"เครื่องส่งจูบ" ญี่ปุ่นทำได้!!

[Nick]

ลักษณะการทำงานของ Kiss Transmission Device เครื่องส่งจูบที่มีเป้าหมายเพื่อทำงานบนระบบอินเทอร์เน็ต

นักวิจัยญี่ปุ่นโชว์ตัวเครื่องมือในฝันของหนุ่มสาวคู่รักที่อาศัยอยู่ไกลกัน แจ้งเกิด "Kiss Transmission Device" อุปกรณ์ที่ถูกการันตีว่าสามารถส่งจูบข้ามเครือข่ายดิจิตอลได้ตามชื่อ มั่นใจผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์ใหม่ที่ไม่เคยปรากฏในสไกป์หรือบริการสื่อสารทางไกลใดๆมาก่อน
       
       ต้นแบบ "Kiss Transmission Device" หรือเครื่องส่งจูบนั้นมาในรูปแบบอุปกรณ์ที่มีแท่งพลาสติกคล้ายหลอด จากวิดีโอสาธิต การส่งจูบจะเริ่มโดยต้นทาง"ควงสว่าน"หรือหมุนลิ้นไปรอบหลอดพลาสติก จากนั้นระบบจะแปลงสัญญาณและลักษณะการหมุนไปยังเครื่องรับปลายทาง ทำให้หลอดแสดงการหมุนในรูปแบบที่ต้นทางทำไว้ เมื่อผู้ใช้ปลายทางวางลิ้นไว้บนแท่งพลาสติก ก็จะสามารถรับทราบถึงการเคลื่อนไหวที่ต้นทางส่งมา
       
       สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ระบบสามารถจำแนกทิศทางการหมุนของหลอด เช่นไปทางด้านตามเข็มหรือทวนเข็มนาฬิกา รวมถึงจังหวะหยุดหรือเริ่มหมุน ซึ่งเหล่านี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการจำลองส่ง"จูบแบบฝรั่งเศส"ผ่านอินเทอร์เน็ต
       
       โนบุฮิโร ทากาฮาชิ นักศึกษามหาวิทยาลัยการสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ หรือ University of Electro-Communications ในกรุงโตเกียว ให้สัมภาษณ์กับรายการ DigInfo TV ระบุว่าระบบส่งจูบทางไกลนี้พัฒนาขึ้นบนหลักการรับและส่งข้อมูลจากต้นทางและปลายทางที่เป็นอุปกรณ์เครื่องจักรกล
       
       ทากาฮาชิให้สัมภาษณ์ว่า การพัฒนาในเบื้องต้นยังจำกัดที่การต้องใช้คอมพิวเตอร์ 1 เครื่องควบคุมในระยใกล้ เป้าหมายของการพัฒนาในอนาคตคือการควบคุมผ่านเครือข่ายระยะไกล รวมถึงการสร้างองค์ประกอบ"จำลองจูบ"ที่เหมือนจริงยิ่งขึ้น ทั้งรสจูบ ลักษณะการหายใจ และความชื้นของลิ้น
       
       "หากเราสามารถสร้างองค์ประกอบเหล่านี้ได้ ผมคิดว่านี่คืออุปกรณ์ที่จะมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง" ทากาฮาชิกล่าวโดยไม่พูดถึงการส่งกลิ่นปากทางไกล
       
       แม้ Kiss Transmission Device จะถูกมองว่าเป็นอุปกรณ์ที่ทำให้คู่รักสามารถสื่อสารกันได้อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้นกว่าการสนทนาผ่านวิดีโอแชต แต่ตัวทากาฮาชิมองในประเด็นเชิงพาณิชย์มากกว่านั้น โดยมองว่าหากผู้มีชื่อเสียงเช่นนักร้องนักแสดงหรือเซเลบสามารถส่งจูบให้กลุ่มแฟนคลับ อุปกรณ์นี้จะยิ่งได้รับความนิยมมากในวงกว้าง
       
       ...ถึงวันนั้น ไม่รู้ว่ากระทรวงวัฒนธรรมบ้านเราจะว่าอย่างไรบ้าง...

<a href="https://www.youtube.com/watch?v=PspagsTFvlg" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=PspagsTFvlg</a>

ที่มา: manager.co.th