Author Topic: แบล็กเบอร์รี่ (AIS) ปะทะ "ไอโฟน-ทรูมูฟ" ชิงดำของเล่นไฮเทคสุดฮิตคนรุ่นใหม่  (Read 1378 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline IT

  • Moderator
  • Gold Member
  • *
  • Posts: 1175
  • Karma: +6/-0
  • Gender: Male
  • Assist. I.T. Manager
    • mv

ตลาดมือถือสมาร์ทโฟนเดือด เอไอเอสเข็น"แบล็กเบอร์รี่"ปะทะ"ไอโฟน"ของค่ายทรูมูฟ เผยราคาไอโฟนสะดุดลงหลังออกรุ่นใหม่ "3G S"ราคา 99 เหรียญในตลาดสหรัฐฯ ขณะที่แบล็กเบอร์รี่มาแรงหลัง"ดารา-ไฮโซ-เซเล็บฯ" แห่ใช้กันมาก

ก่อน "ทรูมูฟ" จะนำ "ไอโฟน 3G" เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อต้นปี (16 ม.ค.2552) กระแสความฮอตของไอโฟนมีมาก่อนหน้านั้นนานพอสมควรแล้ว แต่จำกัดวงอยู่ในกลุ่มเล็ก เพราะถ้าไม่หิ้วเครื่องมาเองจากต่างประเทศก็ต้องซื้อเครื่องหิ้วจากร้านค้าแถบห้างสรรพสินค้า "มาบุญครอง" เป็นหลัก

 

ในปัจจุบันชุมชนคนใช้ "ไอโฟน" ในบ้านเราน่าจะเติบโตขยับขยายออกไปอีกมาก จากการกระตุ้นตลาดด้วยสารพัดแคมเปญของ "ทรูมูฟ" จนมาสะดุดหยุดลงไปบ้าง เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังการเปิดตัว "3G S" รุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมราคาสุดเร้าใจ ไม่ว่าจะเป็น 3G รุ่น 8GB เดิม หรือรุ่นใหม่ "3G S" รุ่น 16 และ 32 GB

 

ร้อนถึง "ปพนธ์ รัตนชัยกานนท์" รองหัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มด้านการพาณิชย์ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ต้องออกโรงมาชี้แจงว่า ราคาดังกล่าวในอเมริกาเป็นความร่วมมือระหว่างแอปเปิลกับ AT&T  โดยการตั้งราคา "ไอโฟน" 8GB ที่ 99 เหรียญสหรัฐ เป็นกลยุทธ์การทำราคาของผู้ให้บริการมือถือในแต่ละประเทศ และอาจสร้างความสับสนแก่ลูกค้าในไทยว่า ไอโฟนลดราคาเครื่อง แต่เมื่อดูรายละเอียดจะพบว่า มีค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกรวมถึงต้องทำสัญญาใช้งานนาน 24 เดือน

รวมตลอดสัญญาจะมีค่าใช้จ่ายทั้งหมด 66,760 บาท เทียบกับ "เบสิก แพ็กเกจ" ของ "ทรูมูฟ" กับเครื่อง 8 GB เหมือนกัน ลูกค้าจ่ายถูกกว่ามาก (เดือนละ 1,568.79 บาท หรือ 40,287 บาท ตลอด 2 ปี)

"ผมอยากให้ลูกค้าที่ซื้อเครื่องไปแล้วสบายใจว่า ได้สิ่งที่คุ้มค่าที่สุดแล้ว เราไม่มีนโยบายลดราคา หรือออกแพ็กเกจแบบ AT&T เพราะคนไทยไม่ตอบรับ จะเห็นว่าแพ็กเกจซิลเวอร์ และโกลด์ของเราก็ไม่ได้รับการตอบรับมากนัก"

"ปพนธ์" ยอมรับว่า ยอดขายไอโฟนของทรูมูฟลดลง 20% ในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา จากข่าวดังกล่าวต้องออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงที่ถูกต้องเพื่อไม่ให้ลูกค้าสับสน

สำหรับไอโฟน 3G S รุ่นใหม่จะนำเข้ามาทำตลาดในเดือน ส.ค. ทั้ง 16GB และ 32 GB โดยแอปเปิลอยู่ระหว่างเตรียมจัดส่งสินค้า และเคาะราคาว่าควรเป็นเท่าใด

"ถึงมีรุ่นใหม่เข้ามา แต่ 8GB เดิมก็ยังมีขายต่อไป แต่ 16GB รุ่นเก่าจะเลิกจำหน่ายเพื่อขาย iPhone 3G S แทน ซึ่งขณะนี้สินค้ากำลังจะหมดสต๊อกในเดือนนี้แล้ว ส่วนที่ว่าจะมีการลดราคารุ่นเก่าหรือมีโปรโมชั่นเครื่องเก่ามาเทิร์นหรือไม่ กำลังพิจารณาอยู่ แต่ต้องดูด้วยว่า รุ่นใหม่ที่ออกมาจะมีราคาเท่าใด"

กระแสความนิยมในกลุ่มสินค้าสมาร์ทโฟนในปัจจุบันไม่ได้หยุดอยู่แค่ "ไอโฟน"

"แบล็กเบอร์รี่" ก็มาแรงมาก และแรงขึ้นเรื่อยๆ ด้วย ขยับจากกลุ่มองค์กรเป็นหลักมายังคนรุ่นใหม่ เพราะได้เหล่า "ดารา-ไฮโซ-เซเล็บฯ" ทั้งหลายที่หันมาใช้กันมากจนกลายเป็นแฟชั่น มี "แอปพลิเคชั่น" รองรับโปรแกรมแชต และบริการบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ (social networking) ซึ่งถูกอกถูกใจวัยรุ่นเป็นแรงหนุนส่งอีกทาง

อย่างไรก็ตาม "ปพนธ์" บิ๊กบอสกลุ่มทรูมองว่า กลุ่มคนใช้แบล็กเบอร์รี่ และไอโฟนเป็นคนละกลุ่ม อาจมีกลุ่มที่ซื้อใช้เพื่อความเท่บ้าง แต่คิดว่าไม่มากนัก ตนเชื่อว่าไอโฟนยังมีฐานลูกค้าของตนเองที่เหนียวแน่นอีกมากในประเทศไทย

///เครื่องหิ้วเกลื่อน "มาบุญครอง"
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" ได้สำรวจร้านค้าในโซนขายโทรศัพท์มือถือบริเวณห้างสรรพสินค้ามาบุญครองพบว่า มีร้านค้าจำนวนมากนำเครื่อง "แบล็กเบอร์รี่" จาก
อเมริกาเข้ามาวางเป็นจำนวนมาก เช่นเดียวกับที่มีการขาย "ไอโฟน 3G" โดยมีทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ BlackBerry Curve, BlackBerry Storm และ BlackBerry Bold

ผู้ค้าจากร้านอารียาโมบายกล่าวว่า ยอดขายโทรศัพท์แบล็กเบอร์รี่เพิ่มขึ้นสูงมากในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากการเป็นโทรศัพท์คู่มือของประธานาธิบดีบารัก โอบามา ต่อมาไฮโซ และเซเล็บฯในอเมริกาก็เริ่มใช้ตามมา จนกระแสความนิยมแพร่มาถึงเมืองไทย ซึ่งผู้ซื้อในไทยนิยมซื้อเพื่อแชตกับเพื่อนในกลุ่ม เนื่องจากแบล็กเบอร์รี่มีความสามารถด้าน push mail และแชตผ่าน instant message เช่นเดียวกับการใช้ MSN บนคอมพิวเตอร์

"ส่วนใหญ่ที่ซื้อไปใช้จะมีเพื่อนที่ใช้แบล็กเบอรี่อยู่แล้วเพื่อจะได้แชตผ่านมือถือกันตลอดเวลา แม้เป็นเครื่องหิ้วก็นำไปใช้กับเครื่องที่โอเปอเรเตอร์อย่างเอไอเอสขายได้ และมีบ้างที่ลูกค้านำไอโฟนมาขายเพื่อซื้อแบล็กเบอร์รี่ไปแชตกับกลุ่มเพื่อน"

ราคาของเครื่องแบล็กเบอร์รี่ยังราคาต่ำกว่าไอโฟน เช่น แบล็กเบอร์รี่ รุ่น Curve ราคา 15,500 บาท รุ่น Bold ราคา 21,500 บาท และรุ่นล่าสุด Storm หน้าจอทัชสกรีนรุ่นแรกที่ค่ายมือถือ "เอไอเอส" เพิ่งเปิดพร้อมแพ็กเกจการใช้งานไปก็มีวางขาย ราคา 16,900 บาท เท่านั้น

จากการสอบถามร้านค้าต่างๆ ที่วางขายแบล็กเบอร์รี่พบว่า รุ่นที่ขายดีที่สุดคือ BlackBerry Curve ส่วน BlackBerry Storm ยังมีไม่มากนัก ขณะที่ "ไอโฟน" ก็ยังขายได้เรื่อยๆ โดยร้านค้าต่างให้ความเห็นว่า กลุ่มไอโฟนกับแบล็กเบอร์รี่เป็นลูกค้าคนละกลุ่ม โดยกลุ่มที่ซื้อไอโฟนจะชอบใช้งานแอปพลิเคชั่นมัลติมีเดียที่เน้นด้านความบันเทิง

สำหรับราคา "ไอโฟน" ที่ขายอยู่ในขณะนี้ รุ่น 8GB มีราคา 22,900 บาท 16 GB ราคา 25,900 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ลดลงแล้วประมาณ 2,000 บาท จากช่วงที่ทรูมูฟ
เปิดตัวทำตลาดใหม่ๆ

กรณีในสหรัฐอเมริกา ที่ AT&T ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ออกมาใช้กลยุทธ์หั่นราคาไอโฟน 3G รุ่น 8GB เหลือแค่ 99 เหรียญสหรัฐ หรือ 3,300-3,500 บาทนั้น "ผู้ค้า" ในมาบุญครองมองว่า ไม่น่าส่งผลกระทบต่อตลาดในบ้านเรา เนื่องจากคงไม่มีโอกาสเห็นเครื่องหิ้วราคาถูกขนาดนั้นเข้ามา เพราะเป็นรุ่นที่มีการล็อก "ซิม" จากข้อตกลงกับ AT&T ที่ต้องผูกสัญญานาน 2 ปี

//AIS ปั้น "แบล็กเบอร์รี่" บี้ "ไอโฟน-ทรูมูฟ"
"ทรูมูฟ" มีไอโฟน แต่ข้าง "เอไอเอส" หันมาเอาจริงเอาจังกับแบล็กเบอร์รี่ ล่าสุดร่วมกับ Research In Motion (RIM) เปิดตัว BlackBerry Storm เครื่องหน้าจอทัชสกรีน รุ่นแรก ราคา 29,900 บาท พร้อมแพ็กเกจ "แบล็กเบอร์รี่เซอร์วิส" ทั้งการใช้งานแบบรายเดือน แบบเติมเงิน และแพ็กเกจพิเศษสำหรับชาวต่างชาติที่นำเครื่องมาใช้ในไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มยอดขายไปยังกลุ่มคอนซูเมอร์มากขึ้น

"สมชัย เลิศสุทธิวงศ์" รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) กล่าวว่า จากความนิยมอย่างมากจึงได้ออกแพ็กเกจบริการ สำหรับลูกค้าทั่วไปด้วย มี 3 รูปแบบได้แก่  1.AIS BlackBerry Daily Unlimited สำหรับบริการแบบเติมเงิน คิดอัตราค่าบริการวันละ 40 บาท  2.AIS BlackBerry Unlimited สำหรับบริการรายเดือน 850 บาท/เดือน และ 3.AIS BlackBerry  Traveller สำหรับชาวต่างชาติที่เดินทางมาเมืองไทย ซึ่งจะมีให้เลือก 2 แบบ คือ 3 วัน 500 บาท และ 7 วัน 900 บาท  โดยค่าบริการดังกล่าวรวมการใช้ GPRS แต่ไม่รวมถึงบริการด้านเสียง

"ปรัธนา ลีลพนัง" ผู้อำนวยการสำนักการตลาดบริการสื่อสารไร้สาย บริษัทเดียวกันกล่าวเสริมว่า แนวโน้มการใช้แบล็กเบอร์รี่ในอเมริกาเริ่มเปลี่ยนไป จากเดิมเป็นกลุ่มผู้บริหาร เน้นใช้ Push Mail มาเป็นกลุ่มคนทำงานบริษัท ซึ่งนิยมใช้งานด้านแชต และเล่นเว็บ Social Networking เป็นหลักทำให้ตลาดแบล็กเบอร์รี่ขยายฐานลูกค้าได้เพิ่มขึ้นมากเช่นเดียวกับในเมืองไทย

"เอไอเอสมองเห็นแนวโน้มนี้จึงออกแพ็กเกจให้ลูกค้าพรีเพด ซึ่งมีสัดส่วนมากที่สุดในตลาด เพื่อขยายฐานไปยัง First Jobber และคนรุ่นใหม่ซึ่งยังผูกพันกับการใช้บริการเติมเงิน ตั้งแต่เราเริ่มทำตลาดแบล็กเบอร์รี่ ช่วงแรกๆ การใช้จะอยู่ในกลุ่มบริษัทข้ามชาติ ผู้บริหารของบริษัทเหล่านี้คุ้นเคยกับการใช้แบล็กเบอร์รี่อยู่แล้ว จากนั้นก็เริ่มมีการใช้งานในกลุ่มธนาคาร เพราะมีระบบซีเคียวริตี้สูง จากนั้นก็เริ่มกระจายไปยังบริษัทเล็กๆ ที่ผู้บริหารอาจจบเมืองนอก ชอบใช้แบล็กเบอร์รี่อยู่แล้ว เริ่มลงไปยังกลุ่มคอนซูเมอร์ในช่วง 2-3 ปีมานี้ และไปเร็วมาก"

โดยเฉพาะ BlackBerry Bold ได้รับความนิยมมากในกลุ่มเซเล็บฯ ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นมากอย่างรวดเร็ว ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 18,000 เครื่อง จากตลาดรวม 20,000 เครื่อง และคาดว่าการออกแพ็กเกจแบบเติมเงินจะกระตุ้นให้ยอดขายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะปีนี้น่าจะถึง 10,000 เครื่องเลยทีเดียว

ปัจจุบันเอไอเอสทำตลาดทั้งหมด 5 รุ่น ได้แก่ BlackBerry Pearl Flip ราคา 16,500 บาท BlackBerry Red Curve ราคา 17,500 บาท (รุ่นเก่า) BlackBerry Curve
รุ่นใหม่ ราคา 25,500 บาท BlackBerry Bold ราคา 25,500 บาท และ BlackBerry Storm ราคา 29,900 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ห่างจากราคาขายในมาบุญครองมาก

"ปรัธนา" มองว่า เครื่องหิ้วที่มาขายตามมาบุญครองส่วนใหญ่เป็นเครื่องมือสอง ซึ่งผู้ซื้อต้องผูกสัญญากับโอเปอเรเตอร์ในอเมริกา เมื่อนำเข้ามาจำหน่ายในไทยจึงมีสภาพความเก่า-ใหม่ไม่เหมือนกัน ขณะที่ของเอไอเอสกับราคาที่ตั้งไว้ รวมการตั้งค่าเครื่อง และการันตีสินค้า

ที่มา: matichon.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics

  Subject / Started by Replies Last post
0 Replies
7450 Views
Last post February 14, 2009, 12:00:18 AM
by Webmaster
0 Replies
6167 Views
Last post March 03, 2009, 06:05:12 PM
by Reporter
0 Replies
2758 Views
Last post March 06, 2009, 11:17:31 PM
by Reporter
0 Replies
2672 Views
Last post March 10, 2009, 08:43:28 AM
by Reporter
0 Replies
2373 Views
Last post April 27, 2009, 01:13:51 PM
by Reporter
0 Replies
2394 Views
Last post April 29, 2009, 11:26:27 AM
by Reporter
0 Replies
5081 Views
Last post May 03, 2009, 05:52:53 PM
by IT
0 Replies
1900 Views
Last post May 15, 2009, 06:32:32 PM
by Reporter
0 Replies
2735 Views
Last post June 03, 2009, 01:07:14 PM
by IT
0 Replies
2076 Views
Last post June 05, 2009, 04:38:25 PM
by Reporter