“ไมค์” ทำใจวงการเพลงซบเซา เบนเข็มเล่นละครเพื่อหาช่องทางโปรโมตตัวเอง เพราะละครสามารถเข้าถึงประชาชนได้มากกว่า ประเดิมเรื่องแรกกับเอ็กแซกท์ ส่วนข่าวควง “อั้ม พัชราภา” ไปปาร์ตี้ เจ้าตัวยอมรับว่าควงกันจริงแต่เป็นแค่สนุกสนานเฉยๆ
นอกจากจะจับไมค์ร้องเพลง “ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพรศาลกุล” ก็ยังเตรียมที่จะลุยงานละคร เพราะถือว่าเป็นการช่วยโปรโมตตัวเองช่องทางหนึ่ง เนื่องจากตอนนี้วงการเพลงซบเซาลงไปทุกวัน ทำงานหลายสิ่งขนาดนี้เพื่อนๆ ก็เลยยกฉายาไอ้หนุ่มบ้างานให้ไปโดยปริยาย
“ตอนนี้ไมค์ถูกด่าว่าเป็นคนบ้างานครับ เพื่อนรอบข้างก็แบบไอ้บ้างานอะไรแบบนี้ครับ แต่คือก็โอเคกว่าฉายาอื่นครับ ไมค์ก็บ้างานจริงนะครับ เพราะไม่ว่าจะไปที่ไหนไมค์ก็พูดอย่างเดียวเท่านั้น คืองานกับเงิน ส่วนเรื่องอื่นไมค์เลิกพูดไปนานแล้วครับ”
“เรื่องงานของตัวเองก็เรื่อยๆ ก็พยายามทำให้ดีที่สุดในส่วนของไมค์เอง แต่ส่วนที่ไมค์ไม่ได้รับผิดชอบ ก็ไม่สามารถไปแตะต้องได้จริงๆ เรื่องของการโปรโมตก็ต้องสู้ด้วยตัวเองครับ เพราะว่าถ้าเราไม่ทำอะไรซักอย่างก็ไม่มีใครทำครับ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องสู้ต่อไปครับ”
“ตอนนี้ก็เริ่มศึกษาเรื่องการตลาด เพราะจะเห็นได้ว่าธุรกิจเพลงกำลังตกลง ค่อนข้างรวดเร็ว เราก็ต้องหาวิธี ซึ่งไมค์ก็เจอช่องทางใหม่คือละคร เพราะละครมันเข้าถึงประชาชนได้มากขึ้น ไมค์ก็คิดว่าการไปเล่นละคร จะทำให้ชีวิตเราดีขึ้นได้ ตอนนี้ก็มีละครของเอ็กแซกท์ เดือนหน้าถึงจะเปิดกล้องครับ ครั้งนี้เป็นการเล่นละครครั้งแรก และเป็นแนวดราม่าด้วยครับ”
“ส่วนชื่อเรื่องไมค์ยังไม่รู้เลยครับ รู้แค่บทคร่าวๆ ยังไม่รู้ตัวนางเอกเลยครับ รู้แค่ว่าเล่นกับสน(สนยุกต์ ส่งไพศาล)ครับ ไม่แน่ใจว่าจะเป็นพระเอกสองคนหรือเปล่า และตอนนี้ก็กลับไปเรียนกับหม่อมน้อย(ม.ล. พันธุ์เทวนพ เทวกุล)แล้วครับ หลังจากที่หายไปเลยหนึ่งปี ตอนนี้ก็มีค่ายละครอื่นๆ ติดต่อมาบ้างครับ แต่ก็เป็นเรื่องของทางต้นสังกัดครับ แต่ปีนี้ได้ดูละครของไมค์แน่ครับ”
ตอนนี้จะได้เล่นละครแล้ว ใครๆ ก็ต้องคิดว่า “วิว วรรณรท สนธิไชย” เพื่อนสาวคนสนิทน่าจะแนะนำเทคนิคการแสดงให้บ้าง
“ก็มีบ้างครับ ก็ปรึกษาทั้งวิวและแม่วิว ส่วนใหญ่ไมค์จะถามว่ายากมั้ย แต่ก็ไม่ต้องการทำตอบหรอกครับ เพราะรู้ว่ายากอยู่แล้ว ก็ได้แต่พยายามเต็มที่ครับในส่วนของไมค์เอง”
ส่วนที่มีข่าวว่า “ไมค์” ควงนางเอกรุ่นพี่ “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” ไปงานวันเกิด ของ “เมย์ เฟื่องอารมณ์” เจ้าตัวยอมรับว่าควงกันจริงๆ แต่เป็นแค่สนุกสนานแค่นั้น
“ไมค์ก็โดนข่าวเยอะจนเริ่มชินแล้วครับ อย่างที่บอกว่า พี่อั้มไม่จำเป็นต้องควงไมค์เพื่อเยาะเย้ยใคร เราควงกันเล่นๆ ในปาร์ตี้ก็แค่สนุกสนานครับ ก็คงเป็นแค่เป็นขำๆมากกว่า ไม่ได้ซีเรียสเลย”
“ตอนนี้ไมค์ยังไม่เปิดใจรับใคร ไมค์คิดว่ายังไงเราก็ยังไม่ได้แต่งงานอยู่แล้ว ถูกมั้ยครับ ถ้าอย่างนั้นเราก็ใช้ชีวิตวัยรุ่นให้พอดีกว่า ใช้ให้คุ้มและใช้ให้เป็น แล้วก็ใช้อย่างฉลาด ไมค์ชอบผู้หญิงที่ทำงานและรับผิดชอบได้ครับ แล้วก็ต้องเป็นคนที่มีความคิดที่โตเป็นผู้ใหญ่ เรื่องอายุไม่เกี่ยวครับ อยู่ที่ความคิด แต่ก่อนไมค์จะดูแต่ภายนอก แต่ตอนนี้จะดูเรื่องความคิดอย่างเดียวครับผม”
“เรื่องหน้าตาไม่ค่อยเท่าไหร่ครับ เพราะทุกคนเป็นมนุษย์เหมือนกันหมด มีจมูก มีตา มีปาก มีขา มีแขนถูกมั้ยครับ แต่สิ่งที่ต่างไปก็คือจิตใจและความคิด นั่นคือสิ่งที่ไมค์ค้นหาอยู่ และก็ยังไม่เจอครับ และไม่เกี่ยงเรื่องอายุครับ คนที่เข้ามาคุยเป็นเพื่อนก็ได้ครับ ไม่จำเป็นว่าจะต้องมีแฟน พอมีแฟนก็ต้องมีพันธะสัมพันธ์ มันก็ทำให้เรามีอุปสรรค์ในการทำงาน ถ้ามีแฟน แฟนต้องเข้าใจเราได้ ”
เมื่อก่อน “ไมค์” ขึ้นชื่อว่าเจ้าชู้ เดี๋ยวก็เป็นข่าวควงกับคนโน้นคนนี้ แต่ดูเหมือนไมค์ในเวลานี้จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง
“ไม่เชิงว่าเปลี่ยนไปหลอกครับ ก็แค่มีข้อมูลมากขึ้น แล้วรู้มากขึ้นเท่านั้นเอง จริงๆ แล้วก็เหมือนเราเรียนรู้จากประสบการณ์ครับ เอาข้อดีไว้ เอาข้อเสียทิ้งไป แต่ก็ต้องจำไว้อย่าทิ้งไปหมด จำไว้ว่าเราเคยเจ็บอย่างนี้ ส่วนแม่ไม่มีความเห็นอะไรกับเรื่องนี้ แม่ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ครับ เขาเห็นว่าเราควบคุมได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เราประชุมงานกัน ไมค์ก็จะเป็นคนที่โรคจิตข้อนข้างสูงครับ ก็จะพูดเยอะเป็นพิเศษ ซึ่งก็พยายามมาตลอดที่จะให้พ่อแม่เห็น และก็ไม่ต้องเป็นห่วง เขาก็ยังมองเราเป็นเด็ก ไมค์ก็ยังต้องพยายามทำให้พวกเขาเห็นต่อไป”
ที่มา: manager.co.th
