มาช่า” เปิดใจถูก “ซีริล “ส่งข้อความข่มขู่พร้อมกรรโชกทรัพย์ จวกอีกฝ่ายเป็นอาชญากรข้ามชาติ
"มาช่า" เปิดใจผ่านรายการ "เรื่องเด่นเย็นนี้" เผยถูกคู่กรณีแบล็คเมล์เรียกเงินกว่า 20 ล้าน เพื่อไม่ให้เปิดเผยรูปลับส่วนตัว ยอมรับพลาดเองที่ไม่ได้เช็คประวัติ หลังอีกฝ่ายอ้างว่าเป็นโปรดิวเซอร์ใหญ่ค่ายเพลงยักษ์ทางยุโรป ซัดเป็นอาชญากรข้ามชาติ เพราะก่อคดีมาแล้วหลายประเทศ แต่ไม่เข้าใจทำไมไม่มีใครทำอะไรคู่กรณีได้เลย ทั้งนี้ยังได้ร้องเพลง เหนื่อยไหมดาวทิ้งท้ายรายการ
ตกเป็นข่าวฉาวอย่างต่อเนื่องทีเดียวในส่วนของนักร้องม่ายสาวชื่อดัง "มาช่า วัฒนพานิช" โดยเฉพาะล่าสุดกับกรณีหลุดภาพวาบหวิวสาวหน้าคล้ายเจ้าตัวกับหนุ่มต่างชาติชาวฝรั่งเศส "ซีริล รูฮานี" คู่กรณีที่ถูกนักร้องชื่อดังฟ้องร้องในข้อหากรรโชกทรัพย์ หลังจากนั้นเจ้าตัวก็ได้ออกมาแถลงข่าวโดยยอมรับว่าคนในภาพดังกล่าวคือตนเอง แต่ไม่ขอเอ่ยชื่อคู่กรณีที่เชื่อว่าเป็นผู้ปล่อยภาพดังกล่าว
ล่าสุดมาช่า ได้เดินทางมาบันทึกเทปรายการเรื่องเด่นเย็นนี้" ช่วงเจาะข่าวเด่น ซึ่งมี "นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา" เป็นผู้ดำเนิน โดยมีการบันทึกเทปไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน หลังจากมาช่าได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนไปแล้ว ซึ่งเทปดังกล่าวได้ออกอากาศของเย็นวันนี้ (27 มิถุนายน) ซึ่งนักร้องสาวได้เดินทางมาพร้อมกับ “นายอนันต์ เปี่ยมพงศ์สานต์” ทนายความและ “นายทศวร ศรีสุวรรณ” ผู้จัดการส่วนตัวพร้อมเปิดใจว่า
มาช่า : “ที่งานแถลงข่าววันนั้น ที่ไม่เห็นน้ำตาเลย (หัวเราะ)จริงไม่ได้เครียดนะ เรื่องแบบนี้ในฐานะเป็นผู้หญิงก็อายเหมือนกันนะ แต่เรายอมรับความจริงในสิ่งที่เกิดขึ้นและอยากให้คนรู้ด้วยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร บุคคลที่กระทำช่า แต่ก็ไม่อยากเอ่ยชื่อถึงบุคคลนี้ แต่รู้ว่าเขาจุดประสงค์ไม่ดี ช่าอยากจะเรียกว่าอาชญากรด้วยซ้ำไป”
ทนายความ :“ ภาพที่เป็นข่าวนี้มันถูกส่งมา ประมาณ2เดือนก่อน มาจากทางอินเตอร์เน็ต ให้ทางมาช่าและผู้จัดการส่วนตัวด้วย โดยมีข้อวความในลักษณะของการเรียกร้องเงิน เพื่อไม่ให้เปิดเผยภาพพวกนี้ ภาษากฏหมายคือการรีดเอาทรัพย์ หรือแบล็คเมล์เราก็ปรึกษากันมาในระยะหนึ่ง แต่เราไม่คาดคิดว่าจะมีคนทำแบบนี้ เขาส่งอีเมล์ว่าถ้าไม่อยากให้ เปิดเผยภาพให้คุณช่าต้องจ่ายเงินจำนวนหลายล้านบาท”
มาช่า : “จาก 20 -10- 8 -2 ล้าน สุดท้ายก็บอกว่า 2 ล้านก็เอา แล้วก็จะมีขู่กรรโชกตลอดเวลาและบอกว่าให้คอยดูนะว่าฉันจะเล่นแกให้ถึงตาย ช่าไม่ได้ติดต่อไปหาเข้าเลยนะ แต่เขาจะส่งเป็นอีเมล์ เป็นเมสแสจมา เราก็ไม่เคยตอบ ช่ารู้เรื่องนี้แล้วเพราะมันเกิดขึ้นมาสักระยะหนึ่งแล้ว ตั้งแต่ที่เราหยุดร่วมงานกันไป แล้วก็มีคนมาเตือนหลายคนแล้ว ว่าคนนี้ไม่ธรรมดา ให้ระวัง”
ทนายความ :“ แต่คนละส่วนกับผลงานที่เคยฟ้องร้องกันมานะ อันนั้นก็เป็นอีกส่วนหนึ่ง เราก็คิดว่าถ้าเรายอมมันต้องยอมไปตลอดชีวิต ลักษณะแบบนี้มันไม่ถูกต้อง การขู่แบบนี้เป็นการขู่ที่ว่าจะออกสื่อมวลชนด้วยว่า อย่าตกเป็นเครื่องมือของอาชญากรแบบนี้ เพราะฉะนั้นคนที่มีชื่อเสียงแบบนี้ก็จะกลัวและตกเป็นเครื่องมือและคนนั้นก็จะเสียชื่อเสียง เราก็เลยคุยกันว่าให้ช่าออกมายอมรับเลยดีกว่า”
ผู้จัดการส่วนตัว: “ตอนที่เขาขู่ก็คิดแล้วว่ายังไงเราก็ไม่จ่าย ถ้าเราจ่ายมันก็ต้องมีอย่างอื่นมาให้เราจ่ายอยู่เรื่อยๆ”
มาช่า : “คือบอกตรงๆว่าภาพที่ออกมาก็ใช่ว่าจะดูดี ในจุดหนึ่งช่าคิดว่าเราพูดตรงๆ แมนๆ เป็นมาช่าที่ทำงานในวงการบันเทิงไม่เคยหลอกอะไรกับประชาชนอยู่แล้วกับเรื่องแค่นี้จะต้องกลัวทำไม ที่เขาเข้ามาคุยกับเราได้เพราะเขาบอกว่าเขากำลังจะกลับฝรั่งเศส เพราะเขามีเรื่องราวในประเทศไทย ตอนนั้นเราก็ไม่ได้เอะใจอะไร ก็คุยกัน ช่าก็ถามเขาว่าเขาทำงานอะไร เขาก็บอกว่าเขาเป็นโปรดิวเซอร์ใหญ่ เราก็โอเคเพราะเราก็อยากทำเพลงช่วงนั้นอยากจะทำเพลงของตัวเองด้วย จะว่าไปก็ไม่รอบคอบเราไม่ได้เช็คว่า เขาทำเพลงจริงหรือเปล่า เราก็ไม่รู้จะเช็คยังไงมันยากมากไกลมาก ไม่รู้จะเช็คยังไง ก็ไม่ได้เอะใจเลยทำงานไปเรื่อยๆ จนตอนหลังมีเรื่องเงินเข้ามา เขามาขอยืมเงินตลอด ช่าก็เอะใจแล้วเริ่มมีคนเข้ามาเตือนบอกว่าให้เข้าไปดูในเว็บ ช่าก็เข้าไปดูเลยเริ่มรู้สึกแล้ว เพราะมีเว็บเตือนเลย”
ทนายความ :“เขามีลักษณะเหมือนอาชญากรข้ามชาติ ใช่ความเป็นต่างชาติเข้ามาหลอกคนไทย มาโชว์ความน่าเชื่อถือ แล้วก็อาศัยว่าคนไทยไม่รู้ระบบเงินฝาก ประมาณว่ามีเงินอยู่ที่สิงค์โปร์บ้าง 400-500 ล้าน เขาจะใช้วิธีแบบนี้ซึ่งเราไม่สามารถตรวจสอบได้เปิดหน้าเว็บมาพวกนี้จะมีเยอะ”
มาช่า :“อย่างช่าที่เจอไม่ใช่กรณีแรก ตอนแรกที่เราทำงานเราต้องการ การลงทุน แต่เขาจะใช้วิธีหลอกหลายอย่าง ว่าเดี๋ยวเงินจะมา จะเอาเงินมาลงทุน พอเรารู้ตัวก็เริ่มถอยๆ ออกไป พอมารู้อีกทีก้โอ้โห หลอกคนมาเยอะและคนนี้ไม่ธรรมดา ถ้าไม่ถอยเราอาจจะโดนหนักกว่านี้เขาทำไม่ได้อย่างที่เขาอ้าง เรื่องเงินก็ยอมรับว่าเสียไปบ้าง แต่ก็ไม่เยอะถึงกับน่าตกใจ อย่างที่บอกเรากำลังจะทำงานร่วมกัน เราก็รู้สึกดีกับเขาตอนนั้น เขาไนท์มาก เรารู้สึกดีกับเขานะเราก็เลยโอเคออกเงินตรงนี้ไปก่อน ถามว่าคบกับเขาไหม ก็ยอมรับมีความรู้สึกที่ดี แต่ไม่ถึงขั้นเป็นแฟนนะ ตอนนั้นเราก็ไม่มีใคร ก็คบหาสนุกสนาน เรามีความเชื่อใจเขามากกว่า เราก็ซวยมาหลายครั้งแล้ว แต่เราก็ไม่ได้เสียใจอะไรมาก เรื่องเก่ายังไม่ทันแผลมันยังไม่หาย เลยยังไม่เกิดความรัก มันก็แค่เหมือนกับว่าเธอน่ารักดีที่มาดูแลเรา”
“ภาพที่เกิดขึ้นเป็นงานปาร์ตี้ไม่ได้อยู่กันแค่ 2 คน ในบางรูปก็เพื่อนๆ ถ่ายให้ บางรูปก็ไม่รู้ว่ามันมาจากไหน เพราะเขาชอบติดกล้องตลอด เราก็ไม่ระวังตัว บางรูปจากโทรศัพท์มือถือของช่าที่หายไป”
ผู้จัดการส่วนตัว :“ รูปแรกๆ เขาส่งมาในเฟซบุ๊คเรา โดนใช้ล็อคอินเราในการโพสต์ เหมือนการแฮ็กข้อมูล เสมือนผมเป็นคนส่งภาพอันนั้นเอง นาทีนั้นก็งง ปกติเราก็ทำงานเสร็จแยกย้ายกันกลับบ้าน แต่พอดีวันนั้นทำงานอยู่ด้วยกันเราก็เปิดเมล์ว่ามีการเปลี่ยนพาสเวิร์ดนะ เราก็เอะใจก็เลยเข้าไปเช็ค”
มาช่า :“ทุกครั้งที่เราโดนเขาขู่ ก็จะส่งต่อให้ทนายไว้เป็นหลักฐาน เราก็ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรเรา ถามว่ากลัวไหม มันอยู่ในความรู้สึกกึ่งความกลัว และรู้สึกว่าคนที่ไม่ถูกต้องถึงลอยนวลไม่มีใครกล้าพูด กล้าทำอะไรเขา กลัวเสียชื่อเสียงหรืออะไรหลายๆอย่าง แต่เรารู้สึกว่าความจริงเป็นความจริงถ้าคิดว่าเรื่องนี้มีประโยชน์ต่อใครหลายคน มันก็อาจจะลงแค่ที่ช่า ถ้าผู้หญิงคนอื่นโดนอีกเรื่องแบบนี้เขาทำมามากกว่า 5 ปีแล้ว”
ทนายความ :“ความจริงอาชญกรคนนี้อยู่เมืองไทยมาเป็น10 ปีออกไปช่วงหนึ่งแล้วก็กลับมา ก็ยังมีพฤติกรรมเช่นเดิม พอดีมีคนรู้จักเขา ก็เลยคุยกันเลยทราบว่าเขาเป็นแบบนี้มานานแล้ว มีลักษณะคล้ายๆกัน เขาพยายามสร้างภาพว่าเป็นคนคนต่างชาติจะเข้ามาร่วมลงทุน แล้วก็โกงแบบนี้”
มาช่า: “เขาหลอกตลอดไม่ว่าจะเป็นในเว็ปหรือการเล่าอะไร ไม่เข้าใจเขาเหมือนกัน เขาจะหลอกว่ามีบ้านที่นั่นมีเงินอยู่ที่นี่ ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเพื่ออะไร”
ทนายความ :“เขาจะพูดกับคุณช่าอีกอย่างหนึ่ง คุยกับผู้จัดการส่วนตัวอีกอย่างหนึ่งและก็คุยกับผมอีกอย่างหนึ่ง เพราะฉะนั้นเขาจะกลัวมากถ้าเรา3คนอยู่ด้วยกันแล้วเขาอยู่ด้วย ถ้ามีการคุยกันปั๊บก็จะรู้เลยว่าเขาโกหก”
มาช่า :“ก็เลยตัดสินใจไม่อยากมีปัญหา ตอนนี้ช่ารู้สึกว่าเรื่องนี้เขาทำไม่ถูก อยากจะใช้คำว่าอาชญากรระดับประเทศ เพราะที่เขามีคดีก็มีตั้งแต่อเมริกา ตรงนี้เราก็พลาดตรงนี้จริงๆ ไม่นึกว่าจะมาเจอคนแบบนี้ ถามว่าแค้นไหม ก็ไม่ได้แค้นทีเดียว แต่รู้สึกว่าทำไมคนแบบนี้ถึงลอยนวลได้ ยังไม่มีใครกล้าทำอะไรเขาได้เลย ก้เลยตัดสินใจแจ้งความดำเนินคดี”
ทนายความ : “เราดำเนินความคดีไปแล้วเกี่ยวกับการกรรโชกทรัพย์ และก็ดำเนินคดีเกี่ยวกับการเผยแพร่รูป ตรงนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบ และก็เลยถือโอกาสบอกว่า ณวันนี้ขอให้หยุด หยุดการเผยแพร่และภาพพวกนี้มาเสนอ อย่าไปรื้อฟื้น เราขอให้ทุกคนหยุดเพราะเราจำเป็นต้องดำเนินดคดีไว้เป็นตัวอย่าง”
มาช่า : “เราคิดว่ามันควรจะจบได้แล้ว”
ทนายความ“วันนี้เรายอมรับแล้ว ถ้าวันข้างหน้ามันจะเอาอะไรมาขู่อีก เพราะเขาขู่ความเป็นซุปเปอร์สตาร์ ว่าจะเป็นข่าว แต่ถ้าเรายอมรับแล้วก็ถือว่าเรายอมสู้กับความจริงมากกว่าที่จะยอมจ่ายเงินให้กับคนที่ทำความผิด”
มาช่า : “ถามว่าแอบร้องไห้บางไหม ก็แอบร้องไห้เรื่องอื่น เรื่องนี้บอกตรงๆว่าคนแบบนี้เราจะร้องไห้ทำไม เรากลัวว่าคนอื่นจะโดนมากกว่า ไม่อยากให้คนอื่นเจอแบบที่ช่าเจอ ช่าเชื่อว่าหลายคนอาจจะแต่ไม่กล้าเปิดเผย ก็ได้บทเรียนเยอะ คงต้องรอบคอบมากขึ้น น้องกายก็ไม่ต้องห่วงคะ เพราะเขาเชียร์แม่เต็มที่ เราก็ไม่ยอมให้ใครมาขู่ได้ เพราะเราก็ไม่เคยทำอะไรเขาเลย ตอนนี้ช่าถูกรังแกเรื่อยๆ แล้วที่น่าตลกคือถ้าเป็นผู้หญิงด้วยกันก็โอเคแต่นี่เป็นผู้ชายที่รังแกผู้หญิงอยู่ ช่าคิดว่า มันถูกแล้วเหรอที่ทำแบบนี้ ถ้าแมนๆ ก็ออกมายืนกันตัวต่อตัวดีกว่าอย่ามาใต้ดินแบบนี้เลย”
“ถ้าเขาส่งภาพมาขู่อีกก็ไม่กลัวนะ แต่ว่าอยากเอาสมาธิไปทำงานมากกว่า มานั่งจุกจิ๊กแบบนี้ก็ไม่ไหว ตอนนี้ช่าก็ต้องทำงานด้วยเพราะมันเป็นหน้าที่ ถามว่าตอนนั้นตกใจก็ตกใจ ตื่นเต้นว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เราก็ทำงานเพื่อประชาชนมานาน จะให้เราวิ่งหนีกลับบ้านไปเลยเหรอเราก็ต้องถ่ายทำจนเสร็จ ถามว่าอายไหมก็อาย แต่ความจริงก็คือความจริงเราต้องทำงานเพราะท้ายที่สุดเราก็ต้องวัดค่าก่อนว่าคนๆนั้นจะมีค่าพอให้เรามาเสียเวลาอย่างนั้นเหรอ ที่มานั่งพูดอยู่ตอนนี้เพราะกลัวว่าคนอื่นจะโดนไปด้วย ตอนนี้รู้สึกเหนื่อยมาก ไม่รู้ปีที่ผ่านมาไม่รู้ดาวอะไรตกใส่ (หัวเราะ) เหนื่อยจนหัวเราะ ไม่ได้อยากจะหัวเราะแต่มันขำ ตอนแรกร้องไห้ เพราะเรื่องนั้นเรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องเดียว ก็เรามนุษย์นะ ช่าก็เป็นผู้หญิงก็รู้สึกอ่อนไหว เพียงแต่เราร้องก็ร้องไห้คนเดียว ไม่ได้ให้ใครเห็น เราเองก็มีความเป็นลูกผู้หญิง”
ทั้งนี้นักร้องสาว ยังร้องเพลงเหนื่อยไหมดาว ปิดท้ายรายการ
ที่มา: manager.co.th