คมชัดลึก : แอ๊ปเปิ้ล อิงค์ประกาศหั่นราคามือถือไอโฟนรุ่น 8GB ลงครึ่งราคา เหลือราว 3,500 บาท ทรูเผยยังไม่ได้รับแจ้งให้ลดราคาขายในเมืองไทย เผยบริษัทมีสิทธิขึ้น-ลงราคาได้เสรี เอไอเอสชี้เป็นรูปแบบการอุดหนุน คาดมีเงื่อนไขอย่างอื่นพ่วง
การแข่งขันในตลาดโทรศัพท์มือถือที่ดุเดือดมากขึ้น ส่งผลให้บริษัท แอ๊ปเปิ้ล อิงค์ ประกาศลดราคาโทรศัพท์มือถือไอโฟน รุ่น 8 กิกะไบต์ ลงครึ่งหนึ่งเหลือเพียง 99 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3,500 บาท เพื่อขยายฐานตลาด โดยมอร์แกน สแตนเลย์ คาดการณ์ว่า การลดราคาไอโฟนในครั้งนี้ อาจช่วยให้ยอดขายพุ่งขึ้นถึงสองเท่า ทั้งนี้ ราคาไอโฟนที่ลดลงถือว่ามีราคาเพียงครึ่งหนึ่งของปาล์มที่จำหน่ายในราคา 199 ดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนผลกระทบต่อตลาดมือถือในเมืองไทยนั้น นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานการตลาด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า การที่ไอโฟนลดราคาลงมาเหลือ 99 ดอลลาร์สหรัฐ ในรุ่น 8 กิกะไบต์นั้น ถือเป็นการอุดหนุน (ซับซิไดซ์) อย่างเต็มรูปแบบ โดยลูกค้าที่ซื้อเครื่องต้องมีพันธสัญญาต่อเดือนที่ต้องจ่ายขั้นต่ำให้แก่โอเปอเรเตอร์มือถือ ที่ได้รับสิทธิทำตลาดจากแอ๊ปเปิ้ล อิงค์ และในส่วนของระยะเวลาในการอยู่กับผู้ให้บริการรายนั้นๆ ส่วนใหญ่จะไม่ต่ำกว่า 1 ปี หรือตามเงื่อนไขของราคาที่ตั้งไว้
"กรณีนี้เรียกว่าเป็นการซับซิไดซ์อย่างเต็มรูปแบบ ต่างประเทศนิยมทำกันมาก เพราะเขามีระบบควบคุมที่ได้มาตรฐานกว่าเรา แต่ในไทยยังไม่สามารถใช้โมเดลซับซิไดซ์ได้อย่างเต็มรูปแบบ" นายฐิติพงศ์ กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม ไม่คิดว่าจะการลดราคาเครื่องที่แอ๊ปเปิ้ลประกาศออกมาล่าสุดนี้ จะส่งผลกระทบกับตลาด โดยเฉพาะในส่วนของการทำตลาดมือถือสมาร์ทโฟน "แอนดรอยด์" และ "แบล็กเบอรี่"
"เราต้องมองที่ต้นทุนที่แท้จริงของเครื่อง มันเป็นไปไม่ได้ว่าเครื่องที่ตั้งราคาไว้กว่า 2 หมื่นบาท เมื่อลดลงเหลือแค่ 3,500 แล้ว จะไม่มีเงื่อนไขอะไรตามมา" นายฐิติพงศ์ กล่าว
ด้านแหล่งข่าวจาก บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า นอกเหนือจากมือถือไอโฟน 3จี แล้ว บริษัทยังได้สิทธิการทำตลาดไอโฟนรุ่นใหม่ 3 จีเอส เพียงแต่ต้องรอนโยบายของแอ๊ปเปิ้ล หลังจากประกาศรายชื่อ 6 ประเทศแรก ที่ได้ทำตลาดก่อน ส่วนกรณีที่ แอ๊ปเปิ้ล ประกาศลดราคาไอโฟนรุ่นที่ทำตลาดอยู่นั้น ยังไม่ได้รับแจ้งการเตรียมลดราคาเครื่องรุ่นเดิมที่จำหน่ายอยู่ หรือเครื่องรุ่นใหม่ที่จะทำตลาดก่อนคนอื่นแต่ประการใด
อย่างไรก็ตาม คาดว่าคงไม่ได้มีผลกระทบใดๆ กับ ทรู เรื่องสต็อกสินค้า เนื่องจากแนวทางการทำตลาดของแอ๊ปเปิ้ล เมื่อจะออกสินค้าใหม่ และมีตัวแทนจำหน่ายสั่งสินค้าไปก็จะยืดเวลาส่งสินค้าจากปกติ ขณะที่ บริษัทก็มีสิทธิกำหนดราคาที่จะขึ้นหรือลงได้อย่างเป็นอิสระ เช่นเดียวกับทุกประเทศที่เป็นตัวแทนทำตลาด โดยไม่ถูกกำหนดจากแอ๊ปเปิ้ล
ที่มา: komchadluek.net
