นายชวพล จริยาวิโรจน์
วีเอ็มแวร์ ตั้งเป้ารุกตลาดเวอร์ชวลไลชันบนคลาวด์คอมพิวติงอย่างเต็มตัว ต่อยอดจากกลุ่มองค์กรที่หันเข้ามาลงทุนแล้วกว่า 600 ราย เชื่อสิ้นปีขยับขึ้นเป็น 700 - 800 รายจากฐานลูกค้ากลุ่มองค์กร
นายชวพล จริยาวิโรจน์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท วีเอ็มแวร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การทำตลาดของวีเอ็มแวร์ในปีนี้น่าจะง่ายขึ้น จากการที่ปีที่ผ่านมามีหลายๆ องค์กรให้ความสนใจในการนำเวอร์ชวลไลเซชันบนคลาวด์คอมพิวติงไปใช้เป็นจำนวนมาก และได้รับการตอบรับค่อนข้างดี
"ลูกค้าองค์กรกว่า 600 รายในประเทศไทยที่มีการนำวีเอ็มแวร์ไปใช้งานและคาดว่าปีนี้จะเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 700 - 800 ราย แต่ทั้งนี้ วีเอ็มแวร์ไม่ได้คำนึงถึงการเพิ่มจำนวนของลูกค้าองค์กร แต่มองถึงการเพิ่มจำนวนของเวอร์ชวลไลเซชันในระบบเดิมมากกว่า"
วีเอ็มแวร์แบ่งระดับการก้าวเข้าสู่การใช้งานระบบเวอร์ชวลไลเซชันบนคลาวด์คอมพิวติงแบบเต็มตัวไว้เป็น 3 ระดับคือ 1. นำมาใช้งานเพื่อลดค่าใช้ในการจัดสรรงบประมาณด้านไอที 2. การนำระบบคลาวด์ช่วยในการจัดเก็บข้อมูลและเริ่มประยุกต์ใช้งาน และ 3.ที่เป็นการนำ ITaaS (IT as a Service) เข้ามาใช้เพื่อให้ผู้ใช้ในองค์กรสามารถใช้งานจากอุปกรณ์ที่หลากหลายผ่านแอปพลิเคชันที่สมบูรณ์และปลอดภัย
"ตลาดในเมืองไทยยังอยู่ที่ยังอยู่ในจุดที่มองว่าเวอร์ชวลไลเซชันบนคลาวด์คอมพิวติงเป็นเรื่องการลดค่าใช้จ่าย แต่ยังต้องมองไปถึงอนาคตว่าระบบจะสามารถเพิ่มฟีเจอร์พิเศษอื่นๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้มากกว่าการใช้งานระบบแบบเดิมๆ ซึ่งลูกค้าราว 30%อยู่ในขั้นตอนที่ 2 เพื่อเตรียมก้าวเข้าไปสู่การใช้งานระบบคลาวด์อย่างเต็มตัว ขณะที่อีก 70% ยังอยู่ในขั้นที่นำเข้ามาลดค่าใช้จ่าย เพื่อรอดูสถานการณ์ก่อนจะขยับตัวลงทุนเพิ่มต่อไป"
กลุ่มลูกค้าที่วีเอ็มแวร์เชื่อว่าจะเข้ามามีบทบาทเพิ่มขึ้นอย่างมากในปีนี้คือกลุ่ม ธนาคาร อุตสาหกรรมโทรคมนาคม อุตสาหกรรมการผลิต สาธาณูปโภค ภาครัฐ และเซอร์วิสโพรไวเดอร์ ที่จะหันมาให้ความสำคัญกับคลาวด์มากขึ้น จากการที่เห็นหลายๆ องค์กรเริ่มนำระบบมาใช้เป็นที่เรียบร้อย
โดยแผนการทำตลาดของวีเอ็มแวร์ในปีนี้จะเน้นไปที่ การให้ความรู้กับลูกค้าในตลาดเกี่ยวกับคลาวด์คอมพิงติง เนื่องจากเป็นสิ่งที่ยากและค่อนข้างกว้าง จึงต้องพยายามสื่อให้เข้าใจว่าคลาวด์ จะช่วยแต่ละองค์กรอย่างไร รวมถึงแบ่งลูกค้าแต่ละกลุ่มให้เหมาะกับการใช้งานคลาวด์ในแต่ละประเภท โดยการเพิ่มจำนวนทีมงานและพาร์ทเนอร์เพื่อให้ครอบคลุมไปยังทุกๆอุตสาหกรรม
"วีเอ็มแวร์มี 2 ดิสทริบิวเตอร์หลักที่คอยซัพพอร์ตการทำตลาดคือ แวลูซิสเต็มส์ และเอสไอเอส ขณะที่มีพาร์ตเนอร์อีก 200 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้จำหน่ายอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์อย่างเซิร์ฟเวอร์และสตอเรจ ทำให้เชื่อว่าจะสามารถขยายตลาดได้ตามความต้องการ"
นายชวพล ให้ข้อมูลว่า งบประมาณไอทีส่วนใหญ่ในทุกๆ องค์กรกว่า 70% ใช้ในการบำรุงรักษาทั้งอินฟราสตรักเจอร์และแอปพลิเคชัน ขณะที่เหลือเพียง 30% เพื่อใช้ในการพัฒนาระบบไอทีให้ทันสมัยมากขึ้น
"การนำระบบเวอร์ชวลไลเซชัน เข้ามาช่วยบริหารดาต้าเซ็นเตอร์ จะช่วยให้องค์กรสามารถลดจำนวนเซิร์ฟเวอร์ ลดค่าใช้จ่าย และตอบสนองการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น ทิศทางต่อไปหลังจากเริ่มใช้งานเวอร์ชวลไลเซชัน คือการทำให้สามารถลดค่าใช้จ่ายด้านไอทีทั้งหมด"
อีกจุดที่ทำให้วีเอ็มแวร์ หันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาไฮบริดจ์คลาวด์คือ การใช้งานไพรเวทคลาวด์ขององค์กรในปัจจุบัน จะมีบางเวลาที่จำเป็นต้องมีการใช้งานทรัพยากรระบบมากกว่าที่มีอยู่ จึงเกิดทางเลือกว่าจะนำความสามารถของพับบลิคคลาวด์มาช่วยให้บริการในรูปแบบไฮบริดจ์ฯ หรือเลือกที่จะลงทุนในไพรเวทคลาวด์เพิ่มขึ้น ซึ่งเชื่อว่าหลายๆบริษัทเลือกที่จะหันไปใช้งานบริการไฮบริดจ์ฯ จนกว่าจะถึงเวลาที่ต้องมีการใช้งานทรัพยากรที่สูงขึ้นตลอดวลา
"ในอนาคตจากงบประมาณในฝ่ายไอทีจะไม่ได้หมดไปกับการบำรุงรักษาระบบอีกต่อไป แต่จะสามารถนำงบกว่า 70% มาใช้ในการพัฒนาทั้งระบบและแอปพลิเคชันให้รองรับการใช้งาน ขณะที่ลดจำนวนเงินที่จะใช้บำรุงรักษาระบบลงมาเหลืออยู่ที่ 30% จากการนำระบบคลาวด์ไปใช้"
Company Related Link :
VMware
ที่มา: manager.co.th
