นายเอียน ไวท์ติ้ง รองประธานอาวุโสเวิล์ดไวด์ บริษัท โบรเคด
โบรเคด ตั้งเป้าผู้นำตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ฟาบริก ทุ่ม 100 ล้านเหรียญ โปรโมทเทคโนโลยีใหม่เต็มสูบ มั่นใจยอดขายในไทยโต 2 เท่าภายใน 2 ปี
นายเอียน ไวท์ติ้ง รองประธานอาวุโสเวิล์ดไวด์ บริษัท โบรเคด กล่าวว่า จากมูลค่าตลาดเครือข่ายสตอเรจแบบไอพีทั่วโลกในปีนี้ที่คาดว่าจะมีมูลค่า 2.5 หมื่นล้านเหรียญเมื่อเทียบกับเครือข่ายสตอเรจที่เรียกว่า Storage Area Network หรือ SAN ที่มีมูลค่าตลาดเพียง 2.5 พันล้านเหรียญจะเห็นได้ว่า แนวโน้มตลาดกำลังมุ่งไปโลกเครือข่ายสตอเรจแบบไอพีเพิ่มขึ้น
โบรเคดจึงได้วางกลยุทธ์ 'โบรเคด วัน' ขึ้น โดยเป็นการนำเสนอสถาปัตยกรรมเครือข่ายแบบฟาบริกสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ยุคใหม่ที่ทำให้การวางระบบเครือข่าย ลดความซับซ้อน ทำงานได้ต่อเนื่องไม่สะดุดและที่สำคัญ บริหารจัดการได้ง่าย ทั้งหมดนี้ทำงานบนสถาปัตยกรรมสตอเรจบนเครือข่ายภายใต้เทคโนโลยี ไฟเบอร์ แชนแนล สวิตชิ่ง
'โบรเคดเป็นผู้นำในการเปิดตัวโซลูชั่นดาต้าเซ็นเตอร์บนเครือข่ายแบบฟาบริกที่มีความเร็วสูงสุดในตลาด ที่ 16 กิกะบิตต่อวินาที ขณะที่คู่แข่งในตลาดยังคงอยู่ที่ความเร็ว 8 กิกะบิตต่อวินาที เหมือนกับที่โบรเคดเป็นผู้นำในตลาด SAN ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด 68% มาติดต่อกัน 6 ปี'
ทั้งนี้ เอเชียแปซิฟิกเป็นภูมิภาคที่มีแนวโน้มที่จะลงทุนด้านเวอร์ชัวร์ไลเซชันและคลาวด์คอมพิวติงสูงมาก โดยคาดว่า รายจ่ายสำหรับเทคโนโลยีด้านนี้จะพุ่งขึ้นจาก 2.5 พันล้านเหรียญในปีนี้เป็น 6.7 พันล้านเหรียญในปี 2559 รวมทั้งการเติบโตของผู้ใช้โมบาย บรอดแบนด์ในภูมิภาคนี้ถึง 400 ล้านราย และคาดว่าในอีก 3 ปีข้างหน้า การเติบโตอินเทอร์เน็ตวิดีโอจะมีถึง 700% ทำให้การเข้าถึงข้อมูลต้องทำได้ทุกหนแห่ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อดาต้าเซ็นเตอร์ที่จะต้องเปลี่ยนไปเพื่อรองรับกับพฤติกรรมดังกล่าว
นายสุรศักดิ์ เหรียญประกายแสง ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท โบรเคด คอมมูนิเคชั่นส์ สิงคโปร์ กล่าวว่า โบรเคดให้ความสำคัญกับตลาดภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นอย่างมาก เห็นได้จากการที่โบรเคดลงทุนที่จะผลักดันตลาดโซลูชันดาต้าเซ็นเตอร์แบบฟาบริกถึง 100 ล้านเหรียญ มีตั้งแต่การเพิ่มจำนวนพนักงานถึง 2 เท่า การจัดตั้งออฟฟิศ รวมถึงการนำผลิตภัณฑ์ฟาบริกให้ตลาดทดลองใช้งานถึงประสิทธิภาพ
ส่วนในไทย โบรเคดได้ลงทุนพัฒนาทีมขาย ตัวแทนขาย บุคลากรทางด้านเทคนิค รวมถึงกิจกรรมการตลาด เพื่อโปรโมตแบรนด์โบรเคดให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยตลาดหลักที่โบรเคดมองเอาไว้มี 4 กลุ่มคือภาครัฐ การศึกษา เซอร์วิสโพรไวเดอร์ และธนาคาร ซึ่งจะเป็นการขายผ่านตัวแทนจำหน่ายเพียงอย่างเดียว โดยตั้งเป้ายอดขายในไทยจะเติบโตถึง 2 เท่าภายใน 2 ปีนี้
'เทคโนโลยีฟาบริกเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้โบรเคดเติบโตถึง 2 เท่าได้ โดยเชื่อว่า มีสัดส่วนการขายถึง 50% ในอีก 2-3 ไตรมาสข้างหน้า เมื่อเทียบกับเทคโนโลยี SAN ที่ในปีที่แล้วมีสัดส่วนถึง 90% และเชื่อว่า จะกลายเป็น 60-70% ในอนาคตข้างหน้า'
Company Related Link :
Brocade
ที่มา: manager.co.th