การต่อสู้เพื่อปกป้องเด็ก ๆ ในจังหวัดฟุกุชิมะ และ โคริยามะ จากกัมมันตภาพรังสีในเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิดอาจจะทำให้เส้นทางในวงการบันเทิงของนักแสดงวัย 36 ปี "ทาโร่ ยามาโมโต้" ต้องมีปัญหา เมื่อต้นสังกัดของเขาได้ออกมายืนยันถึงการเลิกสัญญากับเขาแล้ว
Shisu Management Agency ได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 27 พ.ค. ถึงการยกเลิกสัญญาระหว่างบริษัทและนักแสดงในสังกัด ทาโร่ ยามาโมโต้ ว่า "เราตกลงที่จะยอมรับการตัดสินใจของ ยามาโมโต้ ที่ไม่ต้องการสร้างปัญหาใด ๆ เพราะกิจกรรมส่วนตัวของเขา"
"กิจกรรมส่วนตัว" ที่เอเยนซีกล่าวถึงก็คือ การที่นักแสดงหนุ่มชื่อดังรายนี้ร่วมรณรงค์เคลื่อนไหวปกป้องเด็ก ๆ จากนโยบายของรัฐบาล ต่อปัญหากัมมันตภาพรังสีนั่นเอง
นอกจากการยกเลิกสัญญากับต้นสังกัด ขณะเดียวกันผลงานของ ยามาโมโต้ ที่มีกำหนดแพร่ภาพในวันที่ 8 ก.ค. ก็ถูกยกเลิกการออกอากาศไปแล้วเช่นเดียวกัน โดยมีความเห็นจากหลายฝ่ายว่า การแสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์เรื่องปัญหาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ อาจจะทำให้อนาคตทางการแสดงของเขาต้องดับวูบลงก็เป็นได้
ก่อนหน้านี้ ยามาโมโต้ ได้ออกมาแสดงความเห็นโจมตีการทำงานของรัฐบาลต่อปัญหาเรื่องโรงไฟฟ้า นอกจากนั้นยังแสดงความกังวลว่าเด็ก ๆ อาจจะได้รับอันตรายจากกัมมันตภาพรังสีที่เริ่มแพร่ออกมาเรื่อย ๆ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลได้ประกาศคำสั่ง เพิ่มระดับความปลอดภัยสำหรับเด็กญี่ปุ่น ต่อการได้รับกัมมันตรังสีให้เป็น 20 มิลลิซีเวอร์ต่อปี เพื่อไม่ให้ปัญหาที่เกิดขึ้นกระทบต่อการใช้ชีวิตปกติของประชาชน
อย่างไรก็ตามในความเห็นของชาวญี่ปุ่นจำนวนหนึ่ง รวมถึง ยามาโมโต้ มองว่าคำสั่งดังกล่าวไม่ได้คำนึงถึงข้อเท็จจริงที่ว่า เด็กมีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับกัมมันตรังสีมากกว่าผู้ใหญ่หลายเท่า
ในวันที่ 23 พ.ค. ยามาโมโต้ ได้ร่วมกับกลุ่มประชาชนรวมตัวกันที่ด้านนอกของกระทรวงศึกษาในโตเกียว เพื่อเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงคำสั่งดังกล่าว
เขายังร่วมสนับสนุนกิจกรรมของ Operation Kodomotachi ที่มีเป้าหมายช่วยอพยพเด็ก ๆ จากพื้นที่ 30 กิโลเมตรรอบเขตฟุกุชิมะ ที่มีการรั่วไหลของกัมมันตภาพรังสี นับตั้งแต่เกิดเหตุแผ่นดินไหวและซึนามิตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค. ซึ่ง Operation Kodomotachi สามารถช่วยหาครอบครัวอุปถัมภ์ให้กับเด็ก ๆ กว่า 4,000 คนแล้ว
ในเวลาเดียวกันตลอดการออกมาเคลื่อนไหว ทาโร่ ยามาโมโต้ ยังต้องเผชิญหน้ากับการถูกวิพากษ์วิจารณ์ด้วยเช่นเดียวกัน
โดยเฉพาะเมื่อเขากล่าวว่า ประชาชนที่บ้านเรือนตั้งอยู่ในแถบเชอร์โนบิล ที่เกิดอุบัติเหตุโรงไฟฟ้าระเบิดเมื่อปี 1986 ถูกอพยพทั้ง ๆ ที่ระดับการได้รับกัมมันตภาพรังสีอยู่ที่เพียง 5 มิลลิซีเวอร์สต่อปีเท่านั้น เขายังเรียกการตัดสินใจของกระทรวงศึกษาญี่ปุ่นว่า "เป็นการกระทำของฆาตกร" และแสดงความเห็นว่ารัฐบาลญี่ปุ่นไม่ต้องการรองรับค่าใช้จ่ายสำหรับการย้ายบ้านของประชาชน จึงปล่อยให้ชาวบ้านต้องเผชิญหน้ากับชะตากรรมโดยไม่มีหลักประกันอะไรเลย
กับการร่วมลงมือลงแรงครั้งนี้ Operation Kodomotachi ได้ออกมายกย่อง ทาโร่ ยามาโมโต้ ว่า "กิจกรรมของเรามีเป้าหมายที่ต้องการช่วยเหลือเด็ก ๆ เพื่ออนาคตของพวกเขา โดยไม่ได้มีจุดประสงค์จะต่อต้านพลังงานนิวเคลียร์ เป็นสิ่งที่มาจากความบริสุทธิ์ใจ และ ยามาโมโต้ เองก็ต้องการปกป้องเด็ก ๆ เช่นเดียวกัน"
ทาโร่ ยามาโมโต้ เริ่มเข้าวงการบันเทิงมาตั้งแต่ปี 1998 มีผลงานทั้งทางโทรทัศน์ และภาพยนตร์มากมาย โดยบทบาทการแสดงซึ่งทำให้เขาเป็นที่รู้จักมากที่สุดก็คือการรับบทเป็นตัวละคร "โชโกะ คาวาดะ" ในภาพยนตร์เรื่อง Battle Royale เมื่อปี 2000 นั่นเอง
ที่มา: manager.co.th