Author Topic: สบท.เตือนเด็ก-วัยรุ่น ใช้มือถือให้น้อยและห่างตัว  (Read 963 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือหรือโทรศัพท์ไร้สายเป็นเวลานานมีความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งสมองเพิ่มขึ้นกว่าคนปกติ

สบท.เตือนวัยรุ่น ใช้มือถือให้น้อยและห่างตัว โดยเฉพาะเด็กเล็กควรงดใช้ เพื่อป้องกันภัยจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หลังองค์การอนามัยโลกระบุการใช้มือถือนานมีความเสี่ยงโรคมะเร็ง
       
       นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (สบท.) เปิดเผยว่า จากกรณีองค์การอนามัยโลกได้ออกมาให้ข้อมูลว่า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งสมอง โดยจัดเป็นระดับ”มีความเป็นไปได้ที่จะก่อโรคมะเร็ง”นั้น สบท.มองว่าคำเตือนนี้มีน้ำหนักเพราะนี่คือครั้งแรกที่องค์การอนามัยโลกออกมาเตือนชาวโลก โดยสบท.เองก็เคยทบทวนผลงานวิจัยทางการแพทย์ระดับนานาชาติระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา และได้ข้อสรุปเช่นเดียวกับองค์การอนามัยโลกว่า ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือหรือโทรศัพท์ไร้สายเป็นเวลานานมีความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งสมองเพิ่มขึ้นกว่าคนปกติ
       
       "5 ใน 6 การศึกษาที่ติดตามประวัติการใช้โทรศัพท์นานกว่า 10 ปีมีข้อสรุปเช่นเดียวกับองค์การอนามัยโลก งานวิจัยชิ้นหนึ่งของยุโรป ซึ่งได้รับทุนการศึกษาจากบริษัทมือถือเองยังได้ระบุข้อยกเว้นของผลการศึกษาไว้ว่า กลุ่มคนใช้งานที่มีระยะเวลาใช้งานสะสมมากกว่า 1,640 ชั่วโมงจะมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งเพิ่มขึ้น ยิ่งถ้างานสะสม 1,640 ชั่วโมงภายในระยะเวลา 5 ปี หรือเฉลี่ยใช้งานวันละ 1 ชั่วโมงจะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นถึง 4.8 เท่า จึงบ่งชี้ว่า ใครที่ยิ่งใช้มาก ก็จะยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้น"
       
       คำแนะนำของสบท.เกิดขึ้นหลังจากการประกาศผลการศึกษาขององค์การอนามัยโลก (WHO) เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยระบุว่าการประชุมคณะทำงานซึ่งประกอบด้วยนักวิทยาศาสตร์จาก 14 ประเทศ ที่ประเทศฝรั่งเศส ได้ผลสรุปว่าการใช้โทรศัพท์มือถือและโทรศัพท์ไร้สายกับการเกิดมะเร็งสมองประเภท glioma และ acoustic neuroma นั้นมีความเกี่ยวพันกัน แต่มะเร็งประเภทอื่นๆ ยังไม่สามารถสรุปได้ เนื่องจากข้อมูลยังไม่เพียงพอ โดยหวังว่าผลการศึกษานี้ทำให้ผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือและโทรศัพท์ไร้สายทั่วโลกที่มีจำนวนประมาณ 5 พันล้านคน รับรู้และป้องกันตัวเองให้ห่างจากความเสี่ยง
       
       จุดนี้ ผอ.สบท.ระบุว่าได้เคยทบทวนผลงานวิจัยทางการแพทย์ระดับนานาชาติระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา พบว่ากลุ่มเสี่ยงคือคนที่ใช้งานสะสมนานกว่า 2,000 ชั่วโมงตลอดชีวิต
       
       "หรือกลุ่มคนที่ใช้งานนานเป็น 10 ปี เป็นเฮฟวี่ ยูสเซอร์ ถ้าเป็นพฤติกรรมของสังคมปัจจุบันกลุ่มที่จะใช้มากคือ กลุ่มวัยรุ่น ซึ่งใช้งานวันละหลายชั่วโมง จึงน่าเป็นห่วง เพราะเด็กนั้นมีกะโหลกศีรษะบางกว่าผู้ใหญ่มีโอกาสที่คลื่นแม่เหล็กจะส่งผลกระทบได้มากกว่า ดังนั้นเด็กและเยาวชนซึ่งพัฒนาการทางร่างกายยังไม่สมบูรณ์จึงไม่ควรใช้ โดยเฉพาะเด็กเล็กในบางประเทศ เช่น ประเทศฝรั่งเศส ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อป้องกันอันตรายจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าต่อสมอง ส่วนผู้ใหญ่ควรใช้เท่าที่จำเป็น สำหรับการใช้อุปกรณ์เสริมเช่น หูฟ้งแบบมีสายสามารถลดความแรงของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าได้เล็กน้อย"
       
       อย่างไรก็ตาม สบท.ยังเตือนว่าการหลีกเลี่ยงคลื่นโทรศัพท์โดยใช้อุปกรณ์เสริมประเภทบลูทูธก็มีข้อควรระวัง เพราะผู้ใช้อาจได้รับทั้งคลื่นโทรศัพท์และคลื่นจากวิทยุหูฟัง จึงควรใช้เท่าที่จำเป็นและไม่ควรแนบหูตลอดเวลา
       
       "สำหรับผู้ใช้โทรศัพท์มือถือที่กังวลในเรื่องนี้ก็แนะนำว่า นอกจากโทรให้น้อยลงแล้ว เวลาใช้ควรให้โทรศัพท์ห่างจากศีรษะเพราะความแรงคลื่นจะลดลงอย่างมากถ้าระยะทางเพิ่มขึ้น ดังนั้นโทรศัพท์มือถือยี่ห้อดังๆ ไม่ว่าจะแบล็กเบอรี่ โมโตโรลา หรือไอโฟน จะแนะนำให้โทรศัพท์ห่างจากศีรษะหนึ่งนิ้ว หรืออาจเลี่ยงไปใช้วิธีเปิดลำโพง หรือ speaker phone แทน คือใช้ให้น้อยและใช้ให้ห่างก็จะปลอดภัยขึ้น” นายประวิทย์กล่าว
       
       ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ใช้โทรศัพท์มือถือราว 35 ล้านราย (ข้อมูลปี 2553) ท่ามกลางการเปิดใช้บริการเลขหมายราว 70 ล้านเบอร์

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)