เร็วแรง – (จากซ้ายมาขวา) ประพันธ์ บุณยเกียรติ โฆษกบอร์ด บุญมาก ศิริเนาวกุล รักษาการประธานบอร์ด อานนท์ ทับเที่ยง กรรมการผู้จัดการใหญ่ และเอกสิทธิ์ วันสม บิ๊กบอร์ดสายตรงรมว.ไอซีที ที่ทำงานไม่ได้หากไม่พูดว่ารัฐมนตรีสั่งมา ในวันเปิด 3.9G ความเร็ว 42 Mbps ของทีโอที
บอร์ดมีมติเห็นชอบให้ทีโอทีขยายโครงข่ายหลักมูลค่า 294 ล้านบาท รองรับการเชื่อมต่อโครงการ 3G จำนวน 7.2 ล้านเลขหมาย พร้อมปลุกเอทีซี โมบายส์ดันเข้าแผนปรับโครงสร้างองค์กร ก่อนปั้นเข้าตลาดหลักทรัพย์ พร้อมปักธงประกาศสัญญาประชาคมว่าคนไทยจะได้ใช้ 3G แรง เร็ว ทั่วประเทศภายในเดือน พ.ค. 2555
นายประพันธ์ บุณยเกียรติ โฆษกบอร์ดบริษัท ทีโอทีกล่าวหลังการประชุมบอร์ดเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ว่าบอร์ดอนุมัติให้ทีโอทีขยายโครงข่ายหลัก (คอร์-เน็ตเวิร์ก) สำหรับการเชื่อมต่อเลขหมายโทรศัพท์จากเดิมที่รองรับในส่วนของโทรศัพท์พื้นฐานของทีโอทีจำนวน 4 ล้านเลขหมาย มูลค่า 294 ล้านบาท เพื่อรองรับการให้บริการ 3G ของทีโอทีที่จะสร้างโครงข่ายให้สามารถรองรับ (คาปาซิตี้) ได้จำนวน 7.2 ล้านเลขหมายในระยะเวลา 10 ปี
ส่วนเรื่องบริษัทที่สนใจจะมาเป็นผู้ขายต่อบริการ (MVNO) ที่ทีโอทีเชิญชวนให้ยื่นข้อเสนอจำนวนทั้งหมด 21 รายที่มีใบอนุญาต MVNO ของ กทช.นั้น ปรากฏว้ามีผู้ยื่นข้อเสนอ 13 ราย แต่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติเบื้องต้น 7 รายซึ่งจะได้มีการเจรจากันต่อไป ในขณะที่ทีโอทีก็ยังเปิดรับข้อเสนอของคนที่ต้องการเป็น MVNO ต่อไป
ด้านนายอานนท์ ทับเที่ยง กรรมการผู้จัดการใหญ่ ทีโอที กล่าวถึงแผนการทำตลาด 3G ที่ให้บริษัท บอสตัน คอนซัลติ้ง กรุ๊ป (บีซีจี) ดำเนินการว่ารูปแบบการทำตลาดที่บีซีจีเสนอมาเบื้องต้นแบ่งเป็นการทำตลาดผ่าน MVNO ใน 3 รูปแบบ คือ 1. รูปแบบ 40 -40 -10-10 คือ ให้มี MVNO รายใหญ่ 2 รายทำตลาดรายละ 40% MVNO รายย่อย 2 รายทำตลาดรายละ 10% และให้สิทธิ์ทีโอทีทำตลาด 10% 2. รูปแบบ 25-25-25-15-10 คือ ให้มี MVNO รายใหญ่ใช้ความจุโครงข่าย 3 รายเท่ากันรายละ 25% MVNO รายย่อยทำตลาด 15% และทีโอทีทำตลาด 10% และแบบที่ 3. ในกรณีที่ไม่มี MVNO รายย่อย ให้สิทธิ์ทำตลาดทุกรายเท่ากันที่ 10% แต่ทั้งหมดยังไม่ได้ข้อสรุป เพราะต้องให้ฝ่ายบริหารพิจารณาก่อนนำเสนอบอร์ดอนุมัติ ซึ่งคาดว่าอย่างเร็วน่าจะเป็นปลายเดือนมิ.ย.นี้ หรือประมาณกลางเดือนก.ค.ที่จะถึง
นอกจากนี้ ทีโอทียังได้มีการปรับโครงสร้างองค์กรให้มีความกระชับ โดยนำเอทีซี โมบายส์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ทีโอทีถือหุ้น 100% และมีหน้าที่ดูแลโครงข่ายรวมเข้าเป็นหน่วยธุรกิจเดียวกับอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (บรอดแบนด์) และ 3G เพื่อสร้างให้เอทีซี โมบายส์มีรายได้และกำไรก่อนนำเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในอนาคต
‘เราต้องการที่จะปลุกและปั้นเอทีซี โมบายส์ โดยโพสิชันของเอทีซี โมบายส์ ไม่ใช่ MVNO แต่ยังเป็นผู้ดูแลโครงข่าย ซึ่งเรื่องนี้จะนำเข้าบอร์ดปลายเดือนมิ.ย.นี้ นอกจากนี้ ยังมีอีก 2-3 บริษัทที่ทีโอทีถือหุ้นอยู่เสนอไปยังกระทรวงไอซีทีเพื่อให้ครม.อนุมัติ ก่อนจะดำเนินการปรับเปลี่ยนการดำเนินธุรกิจต่อไป’ นายอานนท์กล่าว
** เปิดตัว 3G แรง เร็ว 42 เมกะบิต ** ในวันที่ 10 มิ.ย. ทีโอทีได้เปิดบริการ TOT 3G ด้วยระบบ 3.9G บนเทคโนโลยี HSPA+ ที่ให้ความเร็วถึง 42 เมกะบิตต่อวินาทีในพื้นที่กรุงเทพฯ ส่วนภูมิภาคจะส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูงสุด 21 เมกะบิตต่อวินาที และเป็นการดำเนินการขยายพื้นที่การให้บริการจากเดิมที่ติดตั้งสถานีฐานในกรุงเทพฯและปริมณฑล และ 14 จังหวัดเศรษฐกิจ จำนวน 548 สถานีฐาน และเฟส 2 จะติดตั้งอีก 4,742 สถานีฐานและขยายพื้นที่การให้บริการภายในกลางไตรมาส 4 ปีนี้
ประชาชนจะได้ใช้ 3G เต็มรูปแบบใน 18 จังหวัดคือ กรุงเทพฯ ปริมณฑล 3 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และ 14 จังหวัดหลัก ได้แก่ ชลบุรี ระยอง สงขลา สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พิษณุโลก อุดรธานี นครราชสีมา ขอนแก่น หนองคาย และอุบลราชธานี และภายในเดือนพ.ค. 2555 จะสามารถใช้ได้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ
‘การเปิดตัวครั้งนี้เป็นการปักธงเพื่อเป็นสัญญาประชาคมว่าภายใน 365 วัน ประชาชนจะได้ใช้ 3G ที่แรง เร็ว ชัดขึ้นเรื่อยๆ’
สำหรับการให้บริการมือถือ 3G ของทีโอที ตั้งเป้าไว้ว่าจะมีรายได้โตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉลี่ยปีละ 1 หมื่นล้านบาทในระยะ 7-8 ปี และคาดว่าสิ้นปีนี้จะผู้ใช้บริการอยู่ที่ 1.29 ล้านเลขหมาย จากปัจจุบันมีผู้ใช้ประมาณ 2 แสนเลขหมาย และโครงข่ายที่วางไว้ให้สามารถรองรับลูกค้าได้ 7.2 ล้านเลขหมายภายใน 10 ปี แต่คาดว่าคาปาซิตี้จะเต็มภายใน 3-4 ปี
ที่มา: manager.co.th
