"สปีลเบิร์ก" ทึ่ง "ม้าหุ่นเชิด" ละครเวที War Horse รับ "ม้าจริง" เทียบไม่ติด

[Nick]

<a href="https://www.youtube.com/watch?v=q-bni4QqSv4" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=q-bni4QqSv4</a>

“สตีเวน สปีลเบิร์ก” ที่กำลังจะมีภาพยนตร์เรื่อง War Horse เข้าฉายในปลายปีนี้ ยอมรับว่าเขารู้สึกทึ่งกับหุ่นม้าเชิดของ War Horse ฉบับละครเวที และรู้สึกว่าหุ่นเชิดน่าจะแสดงฉากต่าง ๆ ได้ดีกว่าม้าจริง ๆ ในหนังของเขาเสียอีก
       
       เจ้าของ 3 รางวัลออสการ์ สตีเวน สปีลเบิร์ก ผู้มีผลงานระดับขึ้นหิ้งคลาสสิกมากมาย และยังสร้างหนังที่กวาดเงินมาแล้วมหาศาล กำลังมีผลงานชิ้นใหม่ของตนเองอย่าง War Horse ที่ว่าด้วยเรื่องราวของม้า และเด็กหนุ่มผู้เป็นเจ้าของ เข้าฉายในปลายปีนี้
       
       นอกจากนั้น War Horse นิยายจากปลายปากการของ ไมเคิล มอร์พูร์โก ซึ่งเขียนขึ้นมาตั้งแต่ปี 1982 ยังถูกดัดแปลงเป็นละครเวที ที่เรียกได้ว่าโด่งดังที่สุดแห่งยุค โดยเฉพาะการสร้างสรรค์ตัวละครเอกของเรื่องอย่างม้าด้วยหุ่นเชิดที่ สปีลเบิร์ก เองยังยกย่อง ว่าเป็นสิ่งที่ม้าจริง ๆ ในกองถ่ายหนังของเขาไม่สามารถเทียบชั้นได้เลย
       
       ทอม มอร์ริส ผู้กำกับร่วมของละครเวที War Horse ร่วมกับ แมรีแอน เอลเลียต เล่าให้Daily Telegraph ฟังถึงความเห็นของ สปีลเบิร์ก เมื่อผู้กำกับละครเวที และภาพยนตร์ที่สร้างมาจากหนังสือเล่มเดียวกัน ได้โอกาสทานมื้อกลางวัน และนั่งคุยกันเมื่อเร็ว ๆ นี้
       
       “เราไม่ได้มีส่วนอะไรกับหนังเรื่องนั้นนะครับ แต่เราได้พบกับ คุณสปีลเบิร์กแล้ว เขาเป็นคนตรง เป็นคนดีคนหนึ่ง" มอร์ริส กล่าว "เขาพูดกับเราว่า ระหว่างที่ถ่ายทำหนังเรื่องนี้ เขารู้สึกหัวเสียอยู่เหมือนกันที่พบว่าม้าจริง ไม่ได้ให้การแสดงที่น่าประทับใจเท่ากับม้าหุ่นกระเชิดเลย เพราะมันไม่สามารถทำตามคำสั่งที่คุณต้องการได้ทุกอย่าง"
       
       ละครเวที War Horse ยังคงเปิดการแสดงที่ โรงละครนิวลอนดอน ในเวสต์เอนด์ หลังจากเปิดม่านแสดงมาตั้งแต่ปี 2007 นอกจากนั้นยังมีอีกหลายโปรดักชั่นที่ War Horse ไปเปิดการแสดงอยู่ตามโรงละครต่าง ๆ ทั่วโลก โดยโปรดักชั่นของบรอดเวย์ สหรัฐอเมริกา สามารถคว้ารางวัลโทนีครั้งล่าสุดมาได้ถึง 5 สาขารวมถึงละครเวทียอดเยี่ยมด้วย
       
       ซึ่งผู้เนรมิตให้ม้ามีชีวิตขึ้นมาได้บนเวทีละครก็คือ ทีมงาน Handspring Puppet Company ที่สร้างม้าหุ่นเชิดขนาดเท่าตัวจริงขึ้นมา และอาศัยการควบคุมโดยนักแสดงสามคน โดยสองคนคอยดูแลการเคลื่อนไหวของส่วนขา ขณะที่อีกคนดูแลการเคลื่อนไหวของศีรษะ และคอ ซึ่งทั้งสามคนยังต้องช่วยกันทำเสียงประกอบด้วย
       
       สำหรับฉบับหนังซึ่ง สปีลเบิร์ก กำกับ และมีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสร้าง ร่วมกับ แคธลีน เคนเนดี้, แฟรงค์ มาแชล และ เรเวล เกสต์ เป็นงานที่ได้ ลี ฮอลล์ และ ริชาร์ด เคอร์ติส รับหน้าที่ดัดแปลงหนังสือให้กลายเป็นบทภาพยนตร์ พร้อมได้กลุ่มนักแสดงคุณภาพมาบอกเล่าเรื่องราว อาทิ เดวิด ธิวลิส, เอมิลี วัตสัน, ปีเตอร์ มุลเลน และ สตีเฟ่น แกรห์ม
       
       ส่วนบทนำจะเป็นของดาราหนุ่ม เจเรมี่ เออร์วาย ที่จะสวมบทบาทเป็น อัลเบิร์ต เด็กหนุ่มที่เลี้ยงดูและฝึกฝนม้าที่ชื่อว่า โจอี้ ขึ้นมา จนกระทั่งภัยสงครามทำให้ทั้งคู่ต้องแยกจากกันไป ซึ่งหนังจะมีฉากหลังอยู่ในเขตชนบทของอังกฤษ และยุโรป ท่ามกลางไฟของสงครามโลกครั้งที่ 1
       
       Touchstone Pictures วางโปรแกรมภาพยนตร์เรื่องนี้ ไว้ในวันที่ 28 ธ.ค. และหลายฝ่ายคาดหมายกันว่าหนังน่าจะมีบทบาทในเวทีแจกรางวัลในช่วงต้นปี 2012 อย่างแน่นอน
       

ที่มา: manager.co.th