Author Topic: เมเจอร์จับมือเอไอเอส ผุดโรงหนัง 4มิติ สร้างจุดต่างนวัตกรรม  (Read 849 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


กลาง - นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส, ขวา -นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป

       เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์เตรียมผุดโรงหนัง 'AIS 4Dx' กลางกรุง หลังร่วมทุน โฟว์ดีเพล็กซ์ ผู้นำเทคโนโลยี 4 มิติจากเกาหลี และได้รับการสนับสนุนหลักจากเอไอเอส นำเทคโนโลยีภาพยนตร์แบบใหม่สู่ประเทศไทยแห่งที่ 3 ในโลก
       
       นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป กล่าวว่าเมเจอร์ฯ ต้องการสร้างความแตกต่างให้แก่ธุรกิจภาพยนตร์ในประเทศไทย และเห็นว่าการนำเทคโนโลยีแบบใหม่เข้ามาสู่ประเทศไทย จะช่วยย้ำความเป็นผู้นำในตลาดภาพยนตร์ โดยใช้งบประมาณในการลงทุนกว่า 50 ล้านบาท เพื่อเปิดโรงภายนตร์ 4 มิติ ภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้
       
       "การเปิดตัวโรงหนัง 4 มิติที่เม็กซิโกมีอัตราผู้เข้าชมต่อโรงสูงถึง 90% และต้องจองล่วงหน้า 2 สัปดาห์ หลังจาก 3 วันแรกที่เปิดตัว และเชื่อว่ากระแสการตอบรับในไทยคงเป็นเช่นเดียวกัน โดยคาดว่าจะมีอัตราผู้เข้าชมต่อโรงตลอดทั้งปีเกิน 50%"
       
       สิ่งที่ผู้ชมจะได้รับจากการชมภาพยนตร์แบบ 4 มิติ คือการรับชมภาพยนตร์ 3 มิติ ร่วมกับระบบที่นั่งให้สามารถเคลื่อนไหว มีการใส่เอฟเฟกต์ ลม กลิ่น รวมกับระบบเสียง 7.1 ชาแนล โดยกำหนดราคาตั๋วต่อที่หนังไว้ที่ราว 300 - 400 บาท
       
       โดยการเปิดโรงภาพยนตร์ 'AIS 4Dx' คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงสิ้นเดือนมิถุนายน และประเดิมฉายภาพยนตร์เรื่อง ทรานส์ฟอร์เมอร์ 3 เป็นเรื่องแรก ซึ่งจะใช้สถานที่โรงภาพยนตร์ที่ 5 พารากอนซีนีเพล็กซ์ เป็นแห่งแรกเพื่อดูกระแสตอบรับก่อนลงทุนสร้างเพิ่มอีก 4-5 แห่งในปีนี้
       
       นอกจากการร่วมทุนกับโฟว์ดีเพล็กซ์แล้ว ทางเมเจอร์ฯยังได้วางแผนในการลงทุนเพื่อเปลี่ยนรูปแบบการฉายภาพยนตร์จากฟิล์ม35มม. ให้กลายเป็นดิจิตอลกว่า 156 โรงภายในสิ้นปีนี้ พร้อมเตรียมแผนลงทุนเปิดโรงหนังโลว์คอสต์ให้บริการประชาชน
       
       "เมื่อทรานส์ฟอร์เมอร์ 3 เข้าโรงทางเมเจอร์จะเพิ่มโรงดิจิตอลให้กลายเป็น 60 โรง และขยายเพิ่มภายในสิ้นปีอีก 96 โรง และในปี 2012 จะเพิ่มเป็น 200 โรง คาดว่าใน 3 ปี ข้างหน้าโรงดิจิตอลจะมีสัดส่วนเป็น 70% ของโรงภาพยนตร์ทั้งหมด"
       
       เหตุผลหลักที่ทำให้ต้องมีการเปลี่ยนระบบการฉายจากฟิลม์ให้กลายเป็นดิจิตอล เนื่องมาจากปัจจุบันภายนตร์ส่วนใหญ่บันทึกในระบบดิจิตอล และต้องมีการมาแปลงลงฟิลม์เพื่อนำไปฉาย แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นโรงฉายแบบดิจิตอล จะสามารถลดต้นทุนจาก 4 ล้านบาทต่อเรื่องเหลือ 1.5 ล้านบาทจึงทำให้เครื่องฉายดิจิตอลมีราคาเครื่องสูงกว่าฟิล์ม3 เท่า
       
       ส่วนการดำเนินงานของโรงหนังแบบโลว์คอส น่าจะเริ่มดำเนินการในช่วงปีหน้า โดยนายวิชาให้ข้อมูลว่า ถ้าจะสร้างโรงหนังราคาถูกเพื่อเจาะกลุ่มผู้บริโภค จะต้องทำราคาตั๋วให้อยู่ประมาณ 100 บาท กระจายไปยังสถานที่ตามชานเมือง โดยแต่ละที่จะต้องมีจำนวนโรงไม่ต่ำกว่า 4-5 โรง
       
       นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ (คนกลาง)รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ เอไอเอส กล่าวว่า เอไอเอสกับเมเจอร์ฯถือเป็นพันธมิตรที่ร่วมกันทำตลาดมาระยะหนึ่งแล้ว จะเห็นได้จากสิทธิพิเศษที่ลูกค้าเอไอเอสได้รับ ส่วนลดค่าตั๋วหนัง และสามารถสร้างยอดผู้เข้าชมได้ถึง 400,000 ที่นั่งต่อปี
       
       "เอไอเอเอสแทบไม่ใช้เวลาในการตัดสินใจในการลงทุนเป็นผู้สนับสนุนหลักในการเปิดโรงภายนตร์ของเมเจอร์ซินีเพล็กซ์เลย เพราะถือว่าทั้ง 2 บริษัทมีวิสัยทัศน์ใกล้เคียงกันในเรื่องการนำนวัตกรรมให้กับลูกค้า"
       
       ทั้งนี้ ยังไม่มีการเปิดเผยถึงเงินที่ทางเอไอเอสสนับสนุนให้แก่เมเจอร์ฯ รวมถึงวิธีการทำโปรโมชันร่วมกัน เนื่องจากอยู่ในช่วงพูดคุยเพื่อหาแนวทางที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะมีการมอบสิทธิพิเศษแก่ลูกค้า เอไอเอส ก่อน
       
       "ยังมีเรื่องต้องคุยกันอีกเยอะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรูปแบบการทำตลาด เพื่อสื่อสารไปยังกลุ่มผู้บริโภค รวมถึงทดลองรูปแบบการทำตลาดที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จากไลฟ์สไตล์ของกลุ่มผู้บริโภคที่ใกล้เคียงกัน"
       
       นายสมชัยระบุว่า ไลฟ์สไตล์การใช้งานของลูกค้าเอไอเอสประกอบไปด้วย 3 ประเภทหลัก คือ ชมภาพยนตร์ ฟังเพลง และรับประทานอาหาร ซึ่งการร่วมมือดังกล่าวสามารถตอบโจทย์แก่กลุ่มลูกค้าโดยตรง และมีการร่วมมือกันมาตลอด
       
       ขณะที่ จิม แพ็ตเตอร์สัน ผู้จัดการทั่วไป โรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์ และกรุงศรี ไอแมกซ์ กล่าวเสริมว่า การตัดสินใจดังกล่าวทำให้เมเจอร์ฯ ได้กลุ่มลูกค้าผู้ใช้งานเอไอเอสกว่า 32 ล้านคน และช่วยให้สื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าทั่วไปง่ายขึ้น และยังสามารถทำตลาดแบบราคาพิเศษให้แก่ลูกค้าเอไอเอสด้วยเช่นกัน
       
       สำหรับ ซีเจ กรุ๊ป เกาหลี เป็นบริษัทที่มีเครือข่ายธุรกิจครอบคลุมหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจสื่อและบันเทิง ทั้งดนตรี เกมออนไลน์ รายการโทรทัศน์ ถ่ายทอดสดผ่านดาวเทียม บริการอินเทอร์เน็ต และธุรกิจสายอื่นๆ อย่างร้านอาหาร โฮมชอปปิง ระบบขนส่งและกระจายสินค้า และอุตสาหกรรมเวชภัณฑ์
       
       Company Related Link :
       Major Cineplex


ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)