาดดังกล่าวสามารถนำไปสูู่การที่ฝ่ายที่เป็นผู้ชนะสามารถสั่งห้ามการนำอุปกรณ์เหล่านั้นเข้ามายังประเทศสหรัฐอเมริกาได้ แต่อย่างไรก็ดี หลังคำตัดสินเพียงไม่กี่สัปดาห์ เอชทีซี ก็ได้ออกตัวปะทะกับแอปเปิ้ลอีกครั้ง ด้วยการงัดอีกหนึ่งข้อหาที่แตกต่างแต่เป็นประโยชน์ต่อบริษัทมาฟ้องแก้คืน ซึ่งอย่างไรก็ดี มันก็ทำให้ เอชทีซีสามารถคว้าชัยชนะมาครองได้เป็นผลสำเร็จ เมื่อคณะกรรมการการค้าของสหรัฐฯ อีกชุดหนึ่ง ชี้ขาดให้แอปเปิ้ลมีความผิดฐานละเมิดสิทธิบัตรที่บริษัท S3 Graphics เป็นเจ้าของ ทั้งในเครื่องคอมพิวเตอร์แมค และแพลตฟอร์มไอโอเอส และหลังจากนั้น เพียงไม่กี่วันต่อมา เอชทีซีก็ได้ประกาศเข้าซื้อกิจการบริษัทกราฟฟิคด้วยเม็ดเงินมูลค่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อเพิ่มผลงานสิทธิบัตรให้ตัวเองมากยิ่งขึ้น และทั้งนี้ ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นกระแสร้อนที่สาดใส่กันไปมา แต่ Winston Yung หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของเอชทีซีก็ยืนยันกับแหล่งข่าวว่า พวกเขาพร้อมที่จะเข้าเจรจากับแอปเปิ้ล "พวกเราพร้อมเปิดรับทุกวิธีการแก้ปัญหา ตราบใดที่วิธีการแก้ปัญหาและเงื่อนไขมีความยุติธรรมมรวมถึงมีเหตุผลเหมาะสม ถึงแม้จะมีคำตัดสินในขั้นแรกออกมาแล้วก็ตาม" ซึ่งนั่นก็หมายความว่า ถ้าแอปเปิ้ลยินดีที่จะโดดเข้ามาร่วมการเจรจาในครั้งนี้แล้ว นั่นก็จะยิ่งทำให้เอชทีซีมีอำนาจในการต่อสู้กับผู้ผลิตแอนดรอยด์รายอื่นๆ อย่างซัมซุง และโมโตโรล่ามากยิ่งขึ้นอีกด้วย รวมถึงแผนการดังกล่าวก็ยิ่งสร้างความพึงพอใจให้กับไมโครซอฟท์ ที่ซึ่งยังมีคะแนนห่างไกลจากแอนดรอยด์อยู่มากอีกด้วย เนื่องจากตัวแพลตฟอร์มแอนดรอยด์ถูกลดความน่าสนใจลง
Source : TechSpot
ที่มา: pantip.com