Author Topic: “เต๋า” เปิดใจ ถูกขัง 15 วัน เป็นประสบการณ์ที่ทำให้ออกมาเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี  (Read 959 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


“เต๋า” เผย ถูกขัง 15 วัน เป็นประการณ์ที่ดี ที่ทำให้ออกมาเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี สามารถสอนลูกได้ทุกอย่างในโลกนี้ บอก ถือว่าได้รับผิดชอบในสิ่งที่ทำหมดแล้ว ลั่น ชีวิตหลังจากนี้ก็ต้องดำเนินต่อไปให้ดีขึ้นทุกวัน แย้มอาจออกพ็อกเก็ตบุ๊ค เจ้าตัวรับ “ชิ” ทาบให้เล่นหนังชีวิต “นาธาน” แต่ยังไม่ได้ตกลง ขอดูบทก่อน
       
       หลังจากที่พ่อลูกอ่อนอย่าง “เต๋า สมชาย เข็มกลัด” ได้ออกจากสถานกักขังกลางจังหวัดลำปาง ในคดีทำร้ายร่างกาย “นายวีระชาติ เด่นศิริกุล” หรือ “โกตา” และศาลมีคำสั่งให้กักขัง 15 วัน ล่าสุดเจ้าตัวก็หอบหิ้วทั้งภรรยา “ยุ้ย อัฐมาศ เข็มกลัด” และลูกน้อย 2 คนคือ “น้องสมใจ และ น้องสุขใจ” มาร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวลีกการแข่งขันฟุตบอลดารา “Thailand Superstar Leaque” ณ ชั้น 2 โซนอีเดน Central World ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าทุกอย่างถือเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ดีทั้งสิ้น ทำให้ตนได้เรียนรู้ชีวิตหลายๆ อย่าง และถือเป็นการรับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไปทั้งหมดแล้ว
       
       “จริงๆ ผมว่าเป็นประสบการณ์ ณ วันนี้ผมได้รับผิดชอบในสิ่งที่มันเกิดขึ้นทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ต่อไปผมคงจะต้องพูดถึงเรื่องวันนี้เราจะทำอะไรและพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แล้วหลังจากพรุ่งนี้จะมีอะไรต่อ ซึ่งบอกจริงๆ ว่าสำหรับผมลหุโทษ และประวัติอะไรของผมก็ไม่มี ก็ถือว่าเราได้สิ้นสุดลงแล้ว ไม่มีปัญหาอะไรครับ สบายดี ก็ไม่ได้เดินถอยหลังออกตามความเชื่ออะไรหรอกครับ ก็ปกติ คือผมว่าทุกอย่างมันเป็นไปตามธรรมชาติ และอยากจะบอกว่าต้องแยกแยะ เพราะว่ามันมีหลายๆ ประเด็น”
       
       “ผมถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตครับ ทุกอย่างในชีวิตที่ผ่านเข้ามาผมถือว่าดีหมด ผมมีความรู้สึกว่าถ้าไม่มีวันนั้นก็ไม่มีวันนี้ คนเรามันต้องมีความหวัง มันต้องมีจุดมุ่งหมาย คุณก็ต้องดำเนินชีวิตต่อไปเท่านั้นเอง ทุกอย่างผมถือว่าเป็นสิ่งที่ดีหมด มันทำให้เราสามารถเติบโตเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี สามารถบอกลูกเราได้ สอนลูกเราได้ทุกอย่างในโลกนี้ จริงๆ ผมถือว่ามันเป็นลักษณะของประสบการณ์ที่เราไม่ต้องไปฟังใคร ผมมีประสบการณ์ส่วนตัว เป็นประสบการณ์ตรงที่เราสามารถพูดได้เลย แต่ถ้าอยากรู้ลึกกว่านี้วันนึงผมจะเขียนให้อ่าน”
       
       “เรื่องที่เป็นขวัญใจของผู้คุม ก็ประมาณนึงครับ ขอบคุณมาก(ยิ้ม) แฟนคลับในนั้นก็มีเรื่อยๆ ครับ แต่ผมว่าเขาตื่นเต้นกันค่อนข้างมากนะที่เห็นผม จริงๆ แล้วอยากจะบอกว่าทุกคนมีหน้าที่ ผมเชื่ออย่างนึงว่าทุกคนมารับผิดชอบในสิ่งที่มันเกิดขึ้น และทุกคนออกไปอย่างมีความหวัง ทุกคนมีจุดมุ่งหมายว่าออกไปจะทำอันนี้ๆ เรามีสิ่งที่รับผิดชอบ ซึ่งผมรู้สึกว่ามันใช่ มันเป็นความคิดของคนที่จะไปข้างหน้า”
       
       “จริงๆ ทุกสิ่งทุกอย่างที่มันผ่านเข้ามาถือว่าเป็นครูสอนเรา แล้วทำให้ผมรู้สึกว่ามันคือชีวิต ทุกคนมานั่งคุยในเรื่องชีวิตที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เราก็เลยได้รู้ชีวิตของคนบางคนเป็นยังไง ผมว่าเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่มีคุณค่าสำหรับผม วันนี้ก็ต้องทำให้ดีที่สุด พรุ่งนี้จะได้ดีขึ้นไปอีก แล้วพรุ่งนี้เราต้องทำให้ดีกว่าวันนี้ นั่นคือสิ่งที่ผมคิด”
       
       เผย ได้รับการทาบทามจาก “ชิ อนุชา ลังประเสริฐ” ให้เล่นหนังชีวิตของจอมลวงโลกอย่าง “นาธาน โอมาน” จริง แต่ยังไม่ได้ตอบตกลง บอกขอดูบทและนักแสดงร่วมก่อน
       
       “หนังนาธานเหรอครับ(หัวเราะ) ก็ได้รับการทาบทาม พร้อมทรีทเม้นท์อย่างละเอียด ผมก็เลยบอกว่าอย่างนี้แล้วกัน ในฐานะที่ผมกับพี่ชิก็รู้จักกันมานาน ตั้งแต่ผมเข้าไปอยู่อาร์เอสใหม่ๆ ผมก็ได้เจอพี่ชิแล้ว ผมก็เลยบอกว่าเอาไว้มีบทจริงๆ มาอ่าน แล้วมีใครเล่นบ้าง จังหวะสุดท้ายก็ค่อยมาคุยกันอีกที อันนี้คือเราก็คุยกันในฐานะผมเป็นนักแสดงคนนึง แล้วมีคนทาบทามให้เราเล่นหนัง ให้ดูบท เราก็ต้องดู แล้วยิ่งคนคุ้นเคยผมก็พิจารณาอยู่แล้ว แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ต้องรอสุดท้ายว่าจะเป็นยังไงแบบไหน รายละเอียดเป็นยังไง บทเป็นยังไงและใครเล่นบ้าง”
       
       “ถามว่าสนใจแค่ไหน ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ครับ ผมก็เปิดกว้างในทุกๆ งานอยู่แล้ว อย่างตอนนี้ผมก็มีงานหนังที่เล่นเรื่อง ปล้นนะยะ2 อีกเรื่องของบาแรมยูคือ อันธพาล ก็จะเป็นย้อนยุคหน่อย แต่สำหรับหนังของพี่ชิผมแค่รับไว้พิจารณา เพราะตอนนี้ยังมาแค่ทรีทเม้นท์อย่างละเอียด แต่ยังไม่ใช่เป็นบท ยังไม่ได้สรุปว่าใครเล่นบ้าง ใครกำกับ ใครทำ คืออยู่ในฐานะของการพูดคุยกัน ผมก็นำเสนอในเรื่องของความเป็นนักแสดง ที่เหลือก็คงเป็นในด้านของผู้กำกับ”
       
       “แต่ถามว่ามาเล่นเรื่องนี้จะมีผลอะไรไหม ผมว่าไม่หรอกครับ การแสดงก็คือการแสดง ผมว่าจริงๆ ก็ดีนะ มันจะได้แยกแยะระหว่างเรื่องจริงกับการแสดง อีกอย่างนึงผมเชื่อว่าชีวประวัติของคนหลายๆ คนในเมืองนอกเขาก็เอามาทำกัน แต่ตอนนี้ผมก็ยังรับไว้พิจารณาอยู่ ยังไม่ได้ตอบอะไรทั้งนั้น”
       
       “ไม่ใช่รับเพราะเกรงใจหรอกครับ ทุกอย่างอยู่ที่ความเหมาะสม และจริงๆ อยากจะบอกว่ารายละเอียดลึกๆ มันยังไม่มีอะไรเลย แต่ทาบทามน่ะจริง เอาทรีทเม้นท์ให้อ่านจริง แต่ผมยังไม่ตัดสินใจอะไรจนกว่าผมจะได้คำตอบที่ผมมีอยู่ในใจ แล้วผมจะตอบได้ว่างานนี้ผมรับหรือไม่รับ แล้วผมต้องเล่นเป็นพี่ชิ ซึ่งผมเจอเขามา 20 กว่าปี ผมก็เลยบอกว่ามีอะไรก็ค่อยคุยกัน”
       
       ทั้งนี้หนุ่มเต๋ายังได้เผยถึงลูกทั้งสองคนว่า มีพัฒนาการดีขึ้นเรื่อยๆ แต่บอกที่ไว้หนวดไว้เคราไม่ใช่เพราะเป็นคุณพ่อหวงลูกสาว แต่เพราะบทบาทหน้าที่ในการแสดงมากกว่า
       
       “วันนี้เขาก็มาให้กำลังใจครับ เดี๋ยวนี้เวลาไปไหนก็ออกมาพร้อมกันหมด สังเกตแก้มยุ้ยทั้งสองคน อันนี้คือโลโก้ทีมครับ เพราะผมเด็กๆ ก็จะแก้มยุ้ยเหมือนกัน และภรรยาผมที่ชื่อยุ้ยก็เพราะเด็กๆ เขาแก้มยุ้ย แต่จริงๆ แล้วเราก็เลี้ยงให้สมบูรณ์เต็มที่ และถึงเวลาพอสมควรเขาก็คงจะยืดตัวของเขาเอง เหมือนตอนพี่สมใจตัวเขาก็ไม่ได้อ้วนแล้ว แต่ว่าแก้มยังอยู่(ยิ้ม) แต่ก็ลงไปพอสมควรนะครับ”
       
       “จริงๆ เขาก็สูงนะ แต่คงต้องรอดูต่อไป เพราะการที่เราไปหาคุณหมอทุกเดือน ไปตรวจสุขภาพหรือฉีดวัคซีน เราก็จะเช็คเรื่องน้ำหนัก ส่วนสูงก็คือมาตรฐาน อาจจะเลยนิดๆ หรือพอดีๆ หน่อย แต่ไม่ได้ต่ำกว่ามาตรฐาน ซึ่งเราก็พอใจแล้ว แต่ว่าตอนนี้ลูกชายคนเล็กผมวันที่ 27 นี้ครบ 2 เดือน แต่น้ำหนักจะ 6 กิโลแล้ว คือเขาออกมาตอนแรก 3.1 กิโล”
       
       “ที่ไว้หนวดนี่ไม่ใช่ว่าเพราะมีลูกสาวหรอก คือจริงๆ ก็แล้วแต่ในเรื่องของวัยเขา ที่ไว้นี่เราก็มีความรับผิดชอบในส่วนของเรา เขาก็มีความรับผิดชอบในส่วนของเขา การไว้หนวดของผมก็แล้วแต่ว่างานที่เราได้รับไม่ว่าจะเล่นละครหรือหนังก็แล้วแต่คาแรคเตอร์นั้นๆ มากกว่า”


ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)