กลายเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ต้องจดบันทึกลงในหน้าประวิติศาสตร์ของวงการหนังบ้านเราว่า "ถูกสั่งห้ามฉาย" หลังจากพระราชบัญญัติภาพยนตร์และวิดีทัศน์ พุทธศักราช 2551 มีผลบังคับใช้ สำหรับภาพยนตร์ไทยเรื่อง "อินเซคทส์อินเดอะแบ็กยาร์ด" (Insects in the Backyard) ภายหลังศาลปกครองได้ยกคำร้อง ไม่คุ้มครองภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวออกมา
"อินเซคทส์อินเดอะแบ็กยาร์ด" เป็นภาพยนตร์สะท้อนปัญหาสังคมบอกเล่าชีวิตของตัวละครที่ต้องพบมาพบเจอกับประสบการณ์อันแปลกประหลาดผ่านตัวละครพี่สาวคนโต "ธัญญ่า" สาวประเภทสอง วัย 35 ปี รวมถึงน้องเขย "จอห์นนี" วัย 15 และน้องสาว "เจนนิเฟอร์" วัย17 ผลงานการกำกับของ "กอล์ฟ ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์"
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ในโครงการ Indy Spirit Project ของนิตยสารไบโอสโคป ออกฉายครั้งแรกในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติแวนคูเวอร์ 2010 และได้รับเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Dragons and Tigers Competition รวมถึงเข้าฉายในเทศกาลภาพยนตร์โลกกรุงเทพ เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนเมื่อปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม หลังการฉายรอบปฐมทัศน์ของ "อินเซคทส์อินเดอะแบ็กยาร์ด" ปรากฏกว่าภาพยนตร์ได้ถูกคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวิดีทัศน์ กระทรวงวัฒนธรรมมีมติสั่งห้ามฉาย โดยให้เหตุผลว่าภาพยนตร์มีเนื้อหาขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน เนื่องจากบางส่วนมีการนำเสนอภาพขององคชาติ การร่วมเพศ และการค้าประเวณี
แม้ต่อมาทางผู้กำกับจะได้ยื่นเรื่องอุทรณ์ไปเพื่อให้คณะกรรมการที่มีนายไตรรงค์ สุวรรณดีรี พิจารณาใหม่ ทว่าทางคณะกรรมการก็ได้มีมติ 13 ต่อ 4 (3 คน งดออกเสียง และอีก 1 คนไม่ลงคะแนน) ยืนยันตามการพิจารณาเดิม นั่นเองที่ทำให้ทางผู้กำกับได้ตัดสินใจที่จะยื่นเรื่องไปที่ศาลปกครองเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่าการทำงานของคณะกรรมการฯ นั้นชอบด้วยรัฐธรรมหรือไม่พร้อมทั้งขอให้มีการคุ้มครองภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการชั่วคราว
"จริงๆ ประเด็นหลักที่เราร้องต่อศาลปกครองนั้นยังต้องรอการตีความของศาลรัฐธรรมนูญอยู่ ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่มีการแจ้งออกมาเลยว่าจะทราบผลเมื่อไหร่" กอล์ฟ ธัญญ์วาริน ผู้กำกับ "อินเซคทส์อินเดอะแบ็กยาร์ด" เผยกับทีมข่าว "Super บันเทิง" ภายหลังเมื่อวันวานที่ผ่านมา(5)ศาลปกครองได้มีคำสั่งยกฟ้องไม่ให้มีการคุ้มครองภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว
ทั้งนี้หากพิจารณากันจริงๆ ส่วนที่คณะกรรมการมองว่าเป็นปัญหาหลักของภาพยนตร์เรื่องนี้นั้นกินระยะเวลาเพียงแค่ 3 วินาทีเท่านั้นโดยเป็นฉากที่มีคลิปหนังโป๊ปรากฏขึ้นมาในจอทีวีแว้บหนึ่ง ซึ่งทางผู้กำกับเองยืนยันว่าสามารถแก้ไขฉากดังกล่าวได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร
"ตัดต่อใหม่ได้ แก้ไขใหม่ได้ หรือว่าเซ็นเซอร์นิดเดียว ทำได้ เพียงแต่เรารู้สึกว่า เอ๊ะ มันมีคลิปหนังโป๊โผล่มาแค่ 3 วินาทีเนี่ย มันจะทำให้หนังทั้งเรื่องถูกตีความถูกพิจารณาว่าเป็นหนังโป๊ไปด้วยเลยจริงหรือ คือสิ่งที่เราฟ้องร้องไปที่ศาลปกครองนั้นมันไม่ใช่เกี่ยวกับหนังเรื่องนี้โดยเฉพาะ แต่มันจะมีผลไปยังการทำงานของคนทำหนังโดยทั่วไปด้วย"
"ก็คือเท่าๆ ที่คุยกับคนอื่นๆ หลายคนก็รู้สึกว่าการทำงานของคณะกรรมการก็น่าจะขัดอยู่นะ มันเหมือนกับเป็นการควบคุมสิทธิเสรีภาพของคนทำหนังโดยตรง เราก็เลยที่จะลองให้ศาลได้ตีความดูว่ามันน่าจะขัดและจะต้องมีการแก้ไขใหม่หรือเปล่า"
คงต้องติดตามกันต่อไปว่าการฟ้องร้องกันในครั้งนี้ เรื่องทั้งหมดจะลงเอยอย่างไร? แต่ทั้งนี้เชื่อได้เลยว่าปัญหาระหว่างคนทำหนังกับคนที่มีหน้าที่กำกับ-พิจารณาควบคุมก็ยังจะคงเกิดขึ้นต่อไปอย่างแน่นอน ตราบใดที่ทั้งสองฝ่ายยังคงมองกันด้วยสายตาคนละมุมมอง
ที่มา: manager.co.th