ไมโครซอฟท์ (Microsoft) เปิดตัวซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการสำหรับโทรศัพท์มือถือเวอร์ชันอัปเดตล่าสุด "Mango" การันตีว่าการอัปเดตครั้งนี้จะทำให้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์โฟน (Windows Phone) มีคุณสมบัติใหม่เพิ่มขึ้นจากเดิม 500 จุด คาดกองทัพสมาร์ทโฟน Mango จะพร้อมวางตลาดช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ ท่ามกลางพันธมิตรรายใหม่ 3 รายที่ทำให้ไมโครซอฟท์มีพันธมิตรร่วมผลิตสมาร์ทโฟน Mango เพิ่มเป็น 6 ราย บนความหวังว่าวินโดวส์โฟนจะสามารถแย่งส่วนแบ่งตลาดจากไอโฟนของแอปเปิล และแอนดรอยด์โฟนของกูเกิลได้
การอัปเดตระบบปฏิบัติการวินโดวส์โฟนภายใต้ชื่อรหัสว่า Mango ของไมโครซอฟท์ครั้งนี้ ได้รับความสนใจอย่างมากเนื่องจากตัวเลขการันตีคุณสมบัติใหม่ที่สูงถึง 500 จุด หนึ่งในนั้นคือการเพิ่มความสามารถในการเปิดเว็บไซต์ให้เร็วกว่าเดิมด้วยการใช้โปรแกรม Internet Explorer 9 (IE9) และความสามารถด้านมัลติทาสกิงเพื่อให้ผู้ใช้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างยืดหยุ่นกว่าเดิม
Andy Lees ประธานฝ่ายธุรกิจการสื่อสารเคลื่อนที่ของไมโครซอฟท์ย้ำว่า Mango จะทำให้สมาร์ทโฟนฉลาดขึ้นและสามารถใช้งานหลากหลายได้ง่ายขึ้น โดยจะเน้นให้ระบบสามารถจัดการข้อมูลระหว่างบุคคลหรือกลุ่มคนที่ผู้ใช้ต้องการติดต่อด้วยชนิดไม่ต้องใช้แอปพลิเคชันเสริมใดๆ และจะเปิดให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Windows Phone 7 ดั้งเดิมสามารถอัปเดตเป็น Mango ได้ฟรี
"Mango สามารถแสดงอีเมลจากหลายชื่อบัญชีซึ่งมีการเชื่อมต่อกล่องข้อความเข้าด้วยกัน ในรูปของบทสนทนาได้ ซึ่งไม่เพียงอีเมล แต่ข้อความ SMS ข้อความแชตในเฟสบุ๊ก หรือโปรแกรมแชตอย่าง Windows Live Messenger ก็สามารถเปิดชมพร้อมกันได้ในหน้าต่างเดียว Mango ยังรองรับความสามารถด้านโซเชียลเน็ตเวิร์ก ทั้งระบบป้อนข้อมูล Twitter และ LinkedIn รวมถึงนานานวัตกรรมจากบริการเสิร์ชเอนจิ้นของไมโครซอฟท์ (Bing)"
การเปลี่ยนแปลงมากมายในระบบปฏิบัติการวินโดวส์โฟนทำให้ไมโครซอฟท์มีพันธมิตรที่จะผลิตสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการวินโดวส์โฟนมากขึ้น โดยจากเดิมที่มีซัมซุง (Samsung), แอลจี (LG) และเอชทีซี (HTC) ขณะนี้ไมโครซอฟท์มีพันธมิตรใหม่หลายสัญชาติที่จะร่วมลงเรือลำเดียวกันได้แก่เอเซอร์ (Acer) ฟูจิตซึ (Fujitsu) และแซดทีอี (ZTE) ซึ่งคาดว่าจะทำให้ไมโครซอฟท์บุกตลาดจีนและญี่ปุ่นได้ดีขึ้น
นอกจากผู้ผลิต 6 รายนี้ ไมโครซอฟท์ระบุว่ากำลังอยู่ระหว่างการร่วมพัฒนาสมาร์ทโฟน Mango กับโนเกีย พันธมิตรรายใหญ่คนใหม่ซึ่งประกาศสายฟ้าฟาดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ว่าจะผลิตสมาร์ทโฟนวินโดวส์โฟนแบรนด์โนเกีย คาดว่าจะเริ่มโชว์สมาร์ทโฟน Mango ได้ทันในปีนี้
การเปิดตัว Mango ครั้งนี้เกิดขึ้นหลังการเปิดตัววินโดวส์โฟนเซเว่นครั้งแรกราว 8 เดือน ซึ่งไม่สามารถเรียกความสนใจจากตลาดได้มากเท่าที่ควร สำหรับการวางจำหน่ายสมาร์ทโฟน Mango ในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ นักวิเคราะห์ก็ยังไม่มั่นใจว่า Mango จะสามารถแข่งขันได้ดีในตลาด เพราะไมโครซอฟท์จะต้องชนช้างกับไอโฟนรุ่นใหม่ และสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์รุ่นล่าอีกเช่นที่ผ่านมา
จุดนี้นักวิเคราะห์มองว่า แม้ Mango จะเป็นหลักไมล์แสดงพัฒนาการเทคโนโลยีที่ดีกว่า แต่ก็ล้วนเป็นคุณสมบัติลักษณะคล้ายกันกับที่คู่แข่งทำได้ จุดแพ้ชนะจึงอยู่ที่ผู้เล่นในตลาดรายใดจะสามารถให้ความรู้กับผู้บริโภคได้ดีกว่ากัน ซึ่งปัจจัยที่จะทำให้ Mango เติบโตในตลาดยังอยู่ที่ผู้ผลิตเครื่องด้วยว่าจะทำให้อุปกรณ์ Mango มีจุดต่างได้หรือไม่รวมถึงกลุ่มผู้ให้บริการหรือโอเปอเรเตอร์ที่เป็นส่วนสำคัญในการสร้างแรงจูงใจให้ผู้บริโภค
จากวิดีโอสาธิต Mango นั้นมาพร้อมเครื่องมือค้นหาภาพยนตร์จาก Bing ซึ่งผู้ใช้จะสามารถพบข้อมูลเวลาฉาย และที่ตั้งโรงภาพยนตร์ รวมถึงสามารถเชื่อมต่อแอปพลิเคชันเพื่อซื้อตั๋วชมภาพยนตร์ได้ทันที นอกจากนี้ยังโชว์ความสามารถของการเปิดหน้าเว็บไซต์ เพื่อแสดงว่า IE9 สามารถเปิดได้เร็วกว่าสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการคู่แข่งอย่างแบล็กเบอรี ไอโฟนและสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์จากเอชทีซี
ที่สำคัญ ไมโครซอฟท์วางหมากให้ Mango สามารถโกยส่วนแบ่งตลาดได้เต็มที่ด้วยการสนับสนุนภาษามากมายเพื่อให้ชาวจีน ดัตช์ กรีก ญี่ปุ่น เกาหลี โปลิช โปรตุกีส และชาวรัสเซียนสามารถใช้งานได้ทันที ทั้งหมดนี้ทำให้การ์ทเนอร์วิเคราะห์ว่า ไมโครซอฟท์จะสามารถครองส่วนแบ่งตลาดระบบปฏิบัติการสมาร์ทโฟนได้ราว 10.8% ในปีหน้า เพิ่มจากปีนี้ที่คาดว่าจะทำได้เพียง 5.6%เท่านั้น
แน่นอนว่าตัวเลข 10.8% นั้นยังเป็นรองระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์และไอโอเอสมากนัก โดยการ์ทเนอร์เชื่อว่าแอนดรอยด์จะมีสัดส่วน 49.2% ในตลาดสมาร์ทโฟนโลก นำหน้าไอโฟนซึ่งคาดว่าจะมีส่วนแบ่งราว 18.9% ในปี 2012
http://www.youtube.com/watch?v=Q8tUaD-BTxA ที่มา: manager.co.th