ระบบจ่ายเงินใหม่ล่าสุดของเพย์พาลทำให้ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือแอนดรอยด์ที่มีชิป NFC สามารถส่งและรับเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่องได้เลย
เพย์พาล (PayPal) เปิดศักราชรูปแบบการจ่ายเงินครั้งใหม่ คลอดแอปพลิเคชันให้ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือแอนดรอยด์ที่ติดตั้งชิป NFC ไว้ภายในสามารถจ่ายและรับเงินได้เร็วขึ้นเพียงนำสมาร์ทโฟนมา"แตะ"กัน ยก NFC ว่าเหนือกว่าเทคโนโลยีรับส่งเงินด้วยการนำโทรศัพท์มือถือมาสัมผัสกันที่เพย์พาลเคยพัฒนาขึ้นมาเองหลายขุม มั่นใจตลาดรับส่งเงินระหว่างโทรศัพท์มือถือโตตามตลาดส่งเงินระหว่างบุคคล (P2P) ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าเกิน 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปีนี้
ชีโมน ซามูเอล ผู้จัดการฝ่ายประสบการณ์ผลิตภัณฑ์กลุ่มธุรกิจเพย์พาลโมบาย (PayPal Mobile) กล่าวถึงแอปพลิเคชันล่าสุดที่เพย์พาลพัฒนามาเพื่อผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ NFC ว่า เหตุผลที่เพย์พาลเลือกพัฒนาระบบชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือหรือโมบายเพย์เมนต์บนเทคโนโลยี NFC ทั้งที่เพย์พาลก็เคยพัฒนาขึ้นเองในชื่อ Bump Technologies ซึ่งสามารถนำโทรศัพท์มือถือมาสัมผัสกันเพื่อโอนเงินระหว่างกันได้โดยไม่ต้องใช้ชิป NFC คือขั้นตอนการจ่ายเงินด้วยการสัมผัสโทรศัพท์มือถือบนเทคโนโลยี NFC นั้นทำได้ง่ายกว่า และมีขั้นตอนน้อยกว่า
"ระบบ NFC มีขั้นตอนน้อยกว่า และสามารถทำงานได้แม้แอปพลิเคชันถูกเปิดไว้ที่ฝ่ายเดียว ผิดกับระบบ Bump ที่ผู้ใช้ทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องเปิดแอปพลิเคชันพร้อมกัน สิ่งที่เราต้องการคือหนทางที่ง่ายที่สุดต่อลูกค้า เพย์พาลจึงหันมาเลือก NFC เพราะเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้การจ่ายเงินแบบ P2P (peer-to-peer) ทำได้ง่ายที่สุด"
NFC หรือ near field communication นั้นเป็นรูปแบบการสื่อสารไร้สายที่ทำให้ชาวญี่ปุ่นสามารถนำโทรศัพท์มือถือมาสัมผัสกับเครื่องอ่านเพื่อจ่ายค่าตั๋วโดยสารรถไฟ หรือทำให้ชาวยุโรปสามารถใช้โทรศัพท์มือถือแทนกุญแจห้องพักในบางโรงแรมได้ แต่สำหรับเพย์พาล NFC จะทำให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟนที่ติดชิป NFC ไว้ภายใน สามารถส่งคำขอให้จ่ายเงิน หรือลงมือจ่ายเงินด้วยการนำโทรศัพท์มือถือที่มีชิป NFC 2 เครื่องมาสัมผัสกัน
การส่งคำขอให้จ่ายเงินหรือการยืนยันว่าจะจ่ายเงินนั้นจะทำบนแอปพลิเคชันของเพย์พาล ซึ่งผู้ใช้จะสามารถรับเงินหรือจ่ายเงินได้เมื่อกรอกรหัสหรือ PIN ถูกต้องแล้วเท่านั้น โดยเมื่อฝ่ายจ่ายเงินจะสามารถระบุจำนวนเงินแล้วนำโทรศัพท์มือถือไปวางไว้บริเวณใกล้กับเครื่องผู้รับเงิน ซึ่งจะรู้ผลการโอนเงินทันทีที่กรอกรหัสผ่านเรียบร้อย
นอกจากรหัสผ่าน ระบบจ่ายเงินของเพย์พาลยังมีเทคโนโลยีเข้ารหัสเพื่อรักษาความปลอดภัยให้การทำธุรกรรมการเงินผ่าน NFC อีกระดับ เพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้าเพย์พาลโอนเงินระหว่างเครื่องหรือ peer-to-peer ซึ่งเป็นรูปแบบหลักในธุรกิจรับส่งเงินผ่านโทรศัพท์มือถือของเพย์พาล โดยเพย์พาลประเมินว่า มูลค่าการโอนเงินระหว่างบุคคลผ่านแอปพลิเคชันของเพย์พาลจะเกิน 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯในปีนี้ (ราว 9 หมื่นล้านบาท)
เพย์พาลระบุว่าผู้ใช้จะไม่ต้องเสียค่าบริการชำระเงินบนโทรศัพท์มือถือใดๆหากเป็นการดึงเงินจากบัญชีธนาคารหรือบัญชีที่เปิดไว้กับเพย์พาล โดยเชื่อว่าโอกาสใหญ่จะอยู่ที่การส่งเสริมธุรกิจค้าปลีกในท้องถิ่นให้สามารถรับเงินได้เพิ่มอีกช่องทาง ซึ่งยิ่งมูลค่าการจ่ายเงินมีสูงเท่าใด เพย์พาลก็จะมีส่วนแบ่งเปอร์เซ็นต์รายได้มากขึ้นเท่านั้น
เพย์พาลนั้นเป็นยักษ์ใหญ่วงการจ่ายและรับเงินออนไลน์ระดับโลก ซึ่งกำลังพยายามขยายฐานตลาดจากการชำระเงินบนเว็บไซต์ไปสู่การชำระเงินบนโลกแห่งความจริง การขานรับเทคโนโลยี NFC ของเพย์พาลตามกูเกิล (Google) และพันธมิตรซึ่งกำลังทดสอบบริการชำระเงินด้วย NFC ตามร้านค้าปลีกในสหรัฐฯในชื่อโครงการว่า Isis จึงเป็นเพียงนิมิตหมายดีที่แสดงว่ารูปแบบการ"แตะเพื่อจ่ายเงิน"นั้นมีโอกาสแพร่หลายในระดับโลกมากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมา การใช้งาน NFC ยังกระจุกตัวอยู่เฉพาะในบางประเทศเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม สมาร์ทโฟนที่รองรับระบบแตะแล้วจ่ายของเพย์พาลในขณะนี้ยังมีเพียง Samsung Nexus S ในสหรัฐฯเท่านั้น (เฉพาะเครื่องที่ใช้บริการเครือข่าย Sprint และ T-Mobile) โดยเพย์พาลปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลว่าบริการ NFC ของเพย์พาลในอนาคตจะอยู่ในรูปจุดรับชำระเงินซึ่งเพย์พาลจะต้องร่วมมือกับร้านค้าเช่นเดียวกับโครงการ Isis ของกูเกิลหรือไม่ ระบุเพียงว่าแอปพลิเคชันแตะแล้วจ่ายเงินระหว่างโทรศัพท์มือถือของเพย์พาลจะเริ่มเปิดใช้ภายในปีนี้ คาดว่าตัวแอปพลิเคชันจะรองรับระบบปฏิบัติการอื่นเพิ่มขึ้น จากขณะนี้ที่รองรับเฉพาะสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เท่านั้น
หน้าแอปพลิเคชันแสดงการส่งเงิน
หน้าแอปพลิเคชันแสดงว่าการส่งเงินสมบูรณ์
Company Related Link :
Paypal
ที่มา: manager.co.th