เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายพิษณุ หรือพีท เพชรชูรา อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาแถลงข่าวพร้อมของกลาง
ตร.ดส.แกะรอยตามรวบอดีตดีเจผับดังหัวหิน เปิดเว็บไซค์หลอกเหยื่อโอนเงินค่าสมาชิก เพื่อใช้บริการทางเพศจากนักศึกษาแล้วปิดมือถือหนี สารภาพเงินไม่พอใช้ จึงคิดเปิดเว็บเรียกเก็บเงินผู้หลงเชื่อ โดยจะตีสนิทหญิงสาวจนไว้ใจแล้วจะว่าจ้างให้เปิดบัญชี เพื่อใช้ในการโอนเงินผ่าน ทำมาแล้ว 3-4 ปี มีเงินหมุนเวียนกว่า 8 ล้านบาท
วันนี้(14 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี กองบัญชาการตำรวจนครบาล(กก.ดส.บช.น.) พ.ต.ท.สำเริง ส่งเสียง รองผกก.ดส. แถลงการจับกุมนายพิษณุ หรือพีท เพชรชูรา อายุ 36 ปี พร้อมของกลางเงินสด 26,180 บาท ,โทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง ,ซิมโทรศัพท 6 ใบ, บัตรเอทีเอ็ม 9 ใบ สมุดบัญชีธนาคาร 4 เล่มและนามบัตร 11 ใบ โดยสามารถจับกุมได้ภายในซอยอรัญญา ถนนประชาราษฎร์ 2 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กทม. เมื่อกลางดึกวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ตามหมายศาลกรุงเทพใต้ ที่ 372/2554 ลงวันที่ 8 ก.ค.2554 โดยกล่าวหาว่าฉ้อโกงประชาชน
จากการจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องมาจาก กก.ดส.ได้รับการร้องเรียนมามากว่ามีเว็บไซต์ สยามไซด์ไลท์ดอทโอบีดอททีซี(
www.siamsidelines.ob.tc) มีการโฆษณาหลอกลวงให้โอนเงินค่าสมาชิก เพื่อใช้บริการทางเพศจากนักศึกษา จึงมอบหมายให้ ร.ต.อ.มานะ จันทร์ลาด สว.กก.ดส.ทำการสืบสวนสอบสวนจับกุม จนสืบทราบว่ามีการหลอกลวงให้โอนเงินเป็นค่าสมาชิกเป็นเงินจำนวน 6,000 บาท โดยอ้างว่าเป็นค่าสมาชิก 1,000 บาท ส่วนอีก 5,000บาท จะส่งคืนให้ พร้อมชื่อเว็บไซต์ที่สามารถเข้าดูนักศึกษาที่ให้บริการทางเพศได้ แต่เมื่อถึงเวลาจริงผู้ต้องหากลับพูดหว่านล้อมให้โอนเงินเพิ่มอีก 20,000 บาท โดยอ้างว่าเป็นการเช็กเครดิตลูกค้า เพื่อเป็นการเซฟความปลอดภัยให้กับนักศึกษาที่จะให้บริการ แต่เมื่อถึงเวลานัดโอนเงินคืน ผู้ต้องหาก็จะพยายามพูดหว่านล้อมให้โอนเงินเพิ่มอีก จนผู้เสียหายไม่โอนหรือไม่เชื่อ จากนั้น ผู้ต้องหาจะปิดโทรศัพท์หนีหายไป ส่วนเว็บไซต์ที่อ้างว่ามีนักศึกษาขายบริการก็ไม่มีอยู่จริง จึงแน่ชัดแล้วว่าพฤติการณ์ดังกล่าวเป็นการหลอกลวงประชาชนจริง จึงสืบสวนสอบสวนจับกุม
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ทำการสืบสวนจนพบว่ามีการกดเงินจากบัญชีธนาคารที่เหยื่อโอนเงินเข้ามาอยู่หลายครั้ง และตรวจสอบกล้องวงจรปิดเป็นคน ๆ เดียวกัน แต่เป็นผู้ชาย ซึ่งชื่อเจ้าของบัญชีเป็นผู้หญิง จึงเชิญตัวมาสอบสวนโดยเจ้าของบัญชีให้การรับสารภาพ ว่า ผู้ต้องหาได้มาทำทีตีสนิทแล้วพูดหว่านล้อมให้ทำการเปิดบัญชีให้โดยอ้างว่าทำธุรกิจ โดยจะมีค่าตอบแทนให้ ซึ่งด้วยความสนิทกันจึงยอมเปิดบัญชีให้ จากนั้นผู้ต้องหาก็จะนำสมุดบัญชีและบัตรเอทีเอ็มไป โดยได้ค่าตอบแทนเพียงครั้งเดียว ส่วนสมุดบัญชีที่ตรวจยึดมาได้ ทั้งหมด 4 เล่มตรวจสอบแล้วเป็นชื่อของผู้หญิงทั้งหมด ซึ่งคาดว่าน่าจะถูกผู้ต้องหาใช้ วิธีการเดียวกัน จึงรวมรวมหลักฐานทั้งหมดขออนุมัติหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ จนสามารถทำการจับกุมได้ดังกล่าว ก่อนส่งพนักงานสอบสวนสน.นางเลิ้งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน นายพิษณุ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุจริงโดยก่อนหน้านี้เคยเป็นดีเจเปิดเพลงในผับแห่งหนึ่งที่หัวหิน รายได้ไม่พอ เลยคิดเปิดเว็บไซต์ขึ้นมา เพื่อเรียกเก็บเงิน ซึ่งมีผู้หลงเชื่อมากมาย ซึ่งเห็นว่าเป็นรายได้ที่ได้มาง่าย จึงทำต่อมากระทั้งเริ่มมีผู้โทรศัพท์เข้ามาทวงถามมาก ๆ เข้าตนก็จะทำทีว่าเว็บไซต์ถูกจับแล้วโดนปิดทำให้ไม่สามารถดำเนินการใด ๆได้ และจะมาเปิดใหม่ เพื่อหาผู้เข้าชมรายใหม่ๆ ส่วนคนที่ยังพยายามติดต่อก็จะให้เข้ามาในเว็บไซต์ใหม่ ซึ่งก็ยังมีคนหลงเชื่อ ตนจึงทำทีติดต่อหญิงสาวเพื่อทำการตีสนิทจนไว้ใจแล้วจะว่าจ้างให้เปิดบัญชี เพื่อใช้ในการโอนเงิน ซึ่งตนทำมานานกว่า 3-4 ปี โดยเปิดปิดเว็บไซต์มามากกว่า 5 ครั้ง ซึ่งเมื่อเปิดใหม่ก็จะยังมีผู้หลงเชื่ออีก ซึ่งตลอดเวลาที่ทำมามีเงินใช้จ่ายหมุนเวียนกว่า 8 ล้านบาท กระทั้งมาถูกจับกุมดังกล่าว
ที่มา: manager.co.th