Author Topic: ยอดขายอีบุ๊กคินเดิลแซงหนังสือกระดาษทุกประเภท  (Read 878 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


ซีอีโออเมซอนและคินเดิล

อเมซอนเผยสถิติการซื้อขายหนังสือบนเว็บไซต์ล่าสุดอย่างเป็นทางการ ระบุว่านับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2011 หนังสือกระดาษทุก 100 เล่มที่อเมซอนจำหน่ายไปนั้นสามารถจำหน่ายในรูปแบบหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เพื่ออ่านบนคินเดิล (Kindle) ถึง 105 เล่ม ถือเป็นเป็นยอดขายที่สูงกว่าช่วงเมษายนปีที่แล้วถึง 3 เท่าตัว โดยหนังสือทั้งหมดรวมทั้งหนังสือปกแข็ง (hardcover) และหนังสือปกอ่อน (paperback) ซึ่งไม่มีจำหน่ายในเวอร์ชันอีบุ๊ก
       
       "อีบุ๊กฟรีสำหรับคินเดิลไม่ได้ถูกรวมในสถิตินี้ ซึ่งหากมีการนำไปคำนวณร่วมด้วย ยอดอีบุ๊ก 105 เล่มจะสูงกว่านี้อีก" ตามเนื้อความในแถลงการณ์ของอเมซอน
       
       การประกาศครั้งนี้ถูกตั้งข้อสังเกตว่าล่าช้ากว่าที่หลายคนหวังไว้ เนื่องจากช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2010 อเมซอน (Amazon) ออกมาประกาศว่ายอดจำหน่ายอีบุ๊กสำหรับคินเดิลนั้นมีจำนวนเกินยอดขายหนังสือปกแข็งมากแล้ว กระทั่งต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา อเมซอนจึงประกาศว่ายอดขายอีบุ๊กคินเดิลมีจำนวนเกินยอดขายหนังสือปกอ่อน ซึ่งหลังจากนั้นไม่มีการยืนยันจากอเมซอนอีกว่ายอดขายอีบุ๊กคินเดิลนั้นแซงหน้ายอดขายหนังสือทั้งหมด จนวันนี้ที่อเมซอนมีแถลงการณ์ออกมาอย่างชัดเจน
       
       หนังสือปกแข็งและปกอ่อนนั้นเป็นรูปแบบการพิมพ์หนังสือในต่างประเทศซึ่งไม่ได้ถูกตีพิมพ์เพื่อจำหน่ายหรือเผยแพร่ในวงกว้าง โดยปกแข็งนั้นจะมีราคาแพงและมุ่งกลุ่มเป้าหมายเฉพาะกลุ่มที่มีความสนใจแท้จริงเท่านั้น ขณะที่หนังสือปกอ่อนจะมีราคาถูกและเน้นต้นทุนต่ำ ส่วนคินเดิลนั้นเป็นอุปกรณ์อ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์หรืออีบุ้กซึ่งอเมซอนเปิดตัวไปตั้งแต่ 4 ปีที่แล้ว จนวันนี้ที่อเมซอนสามารถพูดได้เต็มปากว่า อีบุ้กสามารถทำยอดขายแซงหน้าหนังสือจริงบน Amazon.com
       
       อย่างไรก็ตาม อเมซอนยังยืนยันว่าสามารถจำหน่ายหนังสือเล่มได้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยยกให้ปี 2011 เป็นปีแห่งการจำหน่ายหนังสือของอเมซอนในสหรัฐฯที่มีการเติบโตสูงที่สุดในรอบ 10 ปี ในทุกรูปแบบทั้งแบบหนังสือเล่มและหนังสืออีบุ๊ก จุดนี้อเมซอนยอมรับว่าได้นำสถิติการดาวน์โหลดหนังสืออีบุ๊กฟรีมารวมไว้ด้วย
       
       นอกจากจะชูว่ายอดจำหน่ายอีบุ๊กในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปี 2010 ถึง 3 เท่าตัว อเมซอนยังย้ำว่าคินเดิลเวอร์ชันมีโฆษณาหรือ Kindle with Special Offers ซึ่งจำหน่ายในราคาเพียง 114 เหรียญนั้น (ราว 3,400 บาท) กลายเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดในครอบครัวคินเดิลนับตั้งแต่การเปิดตัวเพียง 5 สัปดาห์
       
       ไม่เพียงในสหรัฐฯ อเมซอนระบุว่าหลังการเปิดตัวร้าน UK Kindle Store ในเวลาไม่ถึง 1 ปี การซื้อขายอีบุ๊กในเว็บไซต์ Amazon.co.uk ก็มีจำนวนมาดดว่าการซื้อหนังสือปกแข็งเช่นกัน สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในวงการสิ่งพิมพ์โลกอย่างรวดเร็ว
       
       "เราไม่เคยคิดว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นในเวลารวดเร็วเช่นนี้ เราขายหนังสือเล่มมานาน 15 ปี แต่เพิ่งจะขายอีบุ๊กสำหรับคินเดิลยังไม่ถึง 4 ปีด้วยซ้ำ" ซีอีโออเมซอน Jeff Bezos กล่าว
       
       ความคืบหน้าล่าสุดของอเมซอนในขณะนี้คือการเปิดบริการ Amazon Trade-In โดยเปิดให้ชาวออนไลน์ที่ต้องการนำสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ตำรา เกม หรือดีวีดีซึ่งไม่ใช้แล้ว มาแลกเป็นเครดิตหรือแต้มเพื่อแลกเงินจากอเมซอนต่อไป จุดนี้มีการวิเคราะห์ว่าบริการนี้ของอเมซอนจะชนกับบริการของเบสต์บาย (Best Buy) ซึ่งเปิดบริการลักษณะนี้เช่นกันบนความหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค กระบวนการรีไซเคิล และฝ่ายอื่นๆในระบบนิเวศน์อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์
       
       Company related Link :
       Amazon

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)