นักช้อปออนไลน์นาทีนี้มีแต่คนเรียกหา "ดีล" หรือข้อเสนอส่วนลดราคาสินค้าและบริการซึ่งยั่วใจนักช้อปด้วยคำว่า Sale 50-90% เว็บคูปองที่เปิดให้ร้านค้าสามารถทำการตลาดผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กลักษณะนี้มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า Social Commerce เพราะชาวโซเชียลเน็ตเวิร์กทั้งเฟซบุ๊ก (Facebook) ทวิตเตอร์ (Twitter) และค่ายอื่นๆ คือเรียวแรงสำคัญในการบอกต่อ/เผยแพร่จนทำให้มีการซื้อขายดีล และดึงคนออนไลน์เข้าไปใช้บริการร้านค้าอย่างเป็นล่ำเป็นสัน
แปลว่ายิ่งชาวเครือข่ายสังคมเมืองไทยมีอัตราการเติบโตรวดเร็วเท่าใด การตลาดผ่านโซเชียลคอมเมิร์ซก็เป็นเทรนด์ใหม่ที่กำลังมาแรงมากขึ้นเท่านั้น คำนวณแค่เฉพาะผู้ใช้เฟซบุ๊กในไทยที่มีจำนวนมากกว่า 6 ล้านคน และผู้ใช้ทวิตเตอร์มากกว่า 4 ล้านคน บวกลบก็ราว 10 ล้านคนที่จะสามารถเป็นกลุ่มเป้าหมายและกระบอกเสียงในโลกออนไลน์และออฟไลน์ได้
Wonderpons.com ผลงานจากบริษัท วันเดอร์พอนส์ จำกัด คือ 1 ในผู้ชิงชัยบนสังเวียน Social commerce ความน่าสนใจของวันเดอร์พอนส์ไม่ได้อยู่ที่การขายดีลไทยแก่คนไทยอย่างเดียว แต่อยู่ที่จุดยืนการเป็นสะพานระหว่างคนไทยและคนเกาหลี โดยต้องการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยด้วยการดึงดูดสมาชิกชาวเกาหลีมาเที่ยวในเมืองไทยด้วย บนความตั้งใจจะทำให้นักท่องเที่ยวชาวเกาหลีรู้จักกับประเทศไทยมากขึ้น
"เราเป็นเว็บไซต์เดียวที่มีทั้งภาษาไทยและภาษาเกาหลี ดีลจากร้านอาหารที่หลากหลาย การท่องเที่ยวและสปาซึ่งประเทศไทยมีชื่อเสียงไปทั่วโลก บน Wonderpons จะส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย ด้วยการดึงดูดสมาชิกชาวเกาหลีมาเที่ยวในเมืองไทย" คำการันตีจากลีวันซุก (Won Seok, Lee) เอ็มดีหนุ่มไฟแรงชาวเกาหลีใต้ ซึ่งมีดีกรีเป็นนักศึกษาปริญญาโท MBA จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ไทยก็ดี เกาหลีก็ได้ ลีเล่าว่าบริษัท วันเดอร์พอนส์ จำกัดเกิดขึ้นเพราะความชอบในแนวคิดธุรกิจ Social Commerce เพราะเป็นธุรกิจที่ได้ผลประโยชน์สำหรับทุกฝ่าย (win-win-win) โดยลูกค้าจะได้ทดลองใช้สินค้าและบริการคุณภาพดีในราคาพิเศษ ร้านค้าก็จะได้โฆษณาและมีลูกค้าหน้าใหม่โดยไม่ต้องเสียค่าโฆษณาล่วงหน้า และยัง Win สำหรับผู้ให้บริการเช่น Wonderpons ซึ่งจะได้รับส่วนแบ่งตามความ Win ของลูกค้าและร้านค้า
"ชื่อ Wonderpons มาจาก wonder (มหัศจรรย์) + coupons (คูปอง) ผมอยากสร้าง online marketplace (ตลาดซื้อขายออนไลน์) และเป็นผู้เชี่ยวชาญที่จะเชื่อมคนไทยและคนเกาหลีด้วยการจัดหาคูปองที่หลากหลายตามไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร เครื่องสำอาง การแสดง ดนตรี แหล่งท่องเที่ยว หรือกิจกรรมต่างๆ"
ลีบอกว่ากลุ่มเป้าหมายของ Wonderpons ในช่วงเริ่มต้นคือกลุ่มลูกค้าทั้งคนไทยและคนเกาหลี แต่กำลังจะขยายไปสู่กลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย ซึ่งจะเริ่มให้บริการเว็บไซต์ในเวอร์ชันภาษาอังกฤษช่วงเดือนมิถุนายน 54 โดยแนวทางที่ Wonderpons.com วางไว้ในระยะแรกไม่ใช่การเพิ่มจำนวนทรานเซคชันให้เพิ่มขึ้นสุดกู่ แต่เป็นความพยายามเต็มที่ในการสร้างความพึงพอใจสูงสุด
"เราตั้งเป้าว่าจะมีลูกค้ามากกว่า 50,000 คนสิ้นปีนี้ แม้ว่าเราจะมีตัวเลขเป้าหมายในแผน ที่แน่นอน แต่เป้าหมายจริงๆของธุรกิจคือ “ความพึงพอใจของลูกค้า” ผ่านสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ เราเชื่อว่าการเพิ่มขึ้นของจำนวนสมาชิกหรือทรานเซคชันจะตามมาเอง ถ้าเราพยายามอย่างเต็มที่เพื่อตอบสนองความพึงพอใจของลูกค้า ความจริงแล้ว เราไม่ได้คิดว่าเรากำลังจะขายสินค้าบางอย่าง แต่เราคิดว่าเรากำลังจัดหาข้อมูลของร้านค้าเพื่อลูกค้า และเป็นตัวเชื่อมเพื่อสร้างความสัมพันธ์ (connection) ระหว่างลูกค้าและร้านค้า"
ลีบอกว่าหนึ่งในอุปสรรคหรือความท้าทายที่พบในการดำเนินธุรกิจโซเชียลคอมเมิร์ซในประเทศไทยและเกาหลีของ Wonderpons.com คือผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังไม่รู้ว่าอะไรคือ social commerce และข้อดีหรือผลประโยชน์ที่พวกเขาจะได้รับและสนุกกับ Wonderpons.com
"มากกว่านั้น บางคู่แข่งดูเหมือนจะพยายามมุ่งไปที่ปริมาณการขายคูปองของร้านค้าแต่ละร้านเพียงอย่างเดียว ซึ่งจริงๆ แล้ว ปริมาณคูปองที่ขายมากเกินไปจะส่งผลเสียต่อทั้งร้านค้าและลูกค้า เพราะลูกค้าจะแน่นร้านจนเกินไป การให้บริการอาจจะไม่ทั่วถึง หรือไม่มีที่นั่งสำหรับลูกค้าที่ต้องการใช้บริการ การจำกัดจำนวนการขายคูปองควรจะคำนึงถึงเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาทั้งต่อลูกค้าและร้านค้า"
นอกจากกลยุทธ์การตลาดผ่านเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ Wonderpons.com มีแผนสร้างแบรนด์ผ่านเว็บบอร์ดหรือกระทู้ของคนเกาหลีซึ่งเป็นกระทู้สำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลท่องเที่ยวเมืองไทยโดยเฉพาะ จุดนี้ลีเสริมว่า Wonderpons จะเป็นทางออกที่ช่วยประเทศไทยจากวิกฤตินักท่องเที่ยวเกาหลีลดลงตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
ข้อมูลจาก Korean Tourism Organization พบว่านักท่องเที่ยวเกาหลีในประเทศไทยช่วงปี 2010 มีจำนวนราว 8 แสนคน แม้จะเพิ่มจาก 6 แสนคนจากปี 2009 แต่ก็ยังลดลงจากปี 2007 ที่มีจำนวนมากกว่า 1.08 ล้านคน
"Wonderpons จะสนับสนุนและชักชวนให้ชาวเกาหลีเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แนวโน้มของการท่องเที่ยวสำหรับคนเกาหลีรุ่นใหม่ช่วงอายุ 20-30 ปี ได้เปลี่ยนไปจากการซื้อแพกเกจทัวร์จาก agency มาเป็นการเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเอง จำนวนนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และเรา Wonderpons จะโปรโมตร้านค้าที่มีคุณภาพให้กับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้อย่างต่อเนื่อง"
ลีแสดงความมั่นใจว่า Social Commerce จะเป็นเทรนด์แรงไปทั่วโลกนับจากนี้ เพราะเป็นธุรกิจที่ให้ทั้งความสะดวกสบาย การประหยัดเวลา และการได้ซื้อสินค้าในราคาพิเศษ โดยยกตัวอย่างในประเทศเกาหลี ว่ายอดขายจากธุรกิจซื้อสินค้าออนไลน์นั้นมีมูลค่าสูงกว่ายอดขายจากห้างสรรพสินค้าทั้งหมดในเกาหลีรวมกัน เพราะผู้ใช้สามารถซื้อสินค้าได้เพียงแค่คลิกสองสามครั้งเท่านั้น
"ดังนั้น ผมเชื่อว่า
www.wonderpons.com เป็นอะไรที่ต้องรู้ มากกว่าดีที่จะรู้"
หลงเสน่ห์เมืองไทย ลีเล่าว่าได้ศึกษาระบบปริญญาตรีสาขา Information and Communication engineering (วิศวกรรมสารสนเทศและการสื่อสาร) จากประเทศเกาหลี แต่มาเริ่มงานในด้านการตลาดและการค้าขายระหว่างประเทศ เพราะต้องการเดินทางไปตามที่ต่างๆทั่วโลก การเลือกทำธุรกิจในประเทศไทยเกิดขึ้นเพราะเหตุผลที่ว่า "ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่คนเกาหลีคิดถึงว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุด"
"ผมเดินทางไปมากกว่า 20 ประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการเดินทางทางธุรกิจ (Business trip) ยกเว้น 1 ปีที่อยู่ในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา และประเทศไทยเป็น 1 ประเทศที่ผมอยากจะอยู่เพราะว่าคนไทยน่ารักและเป็นกันเอง ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่คนเกาหลีคิดถึงว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุด พี่สาวของผมเคยมาฮันนีมูนที่ภูเก็ต และพ่อแม่เคยมาเที่ยวที่เชียงใหม่กับเพื่อน ผมจึงอยากโปรโมตรีสอร์ทตามเมืองใหญ่ เพื่อให้ชาวเกาหลีได้เข้ามาพักผ่อนและมาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น"
ลีระบุว่าเริ่มเดินทางเข้ามาในประเทศไทยช่วงปี 2007 โดยบริษัทเกาหลีที่ลีทำงานอยู่ ณ ตอนนั้นเป็นบริษัทซัพพลายเออร์ของเครื่องรับสัญญาณดาวเทียมของ truevisions
"ขณะที่อยู่ในประเทศไทย ผมอยากรู้จักสังคมไทยให้ดีขึ้น และหาเพื่อนชาวไทยให้มากขึ้น และนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมเลือกเรียน MBA ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย"
*******
ผู้สนใจซื้อดีลกับ Wonderpons ซึ่งการันตีตัวเองว่าเป็นบริการคูปองที่จะนำความมหัศจรรย์มาสู่ชีวิตในไลฟ์สไตล์ทุกรูปแบบ สามารถเป็นสมาชิก
www.wonderpons.com ฟรีเพื่อรับข่าวสารส่วนลดและสิทธิพิเศษผ่านทางหลากหลายช่องทาง ทั้ง Email, Facebook (
www.facebook.com/wonderpons) หรือ follow twitter/wonderpons และสามารถเลือกซื้อดีลบนเว็บไซต์โดยสามารถชำระเงินผ่านทางหลากหลายช่องทาง เช่น บัตรเครดิต Paypal หรือโอนเงินผ่านธนาคาร
ขณะนี้ Wonderpons เป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการการแสดงเทควันโดประกอบบทเพลง ที่จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน 2554 ซึ่งเป็นการแสดงเทควันโดแนวใหม่ที่สนุกสนานและเร้าใจมากขึ้นจาก K-Tigers องค์กรที่รวบรวมนักเทควันโดระดับมืออาชีพ และนักเทควันโดที่มาแสดงในครั้งนี้ยังเคยเป็นนักแสดงในหนังเรื่ององค์บาก และบางคนได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์ The Kick ที่จะเข้าฉายในเดือนสิงหาคมนี้
ลีวันซุก (Won Seok, Lee) ผู้บริหารจาก วันเดอร์พอนส์
ที่มา: manager.co.th