“ชมพู่” เศร้า รู้ข่าวเด็กเลียนแบบ “เรยา” ด่าแม่จนน้อยใจถึงขั้นกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย แต่เชื่อคงมีสาเหตุอื่นอีก ไม่ใช่แค่ละครเป็นต้นเหตุอย่างเดียว ย้ำ ละครมีเจตนาดีมากกว่ามุ่งร้ายสังคม ลั่น ไม่คิดเสียใจที่ได้เล่นบทนี้ ถ้าต่อไปมีคนกล้าสร้างก็กล้าเล่น ก่อนยัน ไม่คิดชิงดำว่าที่สะใภ้ดีเด่นกับ “อั้ม” พร้อมป้องอั้มตกกระป๋องครอบครัวน็อตไม่ปลื้ม ไม่จริง
ยังคงแรงทั้งละครและฟีดแบคจากสังคม สำหรับละครที่ฮอตในที่สุดในขณะนี้อย่าง “ดอกส้มสีทอง” ที่แม้ตอนนี้จะปรับเปลี่ยนเรทผู้ชมเป็น น.18+ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมร้องขอแล้วก็ตาม แต่ล่าสุดก็มีข่าวลือสะเทือนความรู้สึกออกมาอีกว่า มีเด็กอายุ 14 ปีเลียนแบบพฤติกรรมก้าวร้าวของ “เรยา” ไปด่าทอแม่อย่างหนัก จนแม่น้อยใจถึงขั้นกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย เป็นเหตุให้เรื่องนี้ถูกหยิบขึ้นมาเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอีกระลอก
ล่าสุดได้เจอตัว “ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต” นางเอกผู้สวมบท “เรยา” ที่โดนกระแสอย่างหนักไม่น้อยไปกว่าละคร ในงานบวงสรวงละครเรื่อง “เมียแต่ง” ที่ช่อง 3 หนองแขม เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา ทันทีที่ทราบข่าวเจ้าตัวก็แสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต แต่ยังเชื่อว่าละครเรื่องนี้มีแง่ดีสอดแทรกอยู่ในทุกตอน ตั้งแต่ต้นจนจบ
“กับข่าวนี้ชมก็คงต้องขอแสดงความเสียใจกับทางครอบครัวที่เกิดเรื่องเศร้าขึ้น ก็ไม่รู้จะออกความเห็นยังไง แต่เชื่อว่าทั้งชมและทั้งผู้จัดเจตนาเราดีนะคะ เชื่อว่าอะไรหลายๆ อย่างมันคงมีที่มาที่ไปเยอะ ก็ไม่อยากให้มองว่าเป็นที่เราอย่างเดียว แต่ละครเรื่องนี้ก็มีเรื่องงงๆ เยอะค่ะ ก็โอเค(ยิ้ม) ส่วนที่กระทรวงวัฒนฯ บอกให้ผู้เกี่ยวข้องกับละครไปทำบุญให้ผู้เสียชีวิต จริงๆ ชมก็ทำบุญอยู่แล้วค่ะ ทุกสิ่งทุกอย่างชมเชื่อว่ามันเป็นไปตามเหตุปัจจัยนะคะ มันคงมีปัจจัยอะไรหลายๆ อย่าง ไม่รู้สิ แต่ก็ทำบุญอยู่แล้วค่ะ แต่ที่เขาบอกว่านักแสดงเป็นอาชีพที่สร้างกิเลสให้คนพอสมควร ถ้าเขาไม่ได้รู้จักแยกแยะ จริงๆ ก็ทำตลอดค่ะ เพราะเราก็ถือว่าเราเอามาจากสังคมส่วนนึง”
“ตอนนี้เหลืออีก 4 ตอนก็จะอวสานแล้วค่ะ สำหรับตัวชมตอนนี้ก็ไม่ได้มีอะไรนะคะ เราทำหน้าที่เราจบไปแล้วตั้งแต่ปิดกล้อง ตอนนี้มันก็เป็นเรื่องของฟีดแบคมากกว่า แต่สำหรับตัวเราไม่มีอะไรค่ะ อยู่ที่เดิม แต่ยังไงก็ไม่คิดว่าเราตัดสินใจผิด คิดว่าเราทำดีที่สุดแล้ว ไม่ได้รู้สึกว่าเราทำไม่ดีตรงไหน ก็ยังอยากจะเชื่อมั่นตรงนี้ จริงๆ คนก็เป็นกำลังใจให้เยอะ ก็เลยโอเค ตอนจบมีบทสรุปแน่ๆ แต่ความจริงทุกๆ ตอนมันสอดแทรกในทุกฉาก ทุกๆ คำพูดอยู่แล้ว ไม่ต้องรอถึงตอนจบหรอก ก็อยากให้ดูตอนจบนะ เชื่อว่าได้ทุกตอนค่ะ”
“ถ้ามีบทอย่างนี้อีก ชมว่าจะมีคนกล้าสร้างอีกหรือเปล่า(หัวเราะ) แต่ถ้าท้าทายและคิดว่าเหมาะสม เราเป็นนักแสดงก็ทำได้ เวลาเราเจอโจทย์ที่ท้าทายเราก็อยากทำอยู่แล้ว แต่ถามว่าในการแสดงเราไปถึงขั้นไหน ชมคิดว่าเราเดินทางไปเรื่อยๆ มากกว่า คิดว่าได้รับบทที่ดีๆ ก็ตั้งใจทำให้มันดีก็เท่านั้น”
เจ้าตัวเคลียร์ หลังมีกระแสข่าวเม้าท์ว่าการที่ครอบครัวของหวานใจอย่าง “น็อต วิศรุต รังสีสิงห์พิพัฒน์” เลือกให้มาเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าให้ เหมือนเป็นการการันตีว่าเป็นสะใภ้คนโปรด เขี่ย “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” ตกกระป๋องไม่เป็นความจริง
“หลังงานวันนั้น(เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์)ก็มีงานเลี้ยงต่อค่ะ แล้วภาพที่เห็นยืนอยู่กับคุณแม่(น็อต)ก็ดีค่ะ คุณแม่น่ารัก โอเคค่ะ คุ้นเคยกันประมาณนึง เพราะเวลามันก็ผ่านมาประมาณนึงแล้ว เป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวไหม ก็อาจจะยังไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ เอาเป็นว่าคุ้นเคยกันดีกว่า (เป็นการเปิดตัวว่าที่ลูกสะใภ้หรือเปล่า?) ไม่หรอก แม่เขาบอกพรีเซ็นเตอร์คนใหม่(ยิ้ม) อั้มไม่น้อยใจหรอกค่ะ คุณแม่น่ารักกับทุกคน”
“เรื่องถูกจับตามองว่าชิงดำกับอั้ม ทำไมต้องชิงดำด้วยล่ะ แล้วเรื่องที่ว่าทางครอบครัวน็อตไม่ปลื้มอั้มแล้ว ไม่จริงหรอกค่ะ เพราะจริงๆ ชมว่าทั้งชมทั้งอั้มตอนนี้ยังไม่มีใครอยากจะรีบไปไหนหรอกค่ะ(หัวเราะ) ยังอยากอยู่ตรงนี้ก่อน คงไม่ต้องแย่งกัน ตอนนี้ยังไม่มีแพลนเลย กับอั้มก็มีคุยกันบ้างประปราย แต่ถ้าถึงขั้นไปแฮงค์เอาท์ด้วยกันอาจจะไม่ แต่ถ้านานๆ ทีก็อาจจะมีอัพเดทอะไรกันบ้าง แต่ไม่ถึงกับปรึกษาหรอกค่ะ กับอั้มยังโอเคค่ะ เหมือนเดิม”
ที่มา: manager.co.th