Author Topic: "Google Health" เปิดหมวกลา : Cyber talk  (Read 2436 times)

0 Members and 2 Guests are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


หน้าเว็บไซต์ Google Health เมื่อแรกทดลองให้บริการในปี 2008

ดูเหมือนว่าพฤติกรรมด้านสุขภาพของชาวออนไลน์จะเป็นดินแดนลึกลับที่ยักษ์ใหญ่โลกออนไลน์อย่างกูเกิล (Google) ยังเข้าไม่ถึง ล่าสุดกูเกิลประกาศปิดบริการ Google Health บริการเก็บข้อมูลสุขภาพบนอินเทอร์เน็ตจากกูเกิลที่พร้อมให้บริการแก่ผู้ใช้ทั่วโลกโดยไม่มีโฆษณา หลังจากเปิดทดสอบบริการต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2008
       
       กูเกิลขีดเส้นไว้ว่า จะประกาศปิดบริการ Google Health อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 มกราคม 2012 โดยจะเก็บข้อมูลไว้อีก 1 ปี และจะล้างข้อมูลทั้งหมดออกในวันที่ 1 มกราคม 2013 เป็นต้นไป
       
       ตามข้อมูลที่กูเกิลประกาศไว้เมื่อเดือนพฤษภาคม 2008 จุดเด่นของบริการ Google Health คือการจัดการข้อมูลด้านสุขภาพให้ผู้ใช้ เช่น ตารางการกินยา การเตือนให้ผู้ใช้ทราบถึงผลของการใช้ยาร่วมกัน หรือให้ข้อมูลว่าผู้ป่วยโรคนี้มีโอกาสแพ้ยาชนิดใด ที่สำคัญ ผู้ใช้ Google Health ในสหรัฐฯยังสามารถค้นหาชื่อแพทย์และสถานพยาบาลในบริเวณใกล้เคียงผ่าน Google Maps ได้
       
       ผู้ใช้บริการ Google Health สามารถใช้งานด้วยชื่อบัญชีเดียวกับบริการ Gmail ได้ โดยต้องกรอกประวัติด้านสุขภาพก่อนจึงสามารถใช้งานคุณสมบัติอื่นๆได้ เช่นโรคประจำตัว ประวัติการใช้ยา การฉีดวัคซีน การผ่าตัด ผลการเจาะเลือด ฯลฯ สามารถเก็บใบสั่งยาหรือเอกสารของโรงพยาบาลในแบบดิจิตอล หรือเลือกโหลดข้อมูลจากบริการข้อมูลสุขภาพออนไลน์แห่งอื่นก็ได้ การฝากข้อมูลสำคัญเหล่านี้ไว้กับกูเกิลทำให้หลายคนลังเลใจ และกลัวว่าความเป็นส่วนตัวจะถูกทำลาย
       
       สาเหตุที่ทำให้กูเกิลหันมาให้บริการเก็บข้อมูลสุขภาพออนไลน์ เพราะสถิติการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่พบว่าผู้ใช้นิยมสืบค้นข้อมูลคำแนะนำในการรักษาโรคมากมายเหลือเกิน ขณะเดียวกัน ในปีนั้นเป็นปีที่แนวคิด"ประวัติการรักษานั้นควรเป็นสมบัติของตัวเองมากกว่าจะเป็นสมบัติของโรงพยาบาล"มาแรงมาก กูเกิลจึงเห็นด้วยว่าผู้ป่วยควรมีสิทธิในการจัดการข้อมูลสุขภาพเหล่านี้ด้วยตนเอง ซึ่งจะเป็นเรื่องง่ายและมีประโยชน์มากหากมีการเปลี่ยนโรงพยาบาลในอนาคต
       
       กูเกิลตัดสินใจไม่ดึงโฆษณาเข้ามาเกี่ยวข้องกับบริการเพื่อสร้างความเชื่อมั่นใน Google Health กูเกิลต้องการให้ลูกค้ามั่นใจว่าข้อมูลการใช้ยาของลูกค้าจะไม่ถูกนำไปใช้ประโยชน์ทางธุรกิจผ่านนักการตลาดแน่นอน และเพื่อรักษาความปลอดภัย กูเกิลจะเก็บข้อมูลสุขภาพบนโฮสต์ที่แยกต่างหากจากระบบให้บริการสืบค้นข้อมูล จุดนี้ มาริสสา เมเยอร์ (Marissa Mayer) รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์ของกูเกิลยืนยันว่า ระบบรักษาความปลอดภัยใน Google Health นั้นอยู่ในระดับแน่นหนาที่สุดของกูเกิล
       
       แน่นอนว่ามีฝ่ายไม่เห็นด้วยกับกูเกิล นักสิทธิมนุษยชนอย่าง Deborah Peel ผู้ก่อตั้งองค์กรปกป้องสิทธิผู้ป่วย PatientPrivacyRights.org มองว่าการนำข้อมูลสำคัญเหล่านี้เข้าสู่โลกออนไลน์ผ่านบริการ Google Health ยังมีความเสี่ยงสูง
       
       การประกาศยอมแพ้ของกูเกิลเกิดขึ้นก่อนไมโครซอฟท์ (Microsoft) ซึ่งเปิดตัวระบบ HealthVault บริการเก็บข้อมูลสุขภาพออนไลน์ลักษณะเดียวกัน โดยไมโครซอฟท์เปิดให้บริการเก็บข้อมูลสุขภาพออนไลน์ในชื่อ HealthVault มาตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2007 นอกจากนี้ยังมีผู้ร่วมก่อตั้งเอโอแอลอย่าง Steve Case ที่แถลงข่าวหนุนบริการ Revolution Health ซึ่งให้บริการเก็บข้อมูลประวัติการรักษาพยาบาลเช่นกัน แม้ทั้งหมดจะไม่มีใครส่งข่าวคราวว่าบริการเหล่านี้ปิดฉากลงแล้ว แต่ก็เชื่อว่าไม่ได้เสียงตอบรับที่ดีในขณะนี้
       
       มีการวิเคราะห์ว่าการล่มสลายของธุรกิจให้บริการเก็บข้อมูลสุขภาพออนไลน์เป็นเพราะผู้ให้บริการ"ด่วนตัดสินใจเร็วเกินไป" เนื่องจากที่ผ่านมา การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหรือละดับขั้นตอนการดำเนินการในองค์กรด้านสุขภาพนั้นไม่เคยเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้นช่วงเวลาทดลองให้บริการ 3 ปีที่ผ่านมาจึงสั้นเกินไป ขณะเดียวกัน ความล้มเหลวของบริการเก็บข้อมูลสุขภาพออนไลน์ส่วนหนึ่งเกิดจากการขาดปัจจัยหนุน เช่น กฏหมายว่าด้วยข้อบังคับในการเก็บข้อมูลสุขภาพ เป็นต้น ซึ่งเมื่อไม่เกิดขึ้นในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บริการเหล่านี้จึงขาดแรงหนุนให้ชาวออนไลน์เห็นความจำเป็นในการใช้งาน
       
       นอกจาก Google Health ที่กูเกิลพบว่าไม่สามารถขยายตลาดในวงกว้างได้ ยังมีบริการอีกตัวคือ Google PowerMeter บริการเก็บข้อมูลสถิติการใช้ไฟฟ้าของอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เพื่อให้เจ้าของบ้านสามารถจัดสรรการใช้งานเพื่อประหยัดไฟสูงสุด แต่เพราะบริการนี้ต้องทำงานร่วมกับมีตเตอร์วัดไฟแบบใหม่ที่ไม่แพร่หลาย เมื่อไม่เป็นที่นิยม กูเกิลจึงตัดสินใจปิดบริการตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2011 เป็นต้นไป
       
       ..ไม่เป็นไร ไว้ค่อยปัดฝุ่นให้บริการใหม่ก็ไม่สาย..
       
       Company Related Link :
       Google

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics

  Subject / Started by Replies Last post
0 Replies
1386 Views
Last post August 31, 2011, 04:13:56 PM
by Nick
0 Replies
1331 Views
Last post September 14, 2011, 03:21:12 PM
by Nick
0 Replies
1587 Views
Last post October 31, 2011, 03:49:04 PM
by Nick
0 Replies
1308 Views
Last post October 31, 2011, 03:53:04 PM
by Nick
0 Replies
1520 Views
Last post November 02, 2011, 05:15:18 PM
by Nick
0 Replies
1778 Views
Last post November 06, 2011, 10:57:44 AM
by Nick
0 Replies
3026 Views
Last post November 11, 2011, 03:43:42 PM
by Nick
0 Replies
2129 Views
Last post November 21, 2011, 12:37:14 PM
by Nick
0 Replies
3081 Views
Last post January 06, 2012, 04:33:39 PM
by Nick
0 Replies
4912 Views
Last post January 18, 2012, 02:03:34 PM
by Nick