Author Topic: กสท ขายหุ้นยูไอเอช 260 ล้าน  (Read 846 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


นายจิรายุทธ รุ่งศรีทอง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม

      บอร์ด กสท อนุมัติขายหุ้น 25% ในยูไอเอชมูลค่า 260 ล้านบาทหลังธุรกิจให้บริการสื่อสัญญาณความเร็วสูงแข่งเดือดพร้อมหาแนวทางรองรับสัมปทานมือถือหมดสัญญา เล็งขายโครงข่ายคืนเอกชน
       
       นายจิรายุทธ รุ่งศรีทอง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม กล่าวหลังการประชุมบอร์ด เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ว่า บอร์ดมีมติเห็นชอบให้ กสท ขายหุ้นที่ได้เปล่าจำนวน 25% จากบริษัท ยูไนเต็ด อินฟอร์เมชั่น ซูเปอร์ไฮเวย์ (ยูไอเอช) ให้กับกลุ่มเบญจจินดามูลค่า 260 ล้านบาท เพื่อนำเงินเก็บไว้ใช้ในโครงการอื่นต่อไปเพราะการให้บริการประเภทสื่อสัญญาณความเร็วสูงมีการแข่งขันกันสูงและยูไอเอชเองก็มีแผนจะเพิ่มทุนในปีหน้า
       
       ทั้งนี้ เมื่อมีการเพิ่มทุน กสทก็ต้องลงเม็ดเงินด้วย เพราะไม่เช่นนั้นสัดส่วนการถือหุ้นก็จะลดลงและก่อนหน้านี้ยูไอเอชได้มีการเพิ่มไปแล้วและ กสท ก็มีการลงเงินไป 50 ล้านบาท
       
       นอกจากนี้ บอร์ดสั่งการให้ กสท ไปหาวิธีดำเนินการหลังสัมปทานมือถือทั้ง 3 รายคือ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) บริษัท ทรูมูฟ และบริษัท ดิจิตอลโฟน (ดีพีซี)สิ้นสุดลง โดยเฉพาะทรูมูฟกับดีพีซีที่มีอายุสัญญาเหลือประมาณ 2 ปี เพราะตามพ.ร.บ.กสทช.กำหนดให้ผู้ให้สัมปทานต้องเตรียมแผนล่วงหน้า 1 ปีว่าจะดำเนินการไปในแนวทางไหน เพื่อไม่ให้กระทบกับการให้บริการลูกค้าที่มีอยู่
       
       สำหรับแนวทางที่มีความเป็นไปได้สูงคือการขายคืนทรัพย์สินที่เป็นอุปกรณ์โครงข่ายโทรศัพท์มือถือ ที่เอกชนโอนให้รัฐตามสัญญาบีทีโอ แต่ต้องพิจารณาอย่างรอบด้านทั้งด้านกฎหมายข้อดี ข้อเสีย ราคาและหลักเกณฑ์การประเมินราคาทรัพย์สิน ซึ่งต้องปฏิบัติในแนวทางเดียวกันทุกรายเพื่อไม่ให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบ ส่วนเรื่องคลื่นความถี่ต้องคืนกสทช.เพื่อประมูลใหม่
       
       ส่วนกรณีที่มีข้อพิพาทกับคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ได้มีการรายงานให้บอร์ดทราบ และจะต้องมีการสละบางเรื่องที่กสทยื่นฟ้องไปก่อนหน้านี้ เช่น กรณีที่เกี่ยวกับพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ พ.ศ. 2543 ที่เป็นเรื่องอำนาจหน้าที่ของ กทช.เนื่องจากพ.ร.บ. กสทช. ปี 2553 มีผลบังคับใช้แล้ว แต่การสละคดีความไม่ฟ้องต่างจากการถอนฟ้องเนื่องจากคดียังอยู่ในศาล ส่วนกรณีอำนาจจัดสรรคลื่นความถี่ร่วมระหว่าง กทช.กับกสช. ยังไม่สละและศาลปกครองวินิจฉัยว่าคุ้มครองไปแล้ว เพราะกรณีนี้ยังไม่มีการทำแผนความถี่และตารางความถี่แห่งชาติ
       
       นายจิรายุทธกล่าวว่ากรณีพิพาทดังกล่าว กสท จะเข้าไปเจรจากับปฏิบัติหน้าที่กสทช. อีกครั้งในสัปดาห์หน้า หลังมีการหารือไปเมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่าน ซึ่งทาง กสทช.ต้องการให้ถอนฟ้อง ส่วนการขออนุญาตติดตั้งและใช้อุปกรณ์ HSPA หา กกสทช.อนุมัติก่อนกำหนดเปิดให้บริการแค่วันเดียวก็ดำเนินการได้เพราะอุปกรณ์ที่ซัปพลายเออร์พร้อมอยู่แล้ว
       
       ‘การหารือกับ กสทช.ไม่มีเงื่อนไขอะไร และคงไม่ใช่การที่ว่าเราถอนฟ้องแล้วจึงจะอนุญาตให้ติดตั้งและใช้อุปกรณ์’

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)