“ซี ศิวัฒน์” เผยโชคดีที่ตัวเองไหวตัวทัน ไม่ถูก “แม่สีดา” ยืมเงินเหมือน “จั๊กจั่น” บอกอนุโมทนาบุญด้วย แต่เมื่อสึกมาแล้วก็อยากให้รับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป ยอมรับจะให้รู้สึกเหมือนเดิมกับกับดารารุ่นใหญ่คงไม่มีทางเพราะที่ผ่านมาตนก็เคยเจอเรื่องแบบนี้มาแล้ว เสียความรู้สึกที่เคยให้ใจซึ่งกันและกัน ด้านนางเอกสาวกลับเงียบไม่ขอพูดถึงเรื่องดังกล่าว
หลังจากที่ดาราและพิธีกรหนุ่ม “โก้ ธีรศักดิ์ พันธุ์จริยา” ได้แจ้งความ“แม่สีดา พัวพิมล” หลังถูกอีกฝ่ายยืมเงินจำนวนกว่า 5 แสนบาทเชิดหายไปร่วมปี โดยคู่กรณีอ้างว่าจะไปทำละครเรื่องแม่นาคพระโขนงกับทางค่ายละครชื่อดัง และพอเป็นเรื่องคดีความขึ้นมา ทำเอาอีกฝ่ายถึงกับเครียดจนต้องไปบวชชีสงบจิตสงบใจ ล่าสุดเมื่อข่าวดังกล่าวแพร่สะพัด ก็เริ่มมีโจทก์เพิ่มมาว่าได้ถูกแม่สีดายืมเงินไปแต่ไม่ได้คืนหลายต่อหลายรายเช่นกัน
ล่าสุดนางเอกสาว “จั๊กจั่น อคัมย์สิริ สุวรรณสุข” ก็เป็นหนึ่งคนที่ถูกแม่สีดา ยืมเงินจำนวน2หมื่นบาทไป และยังไม่ได้คืน หลังจากที่ได้ร่วมงานกันในละครเรื่อง“ลินลี่กลิ่นกุหลาบ”ทางช่อง7สี แต่งานนี้นางเอกสาวไม่พูดถึงเรื่องนี้ บอกแต่เพียงว่าขออนุโทนาบุญด้วย ส่วนพระเอกหนุ่ม “ซี ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์” ได้เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า
ซี : “สำหรับเรื่องแม่ชีผมก็ไม่รู้อะไรครับเจออีกทีแม่เขาใส่วิกแล้ว ไม่ได้เห็นตอนแม่แต่งชุดชีครับ เห็นตอนแต่งชุดธรรมดาแล้ว แต่แม่เขาก็บอกว่าจะรับผิดชอบตัวเอง เรื่องหน้าที่การงาน แต่เรื่องจะเป็นอย่างไรผมก็ไม่ทราบนะครับ ก็ได้แต่บอกว่าใครทำอะไรไว้ก็ต้องรับผิดชอบสิ่งเหล่านั้นไป ก็เป็นกำลังใจให้แล้วกันครับ”
“ตัวผมก็เกือบโดนหลอกเอาเงินเหมือนกัน แต่ไหวตัวทันเลยไม่โดนแต่อยากจะบอกว่าคนเรา เวลาเราทำงานด้วยกัน ก็ต้องให้ใจกันต้องรักกันต้องจริงใจให้กันไม่ใช่ว่าพูดอย่างหนึ่งแต่ทำอีกอย่าง ก็เลยไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ในเรื่องนี้ แต่ก็ขอบอกว่าให้กำลังใจแล้วกัน ทั้งจักจั่นด้วยและท่านอื่นๆด้วย (หัวเราะ) คือก่อนหน้าที่จะเป็นข่าว แม่เขาก็ปกติทั่วไปไม่ได้มีอะไรมาก คุณแม่บอกว่าจะมีละครก็ดูไม่ได้ทุกข์อะไรมาก แต่พอเจอล่าสุดหลังมีเรื่องแม่ก็เหมือนแม่สงบไปเยอะ อาจเป็นเพราะไปบวชมาด้วยและมีเรื่องราวด้วย ฉะนั้นถามว่าแม่เขาทุกข์ไหมมันต้องทุกข์อยู่ในใจอยู่แล้วแต่เขาไม่ได้แสดงออกมา”
“สำหรับตัวแม่สีดาเองผมก็หวังว่าผ่านเหตุการณ์ร้ายๆ นี้ถ้าคุณแม่บวช ก็ขอให้ทุกข์โศกทุกอย่างมันผ่านไปด้วยแล้วกัน เมื่อกลับมาเป็นฆราวาสแล้ว ก็ขอให้รับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองเคยทำไว้ เพราะเรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวกับศาสนา มันเป็นเรื่องของความชอบ สิ่งไหนถูกสิ่งไหนผิดก็ต้องว่าไปตามนั้น”
“ถ้าจะบอกว่าความรู้สึกของผมยังเหมือนเดิมกับแม่สีดาทุกอย่างก็คงจะโกหกนะครับ ต้องบอกว่ามีบ้างครับ เพราะเราก็โดนมาแล้ว เราก็เข้าใจในจุดนี้โดยเฉพาะคนที่ให้ใจกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่างที่ผมบอกไป เราไม่รู้หรอกครับว่าแต่ละคนเขามีปัญหาอะไร ผมเชื่อว่า คนเราเกิดมาไม่มีใครอยากเป็นคนชั่วหรอก ไม่มีใครอยากเกิดมาเป็นโจรหรือเป็นคนไม่ดี แต่อาจจะเป็นว่าบางสิ่งที่เราไม่เคยรู้ เขาอาจจะลำบากเรื่องอะไร เขาก็อาจจะผิดที่ไม่บอกกันตรงๆ มากกว่า แต่ผมเชื่อว่าลึกๆ ของทุกคน ไม่มีใครทำชั่วอย่างเดียวแล้วก็ไม่มีใครทำดีอย่างเดียว มันก็จะอยู่กึ่งกลางแล้วแต่ว่าคนนั้นเลือกที่จะทำดีมากกว่าหรือจะทำเลวมากกว่า เท่านั้นเอง ก็ไดแต่เป็นกำลังใจให้”
จักจั่น : “ก็ให้กำลังใจแม่นะคะ อนุโมทนาบุญด้วยคะ”
ที่มา: manager.co.th
