หลังจากเป็นพันธมิตรยาวนานกับไมโครซอฟท์ ล่าสุดฟอร์ด (Ford) ประกาศอย่างเป็นทางการว่ากำลังอยู่ระหว่างการทำงานร่วมกับกูเกิลในการสร้างรถยนต์อัจฉริยะที่สามารถประหยัดพลังงานได้ดีกว่าเดิม โดยระบบจะสามารถทำนายพฤติกรรมผู้ขับขี่และปรับเปลี่ยนการตั้งค่าในรถให้เหมาะสมอย่างอัตโนมัติ
เป้าหมายของความร่วมมือครั้งนี้คือการใช้ระบบเก็บข้อมูลและประมวลผลเทคโนโลยีคลาวด์ (cloud) ในการรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมในอดีตของผู้ขับขี่แล้วประเมินเพื่อพยากรณ์พฤติกรรมการขับขี่ของผู้ขับที่กำลังจะเกิดขึ้น แล้วจึงบริหารจัดการส่วนประกอบในรถผ่านระบบไร้สายให้สอดคล้องกัน เบื้องหลังความสำเร็จนี้คือเทคโนโลยี Google Prediction API ที่ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อปีที่แล้วโดยหน่วยวิจัย Google Labs
นี่ถือเป็นอีกหนึ่งการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Google Prediction API เนื่องจากที่ผ่านมา กูเกิลประชาสัมพันธ์มาตลอดว่าเทคโนโลยีนี้สามารถทำให้เว็บไซต์สามารถแนะนำสินค้าแก่ผู้ชมได้โดยพยากรณ์จากประวัติการใช้งานอินเทอร์เน็ต รวมถึงสามารถคาดการณ์ว่าผู้ใช้จะมีงบประมาณการซื้อสินค้าต่อวันเท่าใด ซึ่งการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์บนท้องถนน ถือว่าเป็นก้าวสำคัญของทั้งฟอร์ดและกูเกิล
สำหรับความร่วมมือครั้งนี้ ฟอร์ดระบุว่าจะนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ในรถยนต์ไฮบริดประหยัดน้ำมันและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยอธิบายว่าหากผู้ใช้ติดเครื่องทุกเช้าในวันทำงาน ระบบจะสามารถทำนายได้ว่านี่คือเวลาที่ผู้ขับกำลังเดินทางไปทำงาน ในวิดีโอสาธิต ระบบสามารถส่งเสียงเพื่อยืนยันว่านี่คือการเดินทางไปสำนักใช่หรือไม่ หากส่งเสียงตอบว่าใช่ ระบบนำทางภายในรถจะตั้งค่าเป็นเส้นทางสู่สำนักงานโดยอัตโนมัติ
ด้วยวิธีการเหล่านี้ ฟอร์ดระบุว่าจะทำให้เครื่องยนต์ไฮบริดสามารถจัดสรรการเผาผลาญพลังงานระหว่างน้ำมันและแบตเตอรีอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด จุดนี้ทำให้ความร่วมมือระหว่างฟอร์ดและกูเกิลนั้นไม่ได้ทับซ้อนความร่วมมือกับไมโครซอฟท์ ซึ่งร่วมกันพัฒนาระบบ Ford Sync โดยระบุว่าระบบของไมโครซอฟท์เป็นการเพิ่มประหสิทธิภาพการขับขี่ ซึ่งเน้นอำนวยความสะดวกแก่ผู้ขับโดยตรงทั้งในเรื่องระบบนำทางและการรับข้อมูลจราจรแบบเรียลไทม์ แต่ระบบของกูเกิลเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดสรรพลังงานในรถ ให้สามารถทำงานได้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด
เบื้องต้น ข้อมูลระบุว่าข้อมูลพฤติกรรมของผู้ขับขี่จะถูกเก็บไว้ในระบบคลาวด์ของกูเกิลซึ่งจะมีการเก็บรวบรวมเมื่อได้รับความยินยอมจากผู้ใช้เท่านั้น โดยฟอร์ดยืนยันว่าไม่มีแผนจะพัฒนาเป็นระบบที่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการขับขี่ เช่นการจำกัดความเร็วในการขับขี่ใดๆ แต่ยอมรับว่ามีแผนจะพัฒนาเป็นโปรแกรมเพื่อรถยนต์ขับขี่ตัวเองตามสไตล์ของผู้ขับ
ขณะนี้ยังไม่มีกำหนดการวางจำหน่ายหรือให้บริการเทคโนโลยีดังกล่าวของฟอร์ดและกูเกิลที่แน่นอน มีเพียงการคาดการณ์ว่าระบบนี้จะเริ่มวางตลาดได้ภายในปี 2015 หรืออีก 4 ปีนับจากนี้
ที่มา: manager.co.th