HP TouchPad
Touch to Share ความสามารถที่ทำให้ทัชแพดรับส่งข้อมูลกับสมาร์ทโฟนตระกูลปาล์มอย่าง Pre ได้เพียงนำเครื่องไปวางใกล้กัน ผู้ใช้สามารถซิงค์ข้อมูลที่อยู่เว็บไซต์หรือ URL บนเบราว์เซอร์ได้
แท็บเล็ตจากซัมซุง
หลังประกาศจำหน่าย "ทัชแพด (TouchPad)" ในสหรัฐฯอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา ผู้บริหารเอชพีประกาศชัดไม่หวังให้แท็บเล็ตรุ่นล่าสุดแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดมาจากไอแพด ระบุชัดหวังโตในตลาดองค์กร ท่ามกลางตัวเลขล่าสุดที่การสำรวจพบว่าแอปเปิลกำลังจะแซงหน้าเอชพีในฐานะผู้ผลิตพีซีพกพาอันดับหนึ่งของโลกในปีหน้าหากนับจำนวนการขายไอแพดทั้งหมด
ริชาร์ด เคอร์ริส (Richard Kerris) รองประธานฝ่ายนักพัฒนาสัมพันธ์ บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (เอชพี) ให้สัมภาษณ์ว่าเอชพีไม่มีนโยบายชิงส่วนแบ่งในตลาดผู้ใช้คอนซูเมอร์จากบริษัทแอปเปิล (Apple) โดยระบุว่าเอชพีเห็นโอกาสที่ดีกว่าในตลาดองค์กร ซึ่งเชื่อว่าเอชพีจะเติบโตได้ดีในตลาดดังกล่าว
วันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมาคือวันที่เอชพีเริ่มจำหน่ายทัชเพดอย่างเป็นทางการในสหรัฐฯด้วยราคาเริ่มต้น 499 เหรียญ เทียบเท่ากับแท็บเล็ตที่มีในตลาดขณะนี้อย่างไอแพด 2 และแกเล็กซีแท็บ 10.1 คาดว่าทัชแพดจะถูกส่งไปจำหน่ายที่ร้านเบสต์บายมากกว่า 10,000 สาขาทั่วสหรัฐฯ ก่อนจะขยายไปยังต่างประเทศ เช่นอังกฤษที่มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้
รายงานระบุว่าเอชพีวางแผนการจำหน่ายแท็บเล็ตรุ่นนี้มาตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ทั้งการประสานงานกับบริษัทค้าปลีก และทีมขายของเอชพีเอง โดยมีแผนจะทำแคมเปญโฆษณาทั่วสหรัฐอเมริกา ซึ่งทั้งหมดไม่มีการเปิดเผยงบประมาณการดำเนินการใดๆจากเอชพี
ข้อมูลล่าสุดระบุว่า ทัชแพดจะวางจำหน่ายเฉพาะรุ่นที่รองรับ Wi-Fi โดยรุ่น 16GB ราคา 499 ดอลลาร์สหรัฐ และ 32GB 599 ดอลลาร์ มาพร้อมหน้าจอ 9.7 นิ้ว น้ำหนัก 750 กรัม จุดเด่นคือการมาพร้อมระบบปฏิบัติการ webOS 3.0 ซึ่งเป็นผลงานการพัฒนาร่วมกันหลังจากเอชพีซื้อปาล์มมาในราคา 1.2 หมื่นล้านเหรียญเมื่อปี 2010 อัดแน่นด้วยพื้นฐานการทำงานพร้อมกันหรือมัลติทาสกิงที่ดี มีการพัฒนาให้ผู้ใช้สามารถใช้บริการสไกป์ (Skype) เพื่อทำวิดีโอคอลล์ได้ผ่านกล้องหน้าความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซลที่ให้มา
คุณสมบัติที่สำคัญคือ Touch to Share ซึ่งเป็นความสามารถที่ทำให้ทัชแพดรับส่งข้อมูลกับสมาร์ทโฟนตระกูลปาล์มอย่าง Pre ได้เพียงนำเครื่องไปวางใกล้กัน ผู้ใช้สามารถซิงค์ข้อมูลที่อยู่เว็บไซต์หรือ URL บนเบราว์เซอร์ได้ ทั้งหมดนี้พัฒนาบนเทคโนโลยีเฉพาะของเอชพี ไม่ใช่ผ่านชิป NFC อย่างที่เคยมีข่าว
นอกจากนี้ ผู้ใช้ทัชแพดสามารถรับสายที่โทรเข้าเครื่อง Pre ได้หากเชื่อมต่อเครื่องด้วย Bluetooth ขณะเดียวกัน มีเสียงชมว่าซอฟต์แวร์คีย์บอร์ดของ webOS 3.0 นั้นดีกว่าแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ เนื่องจากเป็นคีย์บอร์ด 5 แถวโดยแยกตัวเลขเป็นแถวใหม่ ทำให้การป้อนเครื่องหมายต่างๆสะดวกกว่าเดิม แถม webOS 3.0 ยังสามารถสั่งพิมพ์ผ่านเครื่องพิมพ์รุ่นใหม่ของเอชพีได้ด้วยระบบ ePrint
อย่างไรก็ตาม หนึ่งในจุดอ่อนที่สำคัญของทัชแพด คือจำนวนแอปพลิเคชันที่ยังมีน้อยมากในขณะนี้ โดยตัวเลขล่าสุดอยู่ที่ 300 แอป เทียบกับไอแพดที่มีแอปพลิเคชันรองรับมากกว่า 90,000 แอป
แม้เอชพีจะไม่หวังแย่งชิงตลาดมาจากแอปเปิล แต่การสำรวจล่าสุดพบว่าเอชพีกำลังจะถูกแอปเปิลแย่งตำแหน่งแชมป์ในตลาดคอมพิวเตอร์พีซีพกพาไป โดยบริษัทวิจัยดิจิไทมส์ (DigiTimes) พยากรณ์ว่าปี 2012 แอปเปิลจะสามารถจัดส่งแท็บเล็ตและคอมพิวเตอร์แมคอินทอชพกพาได้ถึง 75 ล้านเครื่อง เทียบกับเอชพีที่มีแนวโน้มว่าจะจัดส่งได้เพียง 45-50 ล้านเครื่องในปีนี้ ทำให้เอชพีส่อแววว่าจะไม่สามารถสู้แอปเปิลได้ในปีหน้า
เฉพาะปีนี้ ดิจิไทมส์เชื่อว่าแอปเปิลจะสามารถจำหน่ายไอแพดได้ 40 ล้านเครื่อง คิดเป็นสัดส่วนตลาด 60% ก่อนจะขยายเป็น 60 ล้านเครื่องและกินส่วนแบ่ง 75% ในปี 2012 เมื่อรวมกับยอดจัดส่งแม็คบุ๊ก (MacBook) คอมพิวเตอร์แมคอินทอชพกพาที่คาดว่าแอปเปิลจะทำได้ไม่ต่ำกว่า 15 ล้านเครื่องช่วงปีหน้า โดยตัวเลขดังกล่าวไม่ใช่เรื่องเกินจริง เพราะไตรมาสล่าสุด แอปเปิลประกาศว่าสามารถจำหน่ายเครื่องแมคอินทอช 3.76 ล้านเครื่องในไตรมาสเดียว คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้น 28% จากปีก่อนหน้า
ต้องรอลุ้นว่ามนต์ขลังของเอชพีจะทำให้ทัชแพดสามารถเปิดตลาดองค์กรได้ดีอย่างที่เอชพีหวังไว้หรือไม่ โดยขณะนี้ ตลาดแท็บเล็ตเพื่อองค์กรถือเป็นตลาดที่มีอนาคตสดใสจริงอย่างที่เอชพีมอง สิ่งที่สะท้อนเรื่องนี้ได้ดีคือตัวเลขการสำรวจที่คาดว่าแท็บเล็ตจะสามารถจำหน่ายได้มากถึง 69 ล้านเครื่องในปีนี้ จากที่เคยขายได้ 17.6 ล้านเครื่องในปีที่ผ่านมา
Company Related Link :
HP
ที่มา: manager.co.th