เออาร์ไอพี หวังกระตุ้นตลาดไอทีช่วงไตรมาส 2 ปรับโฉม 'ซีมาร์ต' เป็นงานเทรดแฟร์ไอที-เครื่องใช้ไฟฟ้าเต็มตัว เชื่อ 4 วัน เงินสะพัดกว่า 2,000 ล้าน พร้อมจุดกระแสแท็บเล็ต และสมาร์ททีวีก่อนกระจายเข้าตลาดช่วงครึ่งปีหลัง
นายปฐม อินทโรดม กรรมการบริหารและผู้จัดการทั่วไป บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า งานซีมาร์ตในปีนี้ ทางบริษัทได้มีการยกระดับงาน จากเดิมที่เป็นงานแสดงสินค้าคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์มาเป็นการจัดงาานคอมมาร์ต ซีมาร์ต เพื่อรับกับความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการซื้อสินค้าไอทีในช่วงไตรมาส 2 ซึ่งคาดว่าจะกระตุ้นยอดรวมตลาดไม่น้อยกว่า 10%
"คาดว่างานครั้งนี้จะมีผู้เข้าร่วมงานตลอด 4 วัน ราว 600,000 คน และมียอดรวมภายในงานราว 1,800-2,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากงานในปีที่ผ่านแล้ว โดยในปีนี้ได้มีเวนเดอร์ไอทีเข้ามาร่วมจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้น ประกอบกับอยู่ในช่วงมีการเลือกตั้งซึ่งน่าจะส่งผลให้มีเงินสะพัดในระบบมากขึ้น"
นอกจากนี้ แนวโน้มสินค้าไอทีและอิเล็กทรอนิกส์แทบจะไม่สามารถแยกออกจากกันได้ จึงได้มีการจัดงานรวมระหว่างสินค้าไอทีและคอนซูเมอร์เพื่อเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีเทรนด์การใช้ชีวิตที่ทันสมัยขึ้น ทั้งนี้ สินค้าส่วนใหญ่ภายในงานกว่า 70% จะเป็นสินค้าไอทีอย่างคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ส่วนอีก 30% จะเป็นสินค้าเล็กทรอนิกส์จำพวกทีวี โทรศัพท์และกล้องถ่ายภาพ
** ฝัน 'ซีมาร์ต' เหมือน 'CES' **
นายปฐม กล่าวต่อว่า ความฝันที่วางไว้สำหรับการจัดงานซีมาร์ตในช่วงที่ผ่านมา คือ การสร้างงานแสดงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย คล้ายกับการจัดงาน CES หรือ คอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์โชว์ที่มีการจัดขึ้นในต่างประเทศ
"เรายังไม่สามารถทำตามความฝันได้ เนื่องจากเวนเดอร์ไอทีหลายๆ ราย ยังต้องการงานเทรดแฟร์ ที่สามารถมาขายสินค้าเพื่อกระตุ้นยอดขาย มากกว่าต้องการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาโชว์ แต่เชื่อว่าในอนาคตเมื่อถึงจุดหนึ่งแล้วความฝันดังกล่าวน่าจะเป็นจริงขึ้นมาได้"
** จุดกระแสแท็บเล็ต สมาร์ททีวี **
นายประสิทธิ์ วรฉัตราวณิช รองผู้จัดการทั่วไป บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ให้ข้อมูลตลาดแท็บเล็ตและสมาร์ททีวีว่า ในประเทศไทยขณะนี้ยังอยู๋ในจุดเริ่มต้นของการทำตลาดสินค้าไอทีทั้ง 2 ประเภทนี้ แม้ว่าสินค้าเหล่านี้มีเข้ามาในตลาดนานพอสมควรแล้ว
"กระแสของแท็บเล็ตในตอนนี้ถือว่า อยู่ในช่วงเริ่มต้น แม้ว่าจะมีแอปเปิล ไอแพด หรือเอเซอร์ ไอโคเนีย เข้ามาทำตลาดแล้วก็ตาม แต่อีกหลายๆ แบรนด์ยังอยู่ในช่วงเตรียมตัวเข้ามาจำหน่าย รวมถึงผู้ผลิตชิปรายหลักอย่างอินเทลที่มีแผนผลิตชิปสำหรับแท็บเล็ตเข้ามาวางจำหน่ายในช่วงครึ่งปีหลังด้วย"
ส่วนสมาร์ททีวี เนื่องจากเป็นสินค้าที่เจาะกลุ่มเฉพาะผู้ที่มีกำลังซื้อ ทำให้ยังเป็นกลุ่มสินค้าที่ต้องใช้ระยะเวลาในการทำตลาด รวมถึงส่งเสริมความเข้าใจในตัวสินค้าวงกว้างมากขึ้น เหมือนสมัยที่จอแอลซีดีเข้ามาในตลาดบ่อยๆ
"ต้องมองว่ากลุ่มผู้ใช้ที่มีความต้องการสินค้าประเภทนี้จะเป็นกลุ่มวัยรุ่น ที่เคยมีพฤติกรรมใช้พีซีเชื่อมต่อกับจอทีวี แต่ต้องการเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานมาเป็นสมาร์ททีวีแทนเพื่อความสะดวก"
ประสิทธิ์กล่าวต่อว่า ความสามารถของสมาร์ททีวีไม่ได้มีแค่รองรับภาพความละเอียดสูง แต่ยังรวมถึงการรองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเว็บ ใช้งานยูทูปเพื่อดูวิดีโอ เล่นไฟล์ภาพยนตร์จากตัวเครื่องได้ทันทีโดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เป็นต้น
"อีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้สมาร์ททีวียังไม่ได้รับความนิยมเนื่องจากราคาของสินค้าที่อยู่ในระดับบน จากราคาในช่วงเกือบ 40,000 บาท ซึ่งเมื่อราคาของสมาร์ททีวีลงมาอยู่ในระดับแมสแล้วจะช่วยผลักดันให้เกิดการซื้อได้แน่นอน"
สำหรับงาน "คอมมาร์ต ซีมาร์ต 2011" จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 - 22 พฤษภาคม 2554 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ที่มา: manager.co.th
