Author Topic: ฝันร้ายของ “ไป่หลิง” เรื่องคาวในกองทัพจีน  (Read 1078 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


นักแสดงสาวชาวจีนแผ่นดินใหญ่ “ไป่หลิง” ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องราวดำมืดในอดีต กับการใช้ชีวิตในประเทศจีนในฐานะนักแสดงของกองทัพ ที่เธอเคยถูกทหารผู้บังคับบัญชา ล่วงละเมิดทางเพศ จนกลายเป็นบาดแผลในใจจนถึงปัจจุบัน
       
       นักแสดงชาวจีนผู้มีผลงานระดับอินเตอร์ ไป่หลิง วัย 44 ปี เติบโตมาในฐานะสมาชิกคณะนักแสดงของ กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ระหว่างที่เธอมีอายุประมาณ 14 – 17 ปี แต่ล่าสุดเธอได้เปิดเผยถึงฝันร้ายของอดีตในช่วงนั้น ในการให้สัมภาษณ์กับเอพีซึ่ง ไปหลิง กล่าวถึงเรื่องราวเหล่านั้นว่า “กลายเป็นบาดแผลในชีวิตของฉัน ซึ่งแม้แต่พ่อแม่ก็ยังไม่เคยรู้เลย”
       
       ซึ่งเสี้ยวหนึ่งในชีวิต ได้ถูกขุดคุ้ยขึ้นมา ภายหลังเธอได้ร่วมรายการเรียลลิตี้โชว์ว่าด้วยการบำบัดอาการติดสุรา และยาเสพติดอย่าง Celebrity Rehab with Dr. Drew ที่ดาราสาวระบุว่ากลายเป็นสิ่งที่ช่วยให้เธอได้เข้าใจต่อเรื่องราว และบาดแผลในอดีตของตัวเอง
       
       “ไป่หลิง” เด็กสาวขี้อาย
       
       ไปหลิง เป็นชาวเฉิงตู ในมณฑลเสฉวน โดยกำเนิด เธอเคยอธิบายว่าตัวเองเป็นเด็กขี้อาย ที่พบว่าการแสดงคือเครื่องมือ สำหรับการถ่ายทอดความรู้สึกต่าง ๆ ในจิตใจของตัวเองออกมา และเนื่องด้วยการที่มีบิดาเป็นนักดนตรีของกองทัพ เธอจึงเข้าเป็น “ศิลปินทหาร” ทันทีเมื่อจบการศึกษาในระดับชั้นต้น และได้ประจำการในหลินจือ ทิเบต มีหน้าที่หลักกับการให้ความบันเทิงกับประชาชนและเหล่าทหาร ผ่านการแสดงละครเพลง นอกจากนั้นยังเคยทำงานเป็นพยาบาลของกองทัพ โดยประจำการอยู่ 3 ปี จึงปลดประจำการออกมา
       
       ชีวิตในช่วงนั้นเองซึ่ง ไป่หลิง ยอมรับว่าเธอเคยถูกบีบบังคับให้มีเพศสัมพันธ์กับนายทหารผู้มีระดับชั้นยศสูงกว่า จนครั้งหนึ่งถึงกับตั้งท้องขึ้นมา สุดท้ายต้องตัดสินใจทำแท้งด้วยการอาศัยชื่อปลอม นอกจากนั้น ไป่หลิง ยังเล่าว่ามีผู้หญิงหลาย ๆ คนที่เคยทำงานร่วมกับเธอระหว่างที่ใช้ชีวิตอยู่ในเขตทิเบต ก็พบกับชะตากรรมคล้าย ๆ กัน ด้วยการถูกบีบบังคับให้มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย บางครั้งก็ด้วยการถูกมอมเครื่องดื่มมึนเมา
       
       และในอดีตที่ผ่านมาสิ่งที่คอยบรรเทาเบาบาง ความเจ็บปวดในจิตใจก็คือ การได้ช่วยเหลือคนอื่น จากการแสดงของเธอนั่นเอง
       
       “สิ่งเดียวที่ทำให้ฉันสบายใจได้ก็คือ ได้ใช้การแสดงของตัวเองเพื่อช่วยเหลือคนอื่นค่ะ เพียงแค่ได้ช่วยเหลือเด็กคนเดียว ทำให้พวกเขาได้รู้ว่าตัวเองไม่ได้ถูกหลงลืมไป เท่านั้นฉันก็มีความสุขแล้ว”
       
       จากนักแสดงแห่งกองทัพจีน สู่ดาราฮอลลีวูด
       
       ต่อมาหลังจากต้องเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในโรงพยาบาลสำหรับผู้มีปัญหาทางจิต อยู่ระยะหนึ่ง (ด้วยเหตุผลว่าเธอเชื่อว่าตัวเอง มีถิ่นกำเนิดมาจากดวงจันทร์ ซึ่งในการให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์เมื่อปี 2009 เธอก็ยังยืนยันความเชื่อเดิม) ไป่หลิง กลับมามีงานแสดงในวงการภาพยนตร์จีนกับหนังหลายเรื่อง กระทั่งได้ทุนระยะสั้น ในการเดินทางไปศึกษา สาขาภาพยนตร์ ณ มหาวิทยาลัยนิวยอร์กในปี 1991 แต่ต่อมากลับตัดสินใจอาศัยอยู่อย่างถาวร และได้สัญชาติสหรัฐฯ ในปี 1999
       
       ไปหลิง กลายเป็นนักแสดงในฮอลลีวูด มีผลงานในภาพยนตร์ดัง ๆ อาทิ The Crow, Nixon, Wild Wild West รวมถึงสวมบทบาทเป็น "เจ้าจอมทับทิม" ในภาพยนตร์เรื่อง Anna and the King, ได้ร่วมงานในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อย่าง Star Wars Episode III: Revenge of the Sith (ฉากของเธอถูกตัดทิ้งในเวลาต่อมา ซึ่งเจ้าตัวอ้างว่า เพราะตนเองไปเปลื้องผ้าถ่ายแบบให้นิตยสารเพลย์บอยนั่นเอง) กลายเป็นนักแสดงที่ได้รับคำชื่นชมในฝีไม้ลายมือทางการแสดงอยู่พอสมควร
       
       อย่างไรก็ตาม ระยะหลังหน้าที่การงานในวงการภาพยนตร์ของ ไป่หลิง กลับต้องถูกบดบังด้วยภาพการใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความอื้อฉาว
       
       ชีวิตสุดโต่งบ่อเกิดจากบาดแผลวัยเด็ก
       
       ภาพการสวมใส่เครื่องแต่งกายสุดขั้ว, โชว์เนื้อหนัง, บ่อยครั้งที่ดูเกินขอบเขตความพอดีไปมาก นอกจากนั้นยังมีปัญหาการดื่มเหล้า และใช้ยาเสพติด จนชื่อและภาพของ ไป่หลิง เป็นอาหารอันโอชะของเหล่าช่างภาพ และปาปารัสซี่ ในเวลาเดียวกันก็กลายเป็นตัวตลกในสายตาของประชาชนทั่วไป
       
       ซึ่ง ไป่หลิง เองก็เชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้น มีส่วนมาจากความทรงจำอันเลวร้ายในวัยเด็กไม่มากก็น้อย
       
       “คนที่ใช้ยาเสพติดหรือแอลกอฮอล์จนกลายเป็นปัญหา ก็คงต้องเคยถูกล่วงละเมิดมาไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่งมาก่อน” ไป่หลิง กล่าว และมีแผนจะเปิดเผยเรื่องส่วนตัวในหนังสือ Naked in Tibet ที่เธอเป็นผู้เขียน
       
       ถึงวันนี้เธอยังเชื่อว่าตัวเองไม่ถึงขั้นเป็น “คนติดเหล้า” แต่ยอมรับว่าตนเป็นคนคออ่อน มีอาการเมาได้ง่าย ๆ แม้จะดื่มไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ก็ยอมรับว่าที่ผ่านมาตนเองใช้ชีวิตอย่างเผอเรอ, ไร้การป้องกัน จนแทบจะไม่หลงเหลือสภาพของตัวเองในอดีตอยู่ในปัจจุบันเลย
       
       “ฉันไม่ได้ตั้งใจเลยที่จะทำลาย ไป่หลิง ผู้สวยงาม อันเป็นที่รักของทุกคน เป็นนักแสดงมากพรสวรรค์ ให้ต้องสูญหายไป แต่เพราะสื่อทำให้ฉัน ดูเหมือนนังบ้าเป็นนังแพศยาที่โชว์หน้าอกของตัวเองในที่สาธารณะไปทั่ว” เธอกล่าวตัดพ้อ “ฉันกลายเป็นตัวละครของวัฒนธรรมป๊อป ซึ่งกลไกแห่งฮอลลีวูดสร้างขึ้น ด้วยเหตุผลใดก็ตามฉันกลายเป็นเหยื่อต่อภาพลักษณ์เหล่านั้น”
       
       บำบัดกับ Celebrity Rehab
       
       ซึ่งนักแสดงวัย 44 ปี กล่าวว่าเธอตัดสินใจเข้าร่วมรายการ Celebrity Rehab เพราะโปรดิวเซอร์ของรายการขอร้องมาหลายครั้ง และรู้สึกยินดีที่ได้รับความช่วยเหลือ แต่ก็รู้สึกหวาดกลัวต่อผลตอบรับของสาธารณะที่มีต่อการเปิดเผยเรื่องต่าง ๆ ครั้งนี้อยู่เหมือนกัน พร้อมยืนยันว่าขณะนี้เธอไม่ได้ดื่มเครื่องดองของเมาแล้ว แต่ยังต้องดิ้นคนกับปัญหาในจิตใจต่อไป
       
       ขณะที่ นายแพทย์จอห์น ชาร์ป ทีมงานคนหนึ่งจากรายการ Celebrity Rehab ของ VH1 ได้กล่าวถึงดาราสาวชาวจีนว่า “เธอผ่านเหตุการณ์บางอย่างที่ร้ายแรงมา และสามารถเข้าถึงปัญหาเหล่านั้น จนจัดการกับมันได้”
       
       โดยระหว่างการร่วมรายการเรียลลิตี้โชว์รายการนี้ ไป่หลิง ต้องหวนกลับไปหา “ความทรงจำ” อันเจ็บปวด “กับการถูกผู้ชายล่วงละเมิดทางเพศ … แต่เมื่อสามารถเข้าถึงความทรงจำส่วนนั้นได้อย่างปลอดภัย … เธอก็สามารถยอมรับตัวเอง ว่าในอดีตเคยผ่านอะไรมาบ้าง” แพทย์ผู้ให้ความช่วยเหลือกล่าว
       
       กองทัพจีน : ไม่รับ, ไม่ปฏิเสธ, ไม่ตอบ
       
       ในการให้สัมภาษณ์กับเอพี ไป่หลิง กล่าวโทษต่อเรื่องที่กลายเป็นฝันร้ายตลอดชีวิตของเธอว่า เป็นปัญหาที่มีจุดเริ่มต้นจากเจ้าหน้าที่เพียงบางคน มันไม่ใช่ความผิดของรัฐบาลจีนแต่อย่างใด
       
       ในเวลาเดียวกัน ไป่หลิง เองก็ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยมองสิ่งที่ถูกกระทำจากผู้บังคับบัญชา เป็นเรื่องของการถูกล่วงละเมิดเลย แต่เคยเชื่อว่ามันเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ “เพราะมันคือวัฒนธรรมแห่งการเชื่อฟังคำสั่งของจีน … คุณต้องไม่ถามคำถาม มีแต่ต้องยอมทำตามอย่างเชื่อฟังเท่านั้น” ดาราสาวชาวจีนกล่าว
       
       สำหรับปฏิกิริยาต่อเรื่องอื้อฉาวดังกล่าว โฆษกระทรวงต่างประเทศในปักกิ่ง ได้ออกมากล่าวปฏิเสธที่จะพูดถึงรายละเอียดของเรื่องนี้ว่า “รัฐบาลไม่เคยได้ยินรายงานที่ว่า มันไม่ได้อยู่ในขอบเขตอำนาจของเราที่จะให้ความเห็น” ขณะเดียวกันกระทรวงกลาโหมก็ไม่ได้ตอบคำถามใด ๆ ของผู้สื่อข่าวต่อเรื่องราวที่ถูกพาดพิง
       







ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)