อะโดบี เปิดเผยรายงานเมื่อวานที่ผ่านมาระบุว่า ผลกำไรสุทธิของบริษัทในไตรมาสนี้กระโดดขึ้นมาถึง 54% และจะยังคงมียอดขายที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ขณะเดียวกันก็แสดงความกังวลถึงกระแสความต้องการใช้งานโปรแกรมในฝั่งยุโรปที่อาจชะลอตัวลง
โดยในขณะนี้ราคาหุ้นของผู้ผลิตซอฟท์แวร์ออกแบบรายใหญ่ของโลกตกต่ำลงถึง 3.7% จากเดิมที่มีราคาอยู่ที่ 30.83 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้น หลังปิดการซื้อขายในแน็ซแด๊ซเหลือเพียง 32.01 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้นเท่านั้น ด้านนักวิเคราะห์ซอฟท์แวร์จากออมนิเจอร์ซึ่งเป็นบริษัทในเครืออะโดบี อธิบายว่า ยอดขายไม่ได้เลวร้ายนักหลังถูกผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศญี่ปุ่น ที่ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดใหญ่ที่สุดของเรา แต่ขณะนี้น่าเป็นกังวลกับยอดขายในตลาดยุโรปมากกว่าที่ตกต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ Mark Garrett หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินอะโดบี ยอมรับว่า ที่ผ่านมาอะโดบี้เคยมีประสบการณ์กับการปรับตัวลดลงกว่าความต้องการที่ชะลอตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ใน ภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกามาแล้ว สำหรับไตรมาสที่สอง อะโดบี มีรับกำไรสุทธิอยู่ที่ 229.4 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 45 เซ็นต์ต่อหุ้น เทียบกับในช่วงไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว ที่คว้ากำไรสุทธิอยู่ที่ 148.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 28 เซ็นต์ต่อหุ้น นอกจากนี้ อะโดบี ยังได้แถลงเพิ่มเติมด้วยว่า ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ยอดขายของบริษัทลดลงเนื่องการชะงักตัว หลังจากที่ญี่ปุ่นถูกภัยพิบัติธรรมชาติเล่นงาน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 13 ของยอดขายบริษัทเมื่อไตรมาสที่ผ่านมา และทั้งนี้ บริษัทยังคงมีเป้าหมายที่จะรับรายได้เพิ่มขึ้นอีก 10% ภายในสิ้นปีนี้
Source : reuters
ที่มา: pantip.com