หลังจากที่ไมโครซอฟท์ได้ใช้ความพยายามอย่างหนักในการผลักดันเซิร์ซเอ็นจิ้น บิง (Bing) ให้ติดตลาดมาตั้งแต่การก่อตั้งเมื่อปี 2009 แต่ถึงกระนั้น ปัจจุบันนี้ มันก็ยังคงทำให้ผู้ผลิตระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์เบอร์หนึ่งของโลกจำต้องครองอันดับที่สองของตลาดเซิร์ซเอ็นจิ้นอแบบเสียไม่ได้ ดังนั้นสองนักเขียนจาก นิวยอร์ก ไทม์ จึงเชื่อว่า ภายในอนาคตอันใกล้นี้ ไมโครซอฟท์อาจจะจำต้องมีการแบ่งเค้กบางส่วนออกไป โดยอ้างอิงจากตัวเลขงบประมาณล่าสุดที่ บิง ขาดทุนถึง 2.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ทั้งนี้ บิง ก็ได้ใช้ความพยายามในการที่จะแข่งขันกับเจ้าตลาดอย่าง กูเกิล ซึ่งไมโครซอฟท์ก็สามารถคว้าส่วนแบ่งการตลาดได้เกือบ 30% ในสหรัฐฯ ขณะที่กูเกิลรีบออกมาอ้างว่า เวลานี้มันมีอัตราการใช้งานถีบตัวมากขึ้นกว่าเดิมถึงสองเท่า นอกจากนี้ในรายงานดังกล่าว สองนักเขียนยังเชื่ออีกด้วยว่า บิงอาจจะมีมูลค่ามากถึง 11 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับผู้จะซื้อ ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนสามารถนอนหลับได้ง่ายขึ้น อย่างน้อยก็ภายในอนาคตอันใกล้นี้ ส่วนความคิดที่ว่า ไมโครซอฟท์อาจจะขาย บิง นั้น สองนักเขียนก็เชื่อว่า มันดูจะไม่แปลกสักเท่า ถ้าผู้ซื้อมีศักยภาพที่สามารถกระทำได้ โดยตามการวิเคราะห์จากรายงาน สองนักเขียนได้อ้างอิงถึง กระแสข่าวก่อนหน้าที่ว่า แอปเปิ้ลมีความสนใจที่จะเข้าซื้อบริการวีดีโอสตรีมมิ่ง ฮูลู (Hulu) เพื่อเร่งนำเสนอให้กับบริการของตัวเอง ซึ่งถ้ามันเป็นจริงเช่นนั้น เว็บเซิร์ซก็จะทำให้ผลิตภัณฑ์ไลน์ ไอโอเอส ทะยานความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ขณะที่อีกด้านหนึ่ง สองผู้เขียนก็เชื่อว่า ถ้าเฟซบุ๊คจะใช้บิงเป็นเซิร์ซเอ็นจิ้นของตัวเอง มาร์ค ซักเกอร์เบิร์กก็จะสามารถต่อสู้กับบริการ กูเกิล+ ได้มากขึ้น และถ้ากลับกัน กูเกิลจะเข้าซื้อ บิง นั้น สองผู้เขียนเชื่อว่า มันไม่น่าจะเป็นไปได้ และนอกจากนี้ ถึงแม้ว่า บิงจะเป็นศูนย์กลางอนาคตของไมโครซอฟท์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดมือถือ ที่ซึ่งเป็นแหล่งที่มีอัตราเติบโตเร็วมากที่สุด แต่ท้ายที่สุดแล้ว เหตุผลหลักที่ทำให้ไมโครซอฟท์ต้องการให้วินโดว์โฟนประสบความสำเร็จ นั่นก็เป็นเพราะรายได้จากที่มาจากโฆษณาออนไลน์บนเซิร์ซเอ็นจิ้นนั่นเอง นอกจากนี้ ตลาดเซิร์ซเอ็นจิ้นบนมือถือ ยังกลายเป็นกาวประสานเข้ากับบริการอื่นๆ ที่มีมากมายเข้ามาด้วย ซึ่งเป็นที่ที่ต้องการประสบความสำเร็จอย่างเต็มที่
Source : techspot
ที่มา: pantip.com