Author Topic: ‘จุติ’ ส่อทำไทยเสียวงโคจรดาวเทียม  (Read 777 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


จุติ ไกรฤกษ์

ได้คนประเภทนี้มาเป็นรัฐมนตรีต้องทำใจ กระทรวงไอซีทีส่อทำประเทศไทยเสียตำแหน่งวงโคจรดาวเทียม 120 องศาตะวันออก หลังนายจุติ รมว.ไอซีทีลงทุนบินไปเจรจาไอทียู ขอความเห็นใจยืดระยะเวลาใช้วงโคจร 120 องศาตะวันออก แต่ไม่เป็นผล หากไทยไม่มีดาวเทียมอยู่ในตำแหน่งดังกล่าวภายในเดือนม.ค. 2555 ประเทศไทยจะเสียสิทธิทันที
       
       นายจิรายุทธ รุ่งศรีทอง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม กล่าวถึงการรักษาสิทธิวงโคจรดาวเทียมว่า นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) และ กสท ได้เดินทางไปเจรจากับสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ไอทียู) เพื่อขอยืดระยะเวลาในการรักษาสิทธิวงโคจรดาวเทียมในตำแหน่ง 120 องศาตะวันออก ที่จะหมดสิทธิ์ในเดือนมกราคม 2555 แต่ไม่เป็นผล เนื่องจากไอทียูยืนยันตามกำหนดเดิม
       
       เมื่อการเจรจาไม่เป็นผลก็ต้องหาแนวทางอื่นเพื่อรักษาสิทธิวงโคจรไว้ โดยมี 2 แนวทางคือ 1.เช่าดาวเทียมต่างประเทศที่โคจรอยู่ในห้วงอวกาศที่ไม่ได้ใช้งานหรือหรือใช้งานไม่มาก ซึ่งมีอยู่หลายดวง แล้วลากมาไว้ที่ตำแหน่ง 120 องศาตะวันออก 2.เจรจากับผู้ผลิตดาวเทียมและขอซื้อดาวเทียมที่สร้างเสร็จแล้ว หรือใกล้จะเสร็จ ซึ่งพร้อมจัดส่งได้ภายใน 3-6 เดือนซึ่งขณะนี้ก็ได้มีการเจรจากับผู้ผลิตในประเทศจีน และประเทศทางยุโรป แต่ก็ต้องหาสเปกดาวเทียมให้เหมาะสมในการใช้งานเนื่องจากเป็นดาวเทียมแห่งชาติ หลังจากนั้นจะต้องขอใบอนุญาตจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)
       
       ‘การขอไลเซนส์จะได้หรือไม่ได้ เราก็ต้องดำเนินการไปตามกระบวนการ และแนวทางที่วางไว้ซึ่งก็ดีกว่าที่จะไม่ทำอะไรเลย’
       
       แหล่งข่าวในกระทรวงไอซีทีกล่าวว่า เวลาที่เหลืออีกแค่ 6 เดือนกว่าๆไม่น่าจะทัน และถ้าหากประเทศไทยสูญเสียตำแหน่งวงโคจรดาวเทียม 120 องศาตะวันออกจริง นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.ไอซีทีก็ไม่น่าจะปฏิเสธความรับผิดชอบได้ เพราะตำแหน่งวงโคจรดาวเทียมเป็นความรับผิดชอบของกระทรวงไอซีทีโดยตรง และเนื่องจากนายจุติรับตำแหน่งรมว.ไอซีทีมาเป็นเวลากว่า 1 ปี หากมีความรู้ความสามารถเพียงพอ เหตุการณ์ดังกล่าวคงไม่เกิดขึ้น แต่เป็นเพราะตั้งแต่นายจุติเข้ามาเป็นรมว.ไอซีที แทบจะไม่เคยทำเรื่องสร้างสรรค์ หรือทำให้อุตสาหกรรมเดินหน้า มุ่งแต่จะตามล้างตามเช็ดแต่เรื่องเก่าๆ
       
       แนวทางบริหารงานกระทรวงไอซีทีของนายจุติ เริ่มตั้งแต่ดองการยิงดาวเทียมไทยคม 6 ในขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ทั้งกรณ์ จาติกวณิช และศิริโชค โสภา เดินทางไปสิงคโปร์หวังหารือเทมาเส็ก เพื่อซื้อดาวเทียมไทยคมกลับมาเป็นของคนไทย ไล่บี้ต่อเนื่องโดยยึดคำตัดสินคดียึดทรัพย์นช.ทักษิณ ชินวัตร เสียเวลาเป็นปีก็ยังทำอะไรไม่ได้ จนสุดท้ายต้องยอมให้ยิงดาวเทียมไทยคม 6


‘กระทรวงไอซีที มีเวลามากกว่า 1 ปีในการรักษาวงโคจร 120 องศาตะวันออก แต่ลองย้อนเวลาไปดูว่าพวกนี้ทำอะไรเป็นประโยชน์กับประเทศชาติบ้าง’
       
       ไม่เพียงแต่ตำแหน่งวงโคจรที่อาจรักษาไว้ไม่ได้ แต่การบริหารงานในกระทรวงไอซีทีถือว่าล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตั้งกรรมการบอร์ดทีโอที อย่างนายเอกสิทธิ์ วันสม ที่ล้วงลูก โยกย้าย แต่งตั้ง แทรกแซงการบริหารงานภายในทีโอที โดยอ้างว่าเป็นคำสั่งและความต้องการของนายจุติ ชนิดที่นายจุติไม่เคยสอบถามหาข้อเท็จจริง ไม่เคยรีเช็กข้อมูลว่าถูกต้องมากน้อยแค่ไหน เพราะแค่เรียกกรรมการบอร์ดหรือผู้บริหารบางคนมาสอบถามก็จะรู้พฤติกรรมนายเอกสิทธิ์ แต่นายจุติ เลือกที่จะเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ประหนึ่งมีอะไรลับลมคมในระหว่างกัน
       
       นายจุติยังเลือกที่จะท่องคาถามาตรา 157 เพื่อคุ้มกันตัวเอง และใช้เป็นเหตุผลในการไล่บี้บริษัทสัมปทานผลจากคดียึดทรัพย์ ซึ่งท้ายสุด หนึ่งในข้อพิพาทเรื่องภาษีสรรพสามิต ระหว่างเอไอเอสกับทีโอที คณะอนุญาโตตุลาการ ได้ตัดสินให้ทีโอทีแพ้ข้อพิพาท เอไอเอสไม่ต้องจ่ายชำระหนี้เพิ่มเติม โดยเหตุผลหนึ่งคือเอไอเอสและทีโอที ไม่ใช่คู่คดีความ ในขณะที่นายจุติมัวแต่หลงทางมุ่งแต่บังคับให้ทีโอทีฟ้องร้อง โดยนายจุติมักให้เหตุผลว่าหากไม่ทำตัวเองจะต้องโดนมาตรา 157 ในฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หมายถึงเลือกเอาตัวรอด มากกว่าก้าวถอยหลังแล้ววิเคราะห์ปัญหาให้ถ่องแท้ เพื่อหาทางออกให้อุตสาหกรรมภาพรวม ไม่ใช่แค่หาทางออกให้ตัวเองแค่นั้น
       
       แต่หากจะอ้างเรื่องโครงการ 3G TOT เป็นผลงานตัวเอง ยิ่งฟังไม่ขึ้นเพราะโครงการนี้ตั้งแท่นมาตั้งนานแล้ว ประชาธิปัตย์แค่เข้ามาเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ แถมทำไม่เป็น ทะเลาะกันแค่ใครจะเป็นคนเก็บเงิน ทำให้โครงการล่าช้ากว่าจะเซ็นสัญญาได้ก็ใจหายใจคว่ำไปตามๆกัน
       
       ส่วนโครงการบรอดแบนด์แห่งชาติ ก็เป็นแค่การสร้างภาพ ความจริงก็แค่โครงการ USO อินเทอร์เน็ตในพื้นที่ห่างไกลของทีโอที ไม่มีอะไรเป็นรูปธรรมให้จับต้องได้ชัดเจน ส่วนปัญหาเว็บไซต์หมิ่นสถาบัน ก็ดูเหมือนละเลย จำนวนเว็บหมิ่นพุ่งขึ้นอย่างมาก ลำพังแค่โครงการลูกเสือไซเบอร์ ก็มาตามแนวถนัดสร้างภาพสร้างโครงการให้ดูเหมือนดี แต่ในแง่ประสิทธิผลอย่าไปถามถึง
       
       ‘การเมืองดูถูกประชาชนที่เลือกเข้าไปมาก ที่ส่งคนแบบนี้มาเป็นรัฐมนตรี คงต้องได้บันทึกในหน้าประวัติศาสตร์ว่าไทยเสียวงโคจรดาวเทียม 1 ตำแหน่ง ในสมัยนายจุติ ไกรฤกษ์ เป็นรมว.ไอซีที’
       
       Company Related Link :
       ICT


ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)