“ชมพู่” ชิง “อั้ม” คว้าพรีเซ็นเตอร์หลอดไฟของครอบครัว “น็อต-โน้ต” ไปครอง ด้าน “น็อต” รับอั้มมีรายชื่อในพรีเซ็นเตอร์ แต่มาลงตัวที่ชมพู่ ไม่หวั่นอั้มน้อยใจเพราะบริษัทยังมีสินค้าอีกหลายตัว
ทำเอาฮือฮาเลยทีเดียวเมื่อบริษัท เรเซอร์การไฟฟ้า(ประเทศไทย) ของผู้บริหารหนุ่ม “โน้ต วิเศษ - น็อต วิศรุต รังสีสิงห์พิพัฒน์” สองพี่น้องหวานใจ “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” กับ “ชมพู่ อารยา เอฮาร์เก็ต” ตัดสินใจเลือกชมพู่มาเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้า ทำเอาหลายๆ ตั้งข้อสงสัยว่าทำไมอั้ม พัชราภา พลาดตำแหน่งพรีเซ็นเตอร์ได้ไง โดยน็อตก็ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าวว่า...
น็อต : "ตอนแรกมองไกลครับ แต่ตอนหลังเราก็เอ๊ะเราใกล้เกลือกินด่างหรือเปล่า ก็เลยเป็นชมครับ ค่าตัวก็ตามเรทเขาครับ มีส่วนลดนิดหน่อย"
ชมพู่ : "ก็ลดเยอะเหมือนกัน มีทั้งลดทั้งแถม"
น็อต "ก็ไม่ถึงกับป็นอุตสาหกรรมครัวเรือน แต่ก็โอเคใช้อาศัยคอนเนคชั่นส่วนตัวบ้าง เพราะจริงๆ แล้วช่วงนี้ชมก็น่าจะคิวยุ่งน่ะครับ"
เผยไม่ได้เลือก “อั้ม พัชราภา” เป็นพรีเซ็นเตอร์ทั้งที่ใกล้ชิดกับครอบครัวเช่นเดียวกับ “ชมพู่” เพราะเป็นแฟนกับ “โน้ต วิเศษ” น้องชาย “น็อต วิศรุต”
น็อต : "จริงๆ ก็มีชื่ออั้มครับ จริงๆ ในเครือบริษัทเรามีหลายโปรดักส์นะครับ เราก็ไม่รู้อนาคต มันจะเป็นเรื่องของอนาคตครับผม ก็เรามีหลายโปรดักส์หลายโมเดลครับผม (กลัวอีกฝ่ายน้อยใจไหม?)อ๋อ คงไม่มีเรื่องน้อยใจครับ เคลียร์กันได้"
น็อต : "จริงๆ ไม่ได้เป็นการเปิดตัวครับ คือเราก็ไม่ได้ปิดนะครับก็มาเรื่อยๆ แต่อันนี้มันเป็นหมายความว่าก็เป็นสิ่งที่จะต้องเกิดขึ้นในเรื่องของการจัดอีเว้นท์ ก็ตื่นเต้นนิดหน่อย"
“ชมพู่” โดดลงมาช่วยธุรกิจแฟนแบบนี้ หลายๆ คนก็มองว่า คงจะใกล้ได้ฤกษ์แต่งแล้ว
น็อต : "ยังไม่ได้มีคุยกันเรื่องนี้ครับผม ยังไม่มีการวางแผน ณ จุดนี้นะครับก็เดี๋ยวรอให้การงานหรืออะไรมันลงตัวมากกว่านี้ ช่วงนี้ชมก็งานยุ่งมากเลย"
พอจบเรื่องพรีเซ็นเตอร์ “ชมพู่” ก็เผยถึงละคร “ดอกส้มสีทอง” ที่มีกระแสร้อนแรงวิพากษ์วิจาณ์ถึงความไม่เหมาะสมเพราะมีเนื้อหารุนแรงจนกลายเป็นประเด็นสังคม
“ก็มีฟีดแบคกลับมาว่าเล่นจนแบบเกินไป แต่มีหน้าที่ถ่ายทอดแสดงออกไปถ้าเล่นครึ่งๆ กลางๆ ละครคงไม่ประสบความสำเร็จ คนก็คงไม่ซึมซับถึงขนาดนี้ อย่างบทที่เรยาต้องทำกับแม่พูดจาไม่ดีกับแม่ ก็ต้องเล่นให้มันน่าเกลียดที่สุด ทำให้รู้สึกว่ามันเป็นพฤติกรรมที่ไม่น่าเอาเยี่ยงอย่าง”
“จริงๆ โดยส่วนตัวเชื่อในแก่นของละครเรื่องนี้ เจตนาเราดีแล้วมันก็ไม่ใช่ละครน้ำเน่าแต่มันเป็นละครที่สะท้อนภาพความเป็นจริงของสังคม ซึ่งมันเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นในสังคมคนที่เลวกว่าเรยาก็ยังมีอีก แล้วไม่ใช่ว่าจะมีน้อยด้วย”
“เรื่องเมียน้อยเมียหลวงความเหลื่อมล้ำของผู้หญิงกับผู้ชายในสังคมแบบนี้มันมีมานานแล้วไม่ใช่เรื่องใหม่ นี่คือภาพความเป็นจริง สำหรับคนที่รับไม่ได้ก็อยากจะบอกว่า เราแค่เพียงจะสะท้อนความจริงออกมาเท่านั้น ส่วนคนที่ชื่นชมและเข้าใจก็ขอบคุณ ตอนนี้มีคนให้กำลังใจตลอดมีเพื่อนๆ ส่งข่าวมาให้กำลังใจตลอดนักแสดงที่เล่นด้วยกันก็มีแต่คนแบบว่า ชมเป็นอย่างไรบ้างเห็นเรยาโดนอยู่คนเดียวแต่จริงๆ ชิลล์ค่ะ”
สำหรับผลกระทบละครเรื่องนี้ที่ว่ากันว่าอาจสะเทือนถึงสัมปทานช่อง 3 นั้น “ชมพู่” ยกให้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่
“ก็มองว่าเดียวมันก็ผ่านไปเรื่องนี้ก็ไม่อยากจะอะไรมากเพราะมันก็เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ ก็อย่างที่บอกค่อนข้างเซอร์ไพรส์ที่ละครมาไกลถึงขนาดนี้ละคร แต่ก็เอาเถอะรอดูกันต่อไป หน้าที่ชมจบไปแล้ว”
“ส่วนที่มีข่าวว่าท่านรัฐมนตรีที่ต้อบเล่นเรื่องนี้นั้น จริงๆ ชมยังไม่ได้ตามข่าว แต่ก็เอาเป็นว่าถ้ามีใครเห็นถึงความทุ่มเทก็ของเราก็ขอบคุณ ที่ตระหนักถึงตรงนี้”
เผยเหตุที่ไปออกรายการ “เรื่องเด่นเย็นนี้” นี้ว่า เป็นมุมหนึ่งของนักแสดง
“มันก็เป็นมุมมองของนักแสดงหลังจากมีเรื่องมีราวเกิดขึ้น ก็มีหลายๆ ส่วนออกมาพูดอย่างคนเขียนบทหลายๆ คนเลยเวียนกันออกรายการชุดใหญ่ ที่ไปออกมันก็เป็นมุมมองของชมในการร่วมงานบอร์ดคาซท์ เราเห็นถึงความตั้งใจของผู้จัดเห็นความตั้งใจของคนเขียนบท ซึ่งเราก็พยายามถ่ายทอดออกมา อยากจะบอกกับคนที่ดูละครเรื่องนี้ใครก็ตามที่คิดจะเป็นเมียน้อย ใครที่กำลังจะเดินผิดทาง ลองดูละครเรื่องนี้มันอาจเป็นแรงบันดาลใจหรืออาจเป็นอะไรเล็กๆ ให้ฉุกคิดว่า เออการกินน้ำใต้ศอกมันเป็นยังไง แล้วมันต้องแลกด้วยอะไร”
“เรยาไม่มีความสุขเลยอยากจะถ่ายทอดความรู้สึกนี้ ส่วนคุณผู้ชายที่กำลังจะไปทางนี้เหมือนกั นก็อยากจะให้เห็นถึงความวุ่นวายที่คุณจะต้องเจอมันคืออะไร คือมันทุกข์แบบยาวๆ เลยและต้องรับผิดชอบอะไรอีกเยอะ แล้วต้องทำให้คนเสียใจเท่าไหร่ จริงๆนี่คือแก่นแท้ของละครเลย”
ที่มา: manager.co.th