ซ้าย - เลนนาร์ด ฮูร์นิค ประธานประจำภาคพื้นเอเชียใต้ เอชทีซี และณัฐวัฒน์ วรนพกุล ผู้จัดการประจำประเทศไทย เอชทีซี (ไทยแลนด์) จำกัด
ตลาดสมาร์ทโฟนเอเชียดุ เอชทีซีเห็นศักยภาพตั้ง 'เลนนาร์ด' คุมโซนเอเชียใต้ เชื่อปีนี้ตลาดสมาร์ทโฟนในภูมิภาคเอเชียเติบโตแซงหน้าสหรัฐฯ วางเป้าขึ้นเป็นผู้นำตลาดสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ในเอเชีย
นายเลนนาร์ด ฮูร์นิค ประธานประจำภาคพื้นเอเชียใต้ เอชทีซี กล่าวว่า ไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศที่จะมีการเติบโตของสมาร์ทโฟนแบบก้าวกระโดด แม้ว่าจะเพิ่งเริ่มมีการทำตลาด 3G แต่การเติบโตในปีที่ผ่านมาของสมาร์ทโฟนก็สูงถึง 15% และเชื่อว่าจะสูงถึง 30% ในปีนี้
พฤติกรรมของผู้บริโภคในเอเชียจะเป็นคนรุ่นใหม่ และมีการนำสมาร์ทโฟนเข้าไปใช้งานร่วมกับชีวิตประจำวัน ดังนั้นการที่เอชทีซีจะประสบความสำเร็จในตลาดสมาร์ทโฟนได้ จึงจำเป็นต้องมีผลิตภัณฑ์ที่ตอบรับการใช้งานทุกๆไลฟ์สไตล์ และเข้าใจถึงผู้บริโภคในทุกกลุ่ม
"ตลาดเอเชียเป็นตลาดที่กำลังเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากมีจำนวนประชากรมาก และอยู่ในจังหวะที่กำลังเข้าถึงเทคโนโลยี จึงทำให้เชื่อว่ามูลค่าการเติบโตของตลาดเอเชียในปีนี้จะมีมูลค่าสูงกว่าในสหรัฐฯ ทำให้เอชทีซีจำเป็นต้องมีการแต่งตั้งผู้บริหารเพื่อดูแลโดยเฉพาะ"
เลนนาร์ดมองว่า ก่อนหน้านี้การทำตลาดของสมาร์ทโฟนในเอเชียใต้หลายๆประเทศ จะใช้รูปแบบการขายเครื่อง ต่างกับในสหรัฐฯ หรือกลุ่มประเทศแถบยุโรป ที่โอเปอเรเตอร์จะเป็นผู้จำหน่ายร่วมไปกับแพกเกจบริการเครือข่ายโทรศัพท์และการใช้งานอินเทอร์เน็ต
"คนที่ใช้สมาร์ทโฟนต้องการใช้อินเทอร์เน็ตควบคู่ไปด้วย ดังนั้นทิศทางที่จะเห็นเอชทีซีก้าวไปคือการร่วมมือกับโอเปอเรเตอร์ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการที่เหมาะสมครอบคลุมทุกรูปแบบการใช้งาน"
โดยเอชทีซีประเทศไทยได้มีการจับมือกับโอเปอเรเตอร์ 2 รายหลัก อย่างเอไอเอส และดีแทค ในการวางจำหน่ายและเปิดจองสมาร์ทโฟน-แท็บเล็ตรุ่นใหม่ ซึ่งแต่ละค่ายก็มีการออกแพกเกจราคาพิเศษมารองรับ เพื่อให้กลายเป็นรูปแบบการทำตลาดต่อไปในอนาคต
จุดหนึ่งที่เอชทีซีภูมิใจในปีที่ผ่านมาคือผลสำรวจที่พบว่าภาพลักษณ์ของแบรนด์มีการเติบโตขึ้นไม่ต่ำกว่า 50% และผู้บริโภครับรู้ถึงคุณภาพ และประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ ซึ่งมีอัตราเติบโตถึง 4 เท่าเมื่อเทียบกับ 4 ปีที่แล้ว
"สมาร์ทโฟนกลายเป็นสินค้าที่เป็นคอนซูเมอร์มากขึ้น กลุ่มลูกค้าหลักจึงไม่ได้เป็นนักธุรกิจ หรือผู้ชายแล้ว ทำให้ต้องมีการเจาะกลุ่มผู้หญิงและวัยรุ่นให้มากขึ้น แต่ก็ต้องเน้นการสร้างประสบการณ์ใช้งานเพื่อให้แบรนด์ดูมีคุณค่า"
นอกจากนี้ยังให้ความเห็นว่า ปัจจัยหลักที่จะมากระตุ้นให้เกิดการใช้งานสมาร์ทโฟนมากขึ้นคือบริการโมบายล์อินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นการเปิดให้บริการ 3G หรือ LTE ในอนาคตก็ตาม
ทั้งนี้ พื้นที่รับผิดชอบของประธาน ประจำภาคพื้นเอเชียใต้ คือทุกประเทศในภูมิภาคเอเชีย ยกเว้น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี และไต้หวัน ซึ่งเป็นหน้าที่ของประธาน ประจำภาคพื้นเอเชียใต้หนือ
"สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรกคือการฟอร์มทีมขึ้นมา เพื่อให้สามารถบริหารงานได้ครอบคลุมทุกตลาด ซึ่งในจุดนี้จะทำงานร่วมกับผู้บริหารในแต่ละประเทศอย่างใกล้ชิด"
สำหรับปีที่ผ่านมาเอชทีซีมียอดจัดส่งสมาร์ทโฟนทั่วโลก 25 ล้านเครื่อง มีรายได้รวม 9 พันล้านเหรียญฯ ซึ่งเติบโตจากปีที่ผ่านมา 93% ในขณะที่ไตรมาส 1 ที่ผ่านมา มียอดขายประมาณ 9.7 ล้านเครื่อง สูงขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา 192%
ก่อนหน้าเข้ารับตำแหน่งประธานประจำภาคพื้นเอเชียใต้เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมากับทางเอชทีซี เลนนาร์ด มีประสบการณ์อยู่ในอุตสาหกรรมไอทีและตลาดโทรศัพท์มือถือในยุโรปรวมกว่า 16 ปี โดยให้เหตุผลที่ย้ายมาว่าตลาดเอเชียจะเป็นตลาดสำคัญและท้าทายในอนาคต
"ในอนาคตอาจจะเห็นแบรนด์ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนเหลืออยู่ในตลาดไม่กี่แบรนด์ เนื่องจากผู้บริโภคจะเลือกสรรและเหลือไว้เพียงแบรนด์ที่มีประสิทธิภาพคุ้มค่ากับราคาจำหน่าย" เลนนาร์ดกล่าวทิ้งท้ายถึงการแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟน
Company related Link :
HTC
ที่มา: manager.co.th
