Author Topic: ศาลแคนาดาไฟเขียวกลุ่มแอปเปิล-ไมโครซอฟท์ซื้อสิทธิบัตรเทคโนฯนอร์เทล  (Read 958 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46027
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


ศาลเดลาแวร์ (สหรัฐอเมริกา) และออนแทริโอ (แคนาดา) ประกาศอนุมัติให้กลุ่ม Rockstar Bidco LP ซึ่งประกอบด้วยพันธมิตรอย่างแอปเปิลและไมโครซอฟท์ สามารถซื้อสิทธิบัตรเทคโนโลยี 6,000 รายการจากบริษัทนอร์เทลเน็ตเวิร์กส (Nortel Networks) ในราคา 4,500 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 135,000 ล้านบาท) หลังจากกลุ่มสามารถประมูลชนะกลุ่มของกูเกิลและอินเทลไปได้ ทำสถิติการประมูลสิทธิบัตรเทคโนโลยีที่มีมูลค่าที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ไปเรียบร้อย
       
       การประมูลสิทธิบัตรเทคโนโลยีไร้สายและอินเทอร์เน็ตมากกว่า 6,000 รายการของนอร์เทลนี้เกิดขึ้นหลังจากนอร์เทลประกาศล้มละลายไปในปี 2009 และเริ่มทยอยจำหน่ายทรัพย์สินมูลค่ามากกว่า 3,000 ล้านเหรียญของบริษัทออกไปอย่างต่อเนื่อง โดยสิทธิบัตรเทคโนโลยีเป็นทรัพย์สินล่าสุดของนอร์เทลที่เริ่มมีข่าวเปิดประมูลต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคม 2010 ที่ผ่านมา เช่น ยักษ์ใหญ่เสิร์ชเอนจิ้นอย่างกูเกิล ที่สื่อต่างประเทศรายงานว่าได้ร่วมประมูลไปในราคาเริ่มต้น 900 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราคาเริ่มต้นที่นอร์เทลกำหนด) หวังถือสิทธิบัตรเทคโนโลยีให้มากขึ้นเพื่อป้องกันตัวเองไม่ให้ถูกฟ้องร้องในอนาคต
       
       ปรากฏว่ากลุ่มคู่แข่งของกูเกิล ทั้งแอปเปิล ไมโครซอฟท์ รวมถึงบริษัทที่นอร์เทลเปิดเผยว่าได้เข้าร่วมกลุ่มกับ 2 ยักษ์ใหญ่นี้ด้วยเช่น ริม (RIM) อีเอ็มซี (EMC) อีริกสัน (Ericsson) และโซนี่ (Sony) ได้ร่วมลงขันในนามพันธมิตรจนสามารถชนะการประมูลซื้อสิทธิบัตรด้วยเงินมูลค่า 4,500 ล้านเหรียญ แต่มีการวิเคราะห์ว่ากลุ่มอาจไม่สามารถซื้อสิทธิบัตรได้อย่างที่ตั้งใจ เพราะการร่วมมือกันประมูลในฐานะพันธมิตรเช่นนี้ทำให้เกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมต่อกูเกิลและผู้ประมูลรายอื่น ซึ่งไม่มีพันธมิตรจำนวนมากเท่า โดยขณะนี้หน่วยงานต่อต้านการผูกขาดธุรกิจหลายแห่งในสหรัฐฯ ได้ขานรับและกำลังเร่งมือตรวจสอบว่าจะสามารถทำได้หรือไม่
       
       ล่าสุด ศาลแคนาดาเปิดเผยว่าการประมูลได้มีการแข่งขันอย่างเต็มที่แล้ว โดยให้รายละเอียดว่าผู้ประเดิมประมูลคืออินเทล มูลค่าการประมูลเพิ่มขึ้นเฉลี่ยครั้งละ 5-100 ล้านเหรียญ จนเมื่อการประมูลดำเนินไปถึงรอบที่ 5 แอปเปิลจึงตัดสินใจร่วมเป็นพันธมิตรกับไมโครซอฟท์ในกลุ่ม Rockstar ทำให้อินเทลหันไปร่วมมือกับกูเกิลบ้าง และต่อสู้ร่วมกันตั้งแต่รอบที่ 8 ถึงรอบที่ 19 ด้วยเงินประมูลเกิน 2,000 ล้านเหรียญ ก่อนที่กลุ่ม Rockstar จะสามารถชนะการประมูลในที่สุด
       
       การอนุมัติจากศาลชั้นต้นในเมืองวิลมินตันและโตรอนโตนี้จึงทำให้กลุ่มของแอปเปิลและไมโครซอฟท์มีโอกาสสูงขึ้นในการครอบครองสิทธิบัตรเทคโนโลยีมากกว่า 6,000 รายการของนอร์เทล ซึ่งรายงานระบุว่าประกอบด้วยสิทธิบัตรที่ครอบคลุมตั้งแต่เทคโนโลยี 4G, แอปพลิเคชันบนอินเทอร์เน็ต, เทคโนโลยีชิปคอมพิวเตอร์ (เซมิคอนดักเตอร์) รวมถึงเทคโนโลยีการสื่อสารด้วยเสียง ทั้งหมดทำให้ผู้ร่วมการประมูลมีทั้งผู้ผลิตคอมพิวเตอร์พีซี โทรศัพท์มือถือ และผู้ให้บริการระบบจัดเก็บข้อมูล ที่ล้วนหวังว่าจะมีแต้มต่อเหนือกว่าคู่แข่งหากได้ครอบครองสิทธิบัตรเหล่านี้
       
       อย่างไรก็ตาม การซื้อสิทธิบัตร 6,000 รายการนี้จะต้องรอการสอบสวนจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ซึ่งยังไม่มีกำหนดการพิจารณาข้อร้องเรียนในขณะนี้
       
       สิทธิบัตรเทคโนโลยีเหล่านี้ถือเป็นทรัพย์สินหลักชิ้นสุดท้ายของนอร์เทลที่เคยมีมูลค่าในตลาดหลักทรัพย์กว่า 250,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และพนักงานกว่า 90,000 คน โดยคาดว่าการขายสิทธิบัตรเทคโนโลยีครั้งนี้จะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 30 วันนับจากวันเปิดประมูล (27-30 มิถุนายน 2011)
       
       สำหรับความเคลื่อนไหวล่าสุดของแอปเปิล คือการยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการค้าต่างประเทศของสหรัฐฯ หรือ International Trade Commission (ITC) เพื่อขอคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้ศาลสั่งผู้ผลิตสินค้าไอทีสัญชาติไต้หวันอย่างเอชทีซี (HTC) หยุดการนำเข้าและจำหน่ายสินค้าระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์แบรนด์เอชทีซีบางรุ่นที่ละเมิดสิทธิบัตรเทคโนโลยีของแอปเปิล โดยก่อนหน้านี้ แอปเปิลได้ยื่นคำฟ้องลักษณะนี้เพื่อขอให้ศาลสั่งหยุดการนำเข้าสินค้าแบรนด์ซัมซุงด้วยเหตุผลเดียวกัน
       
       Company Related Link :
       Nortel

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)