ศิลปินสาวผู้ได้รับการจดจำทั้งในแง่ของพรสวรรค์ทางดนตรีอันล้นเหลือ และอีกด้านกับชีวิตส่วนตัวที่เต็มไปด้วยปัญหา โดยเฉพาะการใช้ยาเสพติด - “เอมี ไวน์เฮาส” ได้เสียชีวิตลงแล้ว หลังเจ้าหน้าที่พบศพของนักร้องสาวชื่อดัง ที่บ้านของเธอเองในเขตลอนดอนเหนือ แต่ยังไม่มีการยืนยันถึงสาเหตุของการเสียชีวิต
ในแถลงการณ์ของสถานีตำรวจกรุงลอนดอนได้กล่าวถึงเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า เอมี ไวน์เฮาส์ วัย 27 ปี ได้เสียชีวิตที่บ้านของเธอในเขตลอนดอนเหนือ ในช่วงบ่ายของวันที่ 23 ก.ค. ตามเวลาท้องถิ่น โดยเธอสิ้นลมลงก่อนที่รถพยาบาลจะเดินทางไปถึง และขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ถึงสาเหตุของการเสียชีวิต แต่หลายฝ่ายสงสัยว่าอาจมาจากอาการเสพยาเกินขนาด เพราะปัญหาการใช้ยาเสพติดมาอย่างยาวนานของเจ้าตัว
สาวมากพรสวรรค์
จากเด็กสาวเชื้อสายยิวที่เติบโตมาในย่านลอนดอนเหนือ มีบิดาเป็นคนขับรถแท็กซี่ และมารดาเป็นเภสัชกร เอมี ไวน์เฮาส์ เริ่มฉายแววความโดดเด่นทางดนตรีมาตั้งแต่อายุประมาณ 10 ขวบหลังตั้งวงดนตรีแร็พกับกลุ่มเพื่อน ๆ หลังจากนั้นจึงได้เข้าเรียนที่ Sylvia Young Theatre School สถาบันที่เปิดสอนวิชาดนตรีสำหรับเด็ก ๆ กระทั่งได้ศึกษาต่อที่ Brit School สถาบันศิลปะ ,ดนตรี และการแสดง ชั้นนำของอังกฤษในเวลาต่อมา
เส้นทางในวงการเพลงของ ไวน์เฮาส์ เด่นชัดขึ้นมาเมื่อเธอได้เซ็นสัญญาเพื่อออกผลงานเพลงกับ 19 Management บริษัทของ ไซมอน ฟุลเลอร์ ผู้ริเริ่มรายการประกวดร้องเพลงสุดฮิต Pop Idol
แต่อัลบั้มเดี่ยวชุดแรก Frank ที่ออกวางจำหน่ายในปี 2003 นั้นเรียกว่าแตกต่างจากความเป็นป๊อปไปสิ้นเชิง อัลบั้มที่มีความยาวประมาณ 1 ชั่วโมง เป็นส่วนผสมของดนตรีหลากหลายแนว สำหรับตัวของ ไวน์เฮาส์ นอกจากจะร้อง แล้วยังร่วมแต่งเพลงเกือบทั้งหมด กลายเป็นงานที่ได้ชิงรางวัลมากมาย เป็นอัลบั้มที่แจ้งเกิดชื่อของ เอมี ไวน์เฮาส์ สู่วงการเพลงอย่างเป็นทางการ
กระทั่งในปี 2006 ขณะที่ ไวน์เฮาส์ มีอายุได้ 22 ปี เธอก็ขึ้นสู่จุดสูงสุดในอาชีพนักร้องเมื่ออัลบั้มชุด Back to Black ที่ผสานแนวเพลงทั้ง โซล, แจ๊สส์, ร็อค และคลาสสิกป๊อป กลายเป็นงานฮิตไปทั่วโลก ขณะเดียวกันก็ได้รับการยกย่องจากเหล่านักวิจารณ์กวาดรางวัลแกรมมีไปถึง 5 สาขาในปี 2007 หญิงสาวที่มีทรงผมและรอยสักเป็นเอกลักษณ์จึงกลายเป็นดาวเด่นในวงการดนตรีระดับนานาชาติ โดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่า Back to Black จะกลายเป็นสตูดิโออัลบั้มชุดสุดท้ายของเธอในเวลาต่อมา
โดยในตอนที่อัลบั้มชุด Back to Black ผลงานที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของเธอออกวางจำหน่าย ไวน์เฮาส์เคยให้สัมภาษณ์กับเอพีว่าเธอไม่เคยอยากจะโด่งดังมีชื่อเสียงเช่นนี้เลย “ฉันไม่ได้เคยคิดที่จะอยากดังเลย เป็นนักดนตรีเท่านั้นเอง” เธอกล่าว
ชีวิตด้านมืด - ปัญหารุมเร้า
แต่แล้วความโด่งดัง, ความสำเร็จและพรสวรรค์ของนักร้องนักแต่งเพลงสาววัย 27 ปี ก็ต้องถูกบดบังด้วยปัญหาการใช้ยาเสพติดหลายประเภทรวมถึงเฮโรอินด้วย ชื่อของเธอกลายเป็นขาประจำสำหรับสื่อแนวแทปลอยด์ทั้งเรื่องความย่ำแย่ของสุขภาพ, การเข้ารับบำบัดอาการติดยาครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ดูเหมือนจะแก้ไขปัญหาเรื้อรังนี้ไม่ได้เสียที และทำให้เธอเกือบเสียชีวิตมาแล้ว
"มันเป็นเรื่องบ้าๆ มันเป็นช่วงเวลาที่น่ากลัวที่สุดในชีวิตฉันเลย ฉันไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงดีว่ามันเกิดอะไรขึ้น ฉันไม่รู้สึกตัวเลยจริงๆ ฉันจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตัวเองดูเหมือนอะไร ฉันจำแม้กระทั่งตัวเองยังไม่ได้เลย มันเป็นอะไรที่น่ากลัวมาก มันน่ากลัวจริงๆ" เธอให้สัมภาษณ์หลังรอดตายมาจากการใช้เฮโรอินเมื่อปี 2009 "ฉันควบคุมตัวเองไม่ได้เลย มันเพิ่งเกิดขึ้น มันทำให้ฉันช็อคมาก ฉันเสียใจ ฉันไม่รู้เลยว่าอะไรมันเข้ามาสิงฉัน ฉันไม่อยากจะรู้สึกแบบนั้นอีกแล้ว ฉันกลัวตัวเองในเวลานี้ ฉันไปทุกหนทุกแห่ง ฉันรู้ว่ามันกำลังจะเปลี่ยนไป ฉันกำลังกันตัวเองออกจากสิ่งนั้น"
ซึ่งในช่วงหนึ่งเมื่อต้นปีที่ผ่านมา มีรายงานว่าแพทย์ได้ออกปากเตือนอย่างจริงจัง ให้เธอหยุดใช้ยา และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนที่มันจะสายเกินไปในตอนนั้น The Sun ได้อ้างคำพูดของแหล่งข่าวถึงเรื่องนี้ว่า "มันเป็นโอกาสสุดท้ายของ เอมี แล้ว หมอต้องพูดจริงจังกับเธอ เพราะสถานการณ์มันรุนแรงแล้ว เป็นความจริงที่เจ็บปวด แต่เธอก็ต้องรับฟัง" แต่ก็ดูเหมือนว่ามันจะไม่สามารถหยุดยั้ง การเดินทางสู่บทสุดท้ายในชีวิตอย่างแสนเศร้า ของศิลปินสาวคนดังได้
ด้านชีวิตรักก็เป็นสิ่งที่นำพาปัญหามากมายมาให้กับ ไวน์เฮาส์ เช่นเดียวกัน ภายหลังเธอแต่งงานกับ เบลค ฟิลเดอร์ ซีวิล ในปี 2007 ทั้งการถูกจับกุมในข้อหายาเสพติด และมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกันหลายครั้ง แทปลอยด์ในอังกฤษถึงกับอ้างว่าสามีคนนี้เป็นผู้ชักนำยาเสพติดร้ายแรงอย่าง โคเคน และเฮโรอิน มาให้กับเธอด้วย โดยชีวิตสมรสจบลงในเดือน ส.ค. 2009 เมื่อทั้งสองตัดสินใจที่จะแยกทางกัน
“ฉันยังรัก เบลค และอยากให้เขาได้ย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันในบ้านหลังใหม่ ... นี่คือแผนของฉันมาตลอด ... ฉันจะไม่ยอมให้เขาหย่าจากฉันไปเด็ดขาด เขาเป็นเหมือนกับฉันในแบบผู้ชาย เราเป็นคู่ที่สมบูรณ์แบบที่สุด” ไวน์เฮาส์ กล่าวถึงอดีตสามีเมื่อเดือน มี.ค. 2009 ก่อนที่ทั้งคู่จะหย่าขาดกันไม่นาน
ปลายเดือน มิ.ย. เรื่องการใช้ยา และดื่มหนัก ก็กลับมาทำร้ายโอกาสกลับคืนสู่วงการเพลงของเธออีกครั้ง เมื่อศิลปินสาวต้องตัดสินใจยกเลิกการทัวร์คอนเสิร์ตที่ยุโรปทั้งหมด หลังพบกับปัญหาในการแสดงที่เบลเกรด จากการถูกโห่โดยคนดู หลังเธอเริ่มการแสดงช้าไปประมาณ 1 ชั่วโมง และระหว่างอยู่บนเวทีคอนเสิร์ตยังมีอาการเดินโซเซ จำเนื้อร้องของเพลงตัวเองไม่ได้ นอกจากนั้นยังทำไมโครโฟนตก และหายตัวไปจากเวทีเสียเฉย ๆ อยู่หลายครั้ง จนต้องปล่อยให้ทีมนักดนตรีแบ็คอัพทำการแสดงแทนไปพลาง ๆ
ที่มา: manager.co.th